ความประเสริฐของคอลีฟะห์ทั้งสี่ท่าน
  จำนวนคนเข้าชม  17847

ความประเสริฐของคอลีฟะห์ทั้งสี่ท่าน


แปลและเรียบเรียงโดย อบูชีส


        ฮะดิษบางส่วนที่ยืนยันในฮะดิษของอิหม่ามมุสลิม แสดงถึงความบริสุทธิ์ผุดผ่องและความประเสริฐของคอลีฟะห์ทั้งสี่ท่าน ที่ท่านนบี ได้รับรองถึงท่านทั้งสี่ไว้ว่า ให้ยึดซุนนะห์ของฉันและซุนนะห์ของคอลีฟะห์ผู้ทรงคุณธรรม และยึดมันไว้ด้วยฟันกรามนั้นก็คือ ท่านอบูบักร์ ท่านอุมัร ท่านอุสมาน และท่านอาลี

 

การรับรองของท่านนบี แก่ท่านอบูบักร์ ร่อฏิยัลลอฮู่อันฮู่


"لاًأبا بكر خليإن الله تعالى قد اتخذني خليلاً كما اتخذ إبراهيم خليلاً، ولو كنت متخذاً من أمتي خليلاً لاتخذت " متفق عليه

"แท้จริงอัลลอฮ์ตะอาลา ได้ยึดเอาฉันเป็นคนรัก ดั่งที่ได้ยึดท่านนบี อิบรอฮีม เป็นคนรัก

หากแม้นว่าฉันจะยึดเอาใครสักคนจากอุมมะห์ของฉันเป็นคน ฉันก็จะยึดเอาอบูบักรเป็นคนรัก"

อธิบาย

           ฮะดิษบทนี้ได้ยืนยันว่าท่านนบี ได้กล่าวถึงสิ่งที่อยู่ในจิตใจที่อ่อนโยนของท่าน จากความรักที่มีให้แก่ท่านอบูบักรอย่างสุดซึ้ง และต้องการประกาศให้รู้ถึงบุคคลที่ท่านนั้นรักมากที่สุด ดังที่ท่านนบี กล่าวไว้ว่า (เมื่อท่านรักใครก็จงบอกให้เขารู้) และนี่คือตัวอย่างจากคำสอนของท่านนบี และเป็นแบบอย่างแห่งการรักกันเพื่ออัลลอฮ์อย่างแท้จริง


كم اليوم من أصبح منكم اليوم صائما قال أبو بكر أنا قال فمن تبع منكم اليوم جنازة قال أبو بكر أنا قال فمن اطعم منلم ما اجتمعن صلى الله عليه وس مسكينا قال أبو بكر انا قال فمن عاد منكم اليوم مريضا قال أبو بكر أنا فقال رسول اللهفي امرئ الا دخل الجنة


ท่านนบี ถามว่า วันนี้ใครที่ทำการถือศีลอด

ท่านอบูบักรกล่าวว่า ฉัน

และถามอีกว่า ใครตามไปส่งญะนาซะห์บ้างวันนี้

ท่านอบูบักร กล่าวว่า ฉัน

และท่านถามอีกว่า ใครแจกจ่ายอาหารให้คนยากจนบ้าง

ท่านอบูบักรกล่าวว่า ฉัน

และท่านก็ถามอีกว่า ใครไปเยี่ยมคนป่วยบ้าง

ท่านอบูบักรกล่าวว่า ฉัน

และท่านร่อซูล  จึงกล่าวว่า ไม่มีใครที่การงานดังที่กล่าวมาทั้งหมดรวมอยู่ในตัวเขา เว้นแต่เขาจะได้เข้าสวรรค์

อธิบาย

        จากฮะดิษบทนี้ท่านนบี  ต้องการชี้ให้เราเห็นถึงคุณลักษณะของชาวสวรรค์ โดยผ่านแบบอย่างจากคนที่ท่านรักมากที่สุด นั่นก็คือ อบูบักร อัศศิดดีก ร่อฏิยัลลอฮุอันฮู่

 

การรับรองของท่านนบี แก่ท่าน อุมัร บุตรของค็อฏฏอบ ร่อฏิยัลลอฮู่อันฮู่


اللهم أعز الإسلام بعمر بن الخطاب :وقوله  الألباني وصححه ابن ماجه رواه


ท่านนบี ได้กล่าวว่า

" โอ้อัลลอฮ์ โปรดให้อิสลามสูงส่งด้วยกับอุมัร บุตรของ ค็อฏฏอบ ด้วยเถิด"

อธิบาย

         ฮะดิษบทนี้ ท่านนบี  ได้ขอดุอาจากอัลลอฮ์  ให้อัลลอฮ์ ให้ทางนำแก่ท่านอุมัร เป็นการเฉพาะ และให้การเข้ารับอิสลามของท่านอุมัรนั้นเป็นผลดีต่ออัลอิสลาม จากความกล้าหาญที่ท่านนบี ได้เล็งเห็นในตัวท่านอุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ่


"قبلكم محدثون، فإن يكن في أمتي منهم أحد فإن عمر بن الخطاب منهم قد كان يكون في الأمم"  متفق عليه


"แน่นอนว่าประชาชาติก่อนหน้าสูเจ้านั้นมีบรรดาผู้ที่ได้รับ การดลใจ(ให้พูดแต่ความถูกต้อง)

และไม่มีคนใดในอุมมะห์ของฉันนี้ แต่อุมัรเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น"

อธิบาย

          ฮะดิษบทนี้ เป็นความโปรดปรานจากอัลลอฮ์ ที่ได้ประทานให้แก่ท่านอุมัร ที่ท่านนั้นเป็นคนพูดจริงทำจริง เป็นบุคคลที่ได้รับดารดลใจจากอัลลอฮ์ ดังที่ท่านนบี  ได้กล่าวรับรองเอาไว้ และถือว่าเป็นผู้ที่มีความเด็ดขาดและเด็ดเดี่ยวที่สุดในซอฮาบะห์ของท่านนบี

 

การรับรองของท่านนบี  แก่ท่าน อุสมาน บุตรของ อัฟฟาน ร่อฏิยัลลอฮุอันฮู่


      "ألا أستحيي من رجل تستحيي منه الملائكة"   رواه مسلم


ท่านนบี  กล่าวว่า

"จะไม่ให้ฉันอายคนที่แม้กระทั่งมะลาอิกะห์อายเขากระนั้นหรือ?"

อธิบาย

         ฮะดิษนี้เป็นเป็นการชื่นชมและยกย่องจากท่านนบี แก่ท่านอุสมานว่า ท่านนั้นเป็นคนที่มีความละอายเป็นอย่างมาก แม้กระทั้งมลาอิกะห์ยังละอายต่อท่านเลย ถึงแม้ว่าท่านจะมีความละอายเพียงใดก็ตาม แต่ในด้านสัจธรรมนั้นท่านเป็นผู้ที่มีความเด็ดเดี่ยวเป็นอย่างยิ่ง


وروى أحمد بإسنادٍ جيد عن أبي هريرة رضي الله عنه قال: إنّي سمعت رسول الله صلى الله عليه وسلم يقول:

إنّكم تلقون بعدي فتنةً واختلافاً أو قال اختلافاً وفتنة - فقال قائل من الناس: فمن لنا يا رسول الله؟ قال: عليكم بالأمين وأصحابه، وهو يشير

إلى عثمان بذلك

จากรายงานของอิหม่ามอะห์มัด เป็นสายรายงานที่ดี จากอบูฮุรอยเราะห์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮู่ แท้จริงฉันได้ยินท่านร่อซูล กล่าวว่า

"พวกท่านทั้งหลายจะได้พบกับฟิตนะห์และความขัดแย้งหลังจากฉันเสียชีวิต (หรือท่านกล่าวว่า ความขัดแย้งและฟิตนะห์)

คนหนึ่งจึงกล่าวขึ้นมาว่า แล้วจะมีใครในหมู่พวกเราล่ะ (ที่จะมาตัดสิน) ?

ท่านนบี  จึงกล่าวว่า พวกท่านจงยึดผู้สัจจริงและพลพรรคของเขา โดยที่ท่านชี้ไปยังท่านอุสมาน"

อธิบาย

        ฮะดิษนี้ท่านนบี  ได้รับรองการเป็นผู้นำของท่านอุสมานต่อหน้าบรรดาเหล่าซ่อฮาบะห์ทั้งหลายให้ทราบถึงผู้ที่ยึดมันในแบบฉบับของท่านนบีมากที่สุด และเป็นผู้ที่สามารถไกล่เกลี่ยปัญหาต่างๆหลังจากท่านนั้นจากโลกดุนยาแห่งนี้ไป

 

การรับรองของท่านนบี แก่ท่านอาลี บุตรของอบูฏอลิบ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮู่


ا رَسُولَ اللَّهِ فَقَالَ يَسَعْدِ بْنِ أَبِي وَقَّاصٍ، قَالَ خَلَّفَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم عَلِيَّ بْنَ أَبِي طَالِبٍ فِي غَزْوَةِ تَبُوكَ عَنْ تُخَلِّفُنِي فِي النِّسَاءِ وَالْصِّبْيَانِ فَقَالَ

هَارُونَ مِنْ مُوسَى غَيْرَ أَنَّهُ لاَ نَبِيَّ بَعْدِي أَمَا تَرْضَى أَنْ تَكُونَ مِنِّي بِمَنْزِلَةِ "".


จากสะอ์ด บุตรของวักกอซ กล่าวว่า ท่านนบี  ให้ท่านอาลีดูแลผู้หญิงและเด็กในสงครามตะบูก

ท่านอาลีจึงกล่าวว่า "โอ้ ร่อซูลลุลลอฮ์ ท่านจะปล่อยให้ฉันดูแลผู้หญิงและเด็ก(ที่นี่โดยไม่ให้ออกรบกระนั้นหรือ) "

ท่านนบี กล่าวว่า "ท่านไม่พอใจหรือ ในการที่ท่านจะมีตำแหน่งจากฉันเหมือนกับตำแหน่งของฮารูนกับมูซา เพียงแต่ว่าจะไม่มีนบีคนใดหลังจากฉันก็เท่านั้น"

อธิบาย

        ฮะดิษบทนี้ ท่านนบี ชี้ให้เราเห็นถึงความรักต่อและการให้เกียรติต่อท่านอาลี ดังทีท่านนบีมูซาได้มอบให้แก่ท่านนบีฮารูน เพราะผู้ที่มีพละกำลังนั้นออกรบกันหมด และท่านนบี เห็นถึงอามานะห์ที่ดีเยี่ยมของท่านอาลี ในทุกๆด้าน ท่านนบี  จึงใช้ให้ท่านอาลีอยู่ดูแล เด็ก สตรีและคนชรา ในขณะที่ท่านไม่อยู่ และคำสั่งในลักษณะนี้ไม่ได้จำกัดเพียงเฉพาะท่านอาลี เท่านั้น ท่านอับดุลลอฮ์ อิบนิ มักตูม ท่านก็ได้รับคำสั่งนี้ ท่านอุสมาน และอีกหลายๆท่าน แต่ท่านอาลี เป็นผู้ที่มีพละกำลังความสามารถและอยากรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านนบี ท่านจึงรู้สึกไม่สบายใจนักที่จะนั่งรออยู่ที่เมืองมะดีนะห์ และท่านนบี  จึงปลอบใจท่านอาลีโดยกล่าวว่า

"ท่านไม่พอใจหรือ ในการที่ท่านจะมีตำแหน่งจากฉันเหมือนกับตำแหน่งของฮารูนกับมูซา เพียงแต่ว่าจะไม่มีนบีคนใดหลังจากฉันก็เท่านั้น "

หมายถึงการที่ท่านนบีมูซาได้มอบหมายให้ท่านนบีฮารูนดูแลกลุ่มชนของท่านในขณะที่ท่านไม่อยู่นั่นเอง


لي فقال: من :كنا بلجحفة بغدير خم إذ خرج علينا رسول الله صلى الله عليه وسلم فأخذ بيد عقالعن جابر بن عبد الله كنت مولاه فعلي مولاه.

จากญาบิร บุตรของอับดุลลอฮ์ กล่าวว่า ขณะที่เราอยู่ตำบลญุฮ์ฟะห์ ที่บ่อน้ำแห่งหนึ่ง ท่านร่อซูล ได้จับมือท่านอาลี พร้อมกับกล่าวว่า

"ใครที่ฉันเป็นคนรักของเขา อาลีก็เป็นคนรักของเขาด้วยเช่นกัน"

อธิบาย

         จากฮะดิษบทนี้ท่านนบี ต้องการให้เหล่าซอฮาบะห์ มีความรักในตัวท่านอาลี เหมือนดั่งที่ท่านนบี  นั้นได้รักในตัวท่านอาลี และปกป้องท่านอาลี เพราะในประวัติศาสตร์นั้นได้มีบุคคลหนึ่งโกรธเคืองท่านอาลี และตำหนิท่านอาลี ท่านนบี จึงกล่าวถ้อยคำนี้ เพื่อเป็นการปกป้องในตัวท่านอาลี ที่เป็นที่รักของท่านนบี นั่นเอง

 

 

วัลลอฮุอะอลัม