สาเหตุทำให้ผู้คนต้องเข้านรกมากที่สุด
โดย อาจารย์ ดาวุด สันติวิไลพร
ท่านผู้ฟังที่เคารพ พวกเราจงขอบคุณต่อ อัลเลาะห์ และจงยำเกรงต่อ อัลเลาะห์ อย่างแท้จริงเถิด โดยการกระทำในสิ่งที่ อัลเลาะห์ โปรดปราน และละเว้นสิ่งที่ อัลเลาะห์ ทรงห้ามไว้ เพื่อเราจะได้ เป็นมนุษย์ที่ยำเกรง และศรัทธาต่อ อัลเลาะห์ เพื่อเป็นผู้มีความสงบสุขในโลกนี้และโลกหน้า
ท่านผู้ฟังที่เคารพ ในฐานะที่เราทุกคนเป็นบ่าวของอัลเลาะห์ เราจะต้องรู้คุณในความโปรดปรานต่าง ๆ ที่พระองค์ประทานให้แก่เรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่อยู่ในตัวของเรา ซึ่งถือเป็นความโปรดปรานที่ใกล้ตัวที่สุด แต่น่าเสียดายว่า บางครั้งเรามองข้ามความโปรดปรานที่พระองค์สร้างไว้ในตัวเรา เราลืมพินิจพิเคราะห์ เราลืมพิจารณา โดยเห็นว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา
คนเรามักคิดว่า การเกิดมามีอวัยวะครบถ้วนสมบูรณ์นั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่ใคร ๆ เขาก็มีกันทั้งนั้น จนลืมนึกถึงความยิ่งใหญ่และ ความเดชานุภาพของผู้สร้างไปเสียสนิท ด้วยเราไม่เคยสังเกตว่า อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายของเรา ตลอดจนระบบต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกนั้น มีความแยบยลในการทำหน้าที่ของมัน และมีความสมดุลอย่างน่าอัศจรรย์อย่างไร ? ตราบจนวันหนึ่ง เราพบว่าอวัยวะในร่างกายเริ่มบกพร่อง สูญเสียความสามารถบางประการ หูเริ่มตึง ตาเริ่มฝ้าฟาง เราจึงเริ่มสำนึกในคุณค่าของอวัยวะเหล่านั้น
พระองค์ได้ทรงตรัสถึงความจริง ในซูเราะห์อัซซาริยาต اَلذَّارِيَاتُ โองการที่ ๒๑ ว่า
وَفِىْ أَنْفُسِكُمْ أَفَلاَ تُبْصِرُوْنَ
“ และในตัวของพวกเจ้าเอง พวกเจ้าไม่เห็น (ความเดชานุภาพของอัลเลาะห์) ดอกหรือ ? ”
ในฐานะที่เราเป็นมุสลิม เป็นบ่าวผู้ภักดีต่ออัลเลาะห์ เป็นบ่าวผู้เชื่อมั่นศรัทธาต่อพระองค์อย่างแท้จริง จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่พระองค์ได้สร้างเราขึ้นมาให้มีร่างกายครบถ้วนสมบูรณ์ สมรูปสมร่าง มีความสง่างาม ต่างจากสัตว์โลกอื่นทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสติปัญญา ที่มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง อัลเลาะห์ทรงยืนยันเรื่องนี้ไว้ในซูเราะห์อัตตีน اَلتِّيْنُ โองการที่ ๔ ว่า
لَقَدْ خَلَقْنَا اْلإِنْسَانَ فِىْ أَحْسَنِ تَقْوِيْمٍ
“ขอยืนยันว่า เราได้สร้างมนุษย์มาในรูปทรงที่งดงามยิ่ง”
โองการดังกล่าว บอกเราอย่างชัดเจนว่า มนุษย์ได้รับเกียรติจากอัลเลาะห์ ด้วยการที่พระองค์ทรงสร้างให้มีรูปร่างสง่างาม หน้าที่ของเราก็คือ จะต้องรับผิดชอบการบัญชาการของอวัยวะในเรือนร่างของเรา ให้ทำหน้าที่อย่างถูกต้องตามที่อัลเลาะห์กำหนด อวัยวะหนึ่งที่เราจะต้องใส่ใจและดูแลเป็นพิเศษก็คือ “ลิ้น” ซึ่งถือว่าเป็นอวัยวะหนึ่งที่สำคัญที่สุดของคนเรา เพราะนอกจากมันจะเป็นตัวรับรู้รสอาหารแล้ว มันยังเป็นอวัยวะหลักที่ใช้ในการออกเสียง คำพูดต่าง ๆ อีกด้วย ดังนั้นหากคนเราไม่มีลิ้น ก็คงหมดสิทธิ์ในเรื่องรับรู้ความเอร็ดอร่อย ในการรับประทานอาหาร และจะสื่อภาษากันไม่รู้เรื่องอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้เอง “ลิ้น” จึงมีความสำคัญมาก เราจึงต้องระมัดระวังการใช้มันอย่างพิถีพิถัน ห้ามเผลอแม้แต่นิดเดียว
มีผู้ถามท่านนบี ว่า อะไรเป็นสาเหตุทำให้ผู้คนต้องเข้านรกมากที่สุด ?
ท่านตอบว่า อวัยวะ ๒ อย่าง คือ ลิ้นและอวัยวะเพศ
จากฮะดีษดังกล่าวบอกให้เรารูว่า การใช้ลิ้นไปในทางที่ผิด เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผู้คนต้องเข้านรก ในสังคมของเรานั้น หลายคนใช้ลิ้นการนินทา ใส่ร้าย ยุแหย่ให้คนทะเลาะกัน พูดจาทิ่มแทงคนอื่น โกหกหลอกลวง พูดจาดูถูกเหยียดหยาม โอ้อวด และอีกมากมายสารพัด ที่ลิ้นถูกใช้งานไปในทางที่เสียหาย มันจึงเป็นเหตุพาเจ้าของมันลงนรก ในทางตรงกันข้าม หากเราใช้ลิ้นไปในทางที่ถูก ในทางที่เป็นความดี เช่น ใช้ตักเตือนกันให้ทำความดี ออกห่างไกลจากความชั่ว พูดจาไพเราะอ่อนหวาน ไม่ดูถูกเหยียดหยามใคร พูดแต่สิ่งที่ดีมีประโยชน์ ลิ้นก็เป็นเหตุให้เจ้าของได้ขึ้นสวรรค์
ในหลักการอิสลามนั้น ก่อนที่จะพูดสิ่งใดออกไป ให้ตรึกตรองก่อน ว่าสิ่งที่จะพูดออกไปนั้นมันเป็นอย่างไร หากมีผลดีก็ให้พูด หากมีผลเสียก็ไม่ต้องพูด และหากมีผลก้ำกึ่งกัน ก็ให้ระงับเสีย เพราะคำพูดที่ดีจะทำให้ได้รับการตอบแทนที่ดีงามจากอัลเลาะห์ และยังเป็นหลักประกันในการศรัทธา
ท่านนบี ได้กล่าวว่า
مَنْ كَانَ يُؤْمِنُ بِاللهِ وَاْليَوْمِ الآخِرِ فَلْيَقُلْ خَيْرًا أَوْ لِيَصْمُتْ
“ผู้ใดอีหม่านต่ออัลเลาะห์และวันอาคิเราะห์ เขาจงพูดแต่สิ่งดี ๆ หากมิเช่นนั้นก็จงอย่าพูด”
คำพูดที่ดีอาจจะดีกว่าการบริจาคทานบางอย่างเสียอีก อัลเลาะห์ ทรงดำรัสไว้ในซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ اَلْبَقَرَةُ โองการที่ ๒๖๓ ว่า
قَوْلٌ مَعْرُوْفٌ وَمَغْفِرَةٌ خَيْرٌ مِنْ صَدَقَةٍ يَنْبَعُهَا أَذًى وَاللهُ غَنِيٌّ حَلِيْمٌ
“คำพูดที่ดีและการให้อภัยนั้น ดียิ่งกว่าการทำทานที่ก่อความเดือดร้อนติดตามมา และอัลเลาะห์นั้นเป็นผู้ทรงมั่งคั่ง และหนักแน่นยิ่ง”
หมายถึง การทำทานที่ติดตามด้วยคำพูดที่ทำให้ผู้รับต้องเจ็บปวด หรือเจ็บช้ำใจนั้น ถือได้ว่าผู้ทำทานได้ทำลายผลบุญการทำทานของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ผู้ให้ทานจึงต้องตระหนักเสมอว่า เมื่อทำทานแล้ว จะต้องไม่พูดสิ่งใดให้ผู้รับเจ็บช้ำใจ เช่น พูดดูถูก ลำเลิกหรือขับไล่ เป็นต้น
ท่านผู้ฟังที่เคารพ มีผู้คนจำนวนมากจากพวกเราในขณะนี้ ต่างถามกันว่า เพราะเหตุใดดุอาอ์หรือการขอพรที่เราขอจึงไม่ถูกตอบรับ ? มีนักวิชาการท่านหนึ่งมีนามว่า อิบรอฮีม บิน อัดฮัม ได้ถูกถามในเรื่องดังกล่าว และท่านได้ตอบว่า ที่ดุอาอ์ของพวกเจ้าไม่ถูกตอบรับนั้น เพราะว่า แท้จริงหัวใจของพวกเจ้าได้ตายไปแล้วด้วยกับ ๑๐ ประการ แล้วท่านก็ถูกถามขึ้นอีกว่า ๑๐ ประการดังกล่าวนั้นมีอะไรบ้าง ?
ท่านได้ตอบว่า ...
๑. ท่านทั้งหลายรู้จักอัลเลาะห์ แต่ไม่ยอมภักดีต่อพระองค์
๒. ท่านทั้งหลายรู้จักท่านร่อซู้ล แต่พวกท่านไม่ยอมปฏิบัติตามแนวทางของท่าน
๓. ท่านทั้งหลายได้อ่านอัลกุรอ่าน แต่พวกท่านไม่ยอมปฏิบัติตามอัลกุรอ่าน
๔. ท่านทั้งหลายได้รับพระเมตตาจากอัลเลาะห์ แต่พวกท่านไม่เคยขอบคุณ
๕. ท่านทั้งหลายรู้ว่าสวรรค์มีจริง แต่ก็ไม่เคยหมั่นที่จะขอมัน
๖. ท่านทั้งหลายรู้ว่า นรกมีจริง แต่พวกท่านก็ไม่ยอมที่จะหนีมัน
๗. ท่านทั้งหลายรู้จักชัยตอนมารร้าย แต่พวกท่านไม่เคยจะฝ่าฝืนหรือขัดแย้งกับมัน
๘. ท่านทั้งหลายรู้จักความตาย แต่พวกท่านไม่ได้ตระเตรียมอะไรให้กับมัน
๙. ท่านทั้งหลายได้ทำการฝังบรรดาคนตาย แต่พวกท่านไม่ได้ตรึกตรองถึงพวกเขา
๑๐. ท่านทั้งหลายได้ตื่นจากการนอนของพวกท่านทั้งหลาย แล้วก็มุ่งอยู่กับการตำหนิข้อผิดพลาดต่าง ๆ ของผู้อื่น และทิ้งการตำหนิและข้อผิดพลาดของตัวเอง
แล้วอย่างไรเล่า ที่ดุอาอ์ของพวกเจ้าจะถูกตอบรับ ?
คุตบะห์วันศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐ