6 เทคนิคฝึกลูกรักการอ่าน
ที่มา : นิตยสาร Modern Mom
หลังจากที่ทราบผลสำรวจเรื่องการอ่านในบ้านเรา ผลที่ออกมาช็อกคนไทยไม่น้อย ว่าคนไทยกลับอ่านหนังสือเฉลี่ยปีละไม่เกิน 10 เล่ม ทั้งที่ผลวิจัยจากต่างประเทศก็ชี้ชัดอยู่ว่า การอ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกวัน เพียง 5-15 นาที ทำให้สมองของเด็กวัย 3 ปีแรกพัฒนาถึง 70 %
นอกจากนี้การอ่านยังเป็นการสร้างจินตนาการที่สำคัญ แถมยังเป็นประตูสู่โลกกว้างสำหรับเจ้าตัวเล็กอีกด้วย มาส่งเสริมลูกให้รักการอ่านกันเถอะ
6 เทคนิคง่ายๆ ฝึกลูกรักการอ่าน
1. การอ่านหนังสือให้ลูกฟังบ่อยๆ เป็นการปลูกฝังความรักต่อหนังสือและการอ่านที่ดีไม่น้อย โดยเฉพาะการอ่านนิทาน ที่คุณสามารถเสริมจินตนาการด้วยท่าทาง น้ำเสียง ซึ่งทำให้เรื่องราวมีความน่าสนใจและสนุกยิ่งขึ้น ก็จะยิ่งทำให้การอ่านเข้าไปอยู่ในใจของลูกได้ไม่ยาก
2. สังเกตว่าลูกชอบหรือสนใจสิ่งใดหรือเรื่องใดเป็นพิเศษ แล้วเชื่อมโยงเข้ากับการอ่าน โดยหาหนังสือที่มีเรื่องราวหรือสิ่งของที่ลูกชอบมาให้ นอกจากความประทับใจแล้ว ยังอาจสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกได้อีกทาง
3. สอดแทรกการอ่านเข้ากับกิจวัตรประจำวัน เช่น การชี้ชวนให้ลูกอ่านป้าย ฉลากบนบรรจุภัณฑ์ กระทั่งเมนูอาหาร ขณะที่ออกไปทานข้าวนอกบ้านก็ยังได้
4. บรรยากาศแห่งการอ่านสร้างได้ โดยเลือกมุมใดมุมหนึ่งของบ้าน จัดเป็นมุมหนังสือ มีหนังสือหลากหลายแบบให้ลูกเลือกอ่านหรือเพื่อให้คุณอ่านให้ฟัง ซึ่งควรวางอยู่ในที่ที่ลูกเห็นและสามารถหยิบเองได้ เป็นอีกมุมกิจกรรมที่ควรมีเก้าอี้หรือโซฟานั่งสบายสำหรับเอนหลังชวนกันอ่าน
5. การพาลูกไปเลือกซื้อหนังสือเล่มโปรดด้วยตัวเอง เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่สร้างการมีส่วนร่วม และเข้ากับพัฒนาการของเด็กวัยนี้ที่เริ่มเป็นตัวของตัวเอง นอกจากร้านหนังสือแล้ว อาจพาลูกเข้าห้องสมุดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อซึมซับบรรยากาศแห่งการอ่าน
6. อ่านผ่านการเล่น นี่เป็นอีกวิธีที่ได้ทั้งความสนุกและการเรียนรู้ อาจะเป็นการทายคำ หาคำจากภาพ หรือจับคู่คำกับภาพที่เห็นก็ได้ โดยเป็นคำง่ายๆ ที่ใช้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน
อย่าลืมว่า ! ! ! คุณคือบุคคลสำคัญ ที่มีอิทธิพลต่อการอ่านของลูก นอกจากเทคนิคต่างๆ แล้ว การเป็นแบบอย่างของหนอนหนังสือสามารถส่งผ่านไปถึงลูกได้ ผ่านการกระทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ลูกนั่นเองค่ะ
เลือกหนังสือให้เจ้าตัวเล็กวัย 1-3 ปี
สำหรับเด็กวัยนี้ ยังมีความสนใจหนังสือนิทาน ที่มีภาพและสีสันสดใส ซึ่งดึงดูดใจเป็นอย่างดี อาจมีตัวหนังสือบ้าง แต่ไม่มากนัก และอาจมีหลายแบบ ทั้งแบบที่มีเสียง มีผิวสัมผัสที่หลากหลาย มีลักษณะของป๊อบอัพ มีกลิ่น หรือเป็นหนังสือแบบเรืองแสง ก็จะยิ่งเพิ่มความตื่นตาได้มากขึ้น
Concern
♥ มุมสำหรับอ่านหนังสือไม่ควรมีสิ่งอื่นที่ดึงดูดความสนใจของลูก อย่างวิทยุ ทีวี หรือคอมพิวเตอร์ เนื่องจากสิ่งของเหล่านี้ป็นอุปสรรคสำคัญในการอ่าน
♥ ฝึกลูกรักการอ่านเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยเวลา และเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่าคาดหวังว่าลูกจะกลายเป็นเด็กรักการอ่านในเร็ววัน เพราะนั่นเท่ากับเป็นการกดดันลูกโดยที่คุณไม่รู้ตัว
Tips
♥ เริ่มการอ่านด้วยการอ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกวัน วันละนิด แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาเมื่อลูกเริ่มเปิดรับ
♥ บรรยากาศการอ่าน ที่นอกจากจะสนุกและตื่นเต้นแล้ว หากมีอุปกรณ์ใกล้ตัวที่สามารถนำมาใช้ในการอ่านนิทานให้ลูกฟังได้ ก็จะเพิ่มอรรถรสให้เรื่องน่าสนใจมากขึ้น
ความสุข ของฉัน
โดย...One Muslimah
ความสุข ของฉัน คือการอ่าน | จะที่บ้าน ที่นี่ หรือที่ไหน |
ด้วยความหวัง “กุรอาน” คือเพื่อนใจ | คือสหาย มิตรแท้ ทุกเวลา |
ความสุขของ ฉันคือ การได้เขียน | การพากเพียร เรียนรู้ ใฝ่ศึกษา |
ด้วยความหวัง เรียนเพื่อรู้ สู่ตักวา | เพื่อนำพา หัวใจ ใฝ่ภักดี |
ความสุขของ ฉันคือ การได้ฟัง | สิ่งต่างๆ คำตักเตือน จากน้องพี่ |
“กุรอาน” สัจธรรม นำความดี | ฟังอย่างมี สติ คิดครวญใคร่ |
ความสุขของ ฉันคือ การเป็นบ่าว | การรู้จัก พระเจ้า ผู้ยิ่งใหญ่ |
สุขของฉัน คือสุญูด สุดหัวใจ | คือละอาย คือยำเกรง คืออดทน |
สุขของฉัน คืออิสลาม ตามนบี | คือสันติ ตามวิถี มิสับสน |
ฉันชอบฟัง เสียงอาซาน ผ่านกมล | เสียงเรียกร้อง ผู้คน สู่ความดี |
สุขของฉัน คือการเห็น เราทั้งผอง | ต่างปรองดอง สมานรัก สามัคคี |
สุขของเรา คือศรัทธา มั่นความดี | คือคำว่า…ลาอิลาฮ่าอิ้ลลัลลอฮฺ |
♥.♥.♥.♥.♥.♥.♥.♥.♥.♥.♥.♥.♥.♥