ผู้ที่ด่าทออัลลอฮฺนั้นตกเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา
อับดุลอะซีซ บิน มัรซูก อัฏ-เฏาะรีฟีย์
มติอย่างเป็นเอกฉันท์ของอุละมาอ์ว่า ผู้ที่ด่าทออัลลอฮฺนั้นตกเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา
อุละมาอ์จากทุกมัซฮับที่มีทัศนะว่าการศรัทธานั้นต้องประกอบด้วย “คำพูดและการกระทำ” ต่างมีความเห็นตรงกันอย่างเป็นเอกฉันท์ ว่าการด่าว่าสาปแช่งอัลลอฮฺนั้นถือเป็นการปฏิเสธศรัทธา และคำแก้ตัวใดๆ จากผู้ที่กระทำการจาบจ้วงหมิ่นเกียรติอัลลอฮฺอย่างชัดแจ้งนั้นก็ไม่อาจรับฟังได้
หัรบฺ บันทึกไว้ในหนังสือ “มะสาอิล” ของท่าน จากมุญาฮิด เล่าว่า ท่านอุมัรฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า
“ผู้ใดด่าทอสาปแช่งอัลลอฮฺ หรือท่านใดท่านหนึ่งจากบรรดานบี ก็จงประหารชีวิตเขาเสีย”
(ดู อัศ-ศอริม อัล-มัสลูล หน้า 102)
ลัยษฺ บันทึกจากมุญาฮิด จากท่านอิบนุ อับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวว่า
“มุสลิมคนใดด่าทอสาปแช่งอัลลอฮฺ หรือนบีท่านหนึ่งท่านใด ก็เท่ากับว่าเขาได้ปฏิเสธท่านเราะสูลุลลอฮฺ ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นริดดะฮฺ (ตกศาสนา) จะต้องเตาบัตกลับตัว ถ้าเขากลับตัวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ ก็จะต้องรับโทษประหารชีวิต และมุอาฮัด (ผู้ปฏิเสธศรัทธาที่ทำสัญญาสงบศึกกับมุสลิม) คนใดแข็งข้อและอาจหาญกระทำการด่าทออัลลอฮฺ หรือด่านบีท่านใด หรือเผยแพร่สิ่งดังกล่าว ก็เท่ากับว่าเขาได้ละเมิดสัญญา โทษของเขาก็คือประหารชีวิต”
(อัศ-ศอริม อัล-มัสลูล หน้า 201)
มีผู้ถามอิมามอะหฺมัด เกี่ยวกับผู้ที่สาปแช่งด่าทออัลลอฮฺ ท่านกล่าวตอบว่า “คนผู้นี้ถือเป็นมุรตัดตกศาสนา ต้องรับโทษประหารชีวิต” ดังที่ปรากฏในหนังสือ “มะสาอิล” ของอับดุลลอฮฺบุตรชายท่าน (หน้า 431)
และมีนักวิชาการหลายท่านระบุว่า ผู้ที่กระทำการดังกล่าวถือเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาและสมควรต้องโทษประหารชีวิตอย่างเป็นเอกฉันท์ (อิจญ์มาอฺ) ดังเช่น
♣ อิบนุ รอฮะวัยฮฺ เราะหิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า “ชาวมุสลิมต่างมีความเห็นตรงกันอย่างเป็นเอกฉันท์ ว่าผู้ใดด่าทออัลลอฮฺหรือเราะสูลของพระองค์ หรือปฏิเสธสิ่งหนึ่งสิ่งใดจากบัญญัติของอัลลอฮฺ หรือสังหารนบีท่านหนึ่งท่านใด ถือว่าเขาตกเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาด้วยการกระทำดังกล่าว แม้ว่าเขาจะยังคงยอมรับในศาสนาของอัลลอฮฺก็ตาม”
(อัต-ตัมฮีด โดยอิบนุ อับดิลบัร เล่ม 4 หน้า 226 และอัล-อิสติซการฺ เล่ม 2 หน้า 150)
♣ อัล-กอฎีย์ อิยาฎ เราะหิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า “ไม่มีข้อขัดแย้งว่ามุสลิมที่ด่าทออัลลอฮฺนั้น ถือว่าเป็นกาฟิรฺ และต้องโทษประหารชีวิต”
(อัชชิฟา เล่ม 2 หน้า 270)
♣ อิบนุ หัซมฺ ก็เป็นอีกท่านหนึ่งที่บันทึกความเห็นอันเป็นเอกฉันท์ในประเด็นนี้ นอกจากนี้ อิบนุ อบี ซัยดฺ อัล-ก็อยเราะวานีย์, อิบนุ กุดามะฮฺ และอุละมาอ์อีกหลายท่านต่างก็ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าผู้กระทำการดังกล่าวตกเป็นกาฟิรฺ
(อัล-มุหัลลา เล่ม 11 หน้า 411, อัล-มุฆนีย์ โดยอิบนุ กุดามะฮฺ เล่ม 9 หน้า 33, อัศ-ศอริม อัล-มัสลูล โดยอิบนุ ตัยมิยะฮฺ หน้า 512, อัล-ฟุรูอฺ โดยอิบนุ มุฟลิหฺ เล่ม 6 หน้า 162, อัล-อินศอฟ โดยอัล-มิรดาวีย์ เล่ม 10 หน้า 326 และ อัต-ตาจญ์ วัลอิกลีล โดยอัล-เมาวาก เล่ม 6 หน้า 288)
จะเห็นว่าอุละมาอ์มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าการด่าทออัลลอฮฺถือเป็นการปฏิเสธศรัทธา โดยไม่รับฟังคำแก้ตัวของผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ที่มีสติปัญญาและความรู้เพียงเล็กน้อยก็ยังสามารถจำแนกได้ว่าการกระทำใดที่ถือเป็นการด่าทอจาบจ้วง และแยกแยะได้ระหว่างการชื่นชมกับการตำหนิ แต่พวกเขาเหล่านั้นกลับหาญกล้าที่จะล่วงละเมิดอัลลอฮฺ
มีผู้ถามอิบนุ อบี ซัยดฺ อัล-ก็อยเราะวานีย์ อัล-มาลิกีย์ เกี่ยวกับชายคนหนึ่งซึ่งกล่าวสาปแช่งบุคคลหนึ่งพร้อมๆ กับการสาปแช่งอัลลอฮฺ แล้วชายคนนั้นก็แก้ตัวโดยอ้างว่า “ที่จริงแล้วฉันตั้งใจจะสาปแช่งชัยฏอน แต่ลิ้นของฉันพลั้งพลาดไป”
อิบนุ อบี ซัยดฺ กล่าวตอบว่า
“เขาต้องรับโทษประหารชีวิตอันเนื่องจากการที่เขาแสดงออกถึงการปฏิเสธศรัทธาอย่างชัดแจ้ง โดยมิอาจรับฟังคำแก้ตัวของเขาได้ ไม่ว่าเขาจะพูดเล่นหรือจริงจังก็ตาม”
(อัช-ชิฟา โดยอิยาฎ เล่ม 2 หน้า 271)
จะเห็นว่าในประเด็นนี้บรรดาอุละมาอ์และผู้พิพากษาจากทุกมัซฮับฟิกฮฺ (เช่นมัซฮับทั้งสี่ และกลุ่มซอฮิรียะฮฺ) ต่างตัดสินบนพื้นฐานของสิ่งที่แสดงออกมาภายนอก โดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงที่อยู่ในใจ แม้ว่าผู้ที่ทำการด่าทออัลลอฮฺนั้นจะกล่าวอ้างว่าสิ่งที่อยู่ในใจเขามิได้เป็นเช่นนั้นก็ตาม
ทั้งนี้ ถ้าหากว่าอุละมาอ์รับฟังคำกล่าวอ้างที่ว่าสิ่งที่อยู่ในใจต่างจากความผิดที่แสดงออกอย่างชัดเจนผ่านการกระทำภายนอกแล้วไซร้ ข้อบัญญัติและบทลงโทษต่างๆ ของศาสนาก็คงต้องเป็นอันตกไป สิทธิและเกียรติศักดิ์ศรีก็คงจะถูกละเมิดอย่างไร้ขอบเขต และคงมิอาจแยกแยะระหว่างมุสลิมกับผู้ปฏิเสธ หรือผู้ศรัทธากับผู้กลับกลอกได้ เมื่อนั้นศาสนาและกิจการทางโลกก็จะกลายเป็นเพียงเรื่องเล่นๆ สำหรับผู้ที่เขลาเบาปัญญา และจิตใจมีโรคเท่านั้นเอง
แปลโดย : ทีมงานภาษาไทยเว็บอิสลามเฮ้าส์ / Islamhouse