การช่วยเหลือของ อัลเลาะห์ จะมาพร้อมกับความอดทน
อาจารย์ อิมรอน สาดและ
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
ขอความสุขสวัสดีความกรุณาปรานีจากพระองค์อัลเลาะห์ จงประสพกับบรรดาพี่น้องผู้มาร่วมทำการละหมาดวันศุกร์ ในวันนี้ทุกๆท่าน อัลฮัมดุลิ้ลลาห์ ขอเราจงมีความยำเกรงต่อพระองค์อัลเลาะห์ จงยึดมั่นในความเป็นพระผู้เป็นเจ้าของพระองค์ อย่างแน่นแฟ้นในหัวใจของผู้ศรัทธาต่อพระองค์ เพื่อที่จะได้รับชัยชนะ ได้รับความสุข ทั้งในโลกดุนยาและอาคีเราะฮ์
((ياغُلامُ،إِنِّى أُعَلِّمُكَ كَلِمَاتٍ : إِحْفَظِ اللهَ يَحْفَظْكَ، آِحْفَظِ اللهَ تَجِدْهُ تُجَاهَكَ.إِذَاسَألْتَ فاسْألِ اللهَ،وإِذَاإسْتَعَنْتَ فَاسْتَعِنْ بِا للهِ،واعْلَمْ أَنَّ الأُمَّةَ لَوِاجْتَمَعَتْ عَلَى اَّنْ يَنْفَعُوكَ بِشَىءٍلم يَنْفَعُوكَ إِلاَّبشىءٍقَدْ كَتَبَهُ اللهُ لَكَ،وإنِ اجْتَمَعُواعَلى أَنْ يَضُرُّوكَ بشَىءٍلم يَضُرُّوكَ إِلاَّ بِشَىءٍقَدْكَتَبَهُ اللهُ عَلَيْكَ،رُفِعَتِ الَأقْلَامُ وَجَفَتِ الصُّحُفُ)) رواه الترمذى وقال : حديث حسن صحيح
ท่านพี่น้องที่เคารพรัก หะดิษ ที่นำเสนอนี้ เป็นรายงานจากท่าน อับดุลลอฮ์ บุตรของอับบาซ รอดิยัลลอฮู้อันฮู้มา กล่าวว่า ครั้งหนึ่งขณะฉันขี่สัตว์พาหนะ ซ้อนท้ายหลัง ท่านนบี มูฮัมมัด ท่านได้กล่าวว่า
" โอ้เด็กเอ๋ย ฉันจะสอนเจ้า ด้วยคำสอนบางประการ คือ เจ้าจงปกป้อง อัลเลาะห์ แล้ว อัลเลาะห์ จะปกป้องเจ้า จงปกป้องอัลเลาะห์ แล้วจะพบว่า พระองค์นั้นอยู่ต่อหน้าเจ้า เมื่อเจ้าจะขอจงขอต่อ อัลเลาะห์ เมื่อเจ้าจะขอความช่วยเหลือ ก็จงขอความช่วยเหลือจาก อัลเลาะห์
เจ้าพึงรู้ไว้เถิดว่า มนุษย์นั้นหากพวกเขาร่วมมือกัน เพื่อให้คุณใดๆแก่เจ้า พวกเขาย่อมไม่อาจให้คุณใดๆแก่เจ้าได้ นอกจากสิ่งนั้น อัลเลาะห์ ได้บันทึกไว้ให้เจ้ามาก่อนหน้านี้แล้ว และหากพวกเขาร่วมมือกัน เพื่อที่จะให้โทษใดๆแก่เจ้า พวกเขาย่อมไม่อาจ ให้โทษใดๆแก่เจ้าได้ นอกจากสิ่งนั้น อัลเลาะห์ ได้ทรงบันทึกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ปากกาได้ถูกยกขึ้นแล้ว และแผ่นบันทึกก็ได้เหือดแห้งแล้ว "
(รายงานโดย ติรมีซีญ์ ท่านกล่าวว่า เป็นหะดิซฮาซันซอเฮียฮ์ )
ท่านพี่น้องที่เคารพรัก จาก หะดิซ บทดังกล่าว เราท่านทั้งหลายจะพบว่า ท่าน นบี จะพยายามตักเตือน ซอฮาบะฮ์ของท่านอยู่เสมอ เกี่ยวกับการให้ยึดมั่น และให้มีความหนักแน่น ต่อพระองค์ อัลเลาะห์ ตลอดเวลา
หะดิซ บทนี้ ท่าน อับดุลลอฮ์ บุตรของอับบาซ ขณะที่ขี่สัตว์พาหนะ ซ้อนท้ายหลัง ท่านนบี มูฮัมมัด ท่านได้กล่าวสอนท่าน อับดุลลอฮ์
"โอ้เด็กน้อยฉันจะสอนเจ้า ด้วยคำสอนบางประการแก่เจ้า เจ้าจงปกปักรักษา ปกป้อง อัลเลาะห์ พระองค์จะปกปักรักษาเจ้า"
และมีบางรายงานบอกว่า
"เจ้าจงปกปักรักษา อัลเลาะห์ แล้วเจ้าจะพบว่า พระองค์นั้นอยู่ต่อหน้าเจ้า"
และมีบางรายงานบอกว่า
"เจ้าจงพยายามรู้จัก อัลเลาะห์ ในขณะที่เจ้ามีความสุขสบาย อัลเลาะห์ ก็จะรู้จักเจ้า ในขณะที่เจ้าเดือดร้อน จงรู้ไว้เถิดสิ่งใดก็ตามที่จะคลาดแคล้วต่อเจ้า นั้นมันจะไม่ประสบกับเจ้าอย่างเด็ดขาด และสิ่งใดที่จะมาประสบกับเจ้า สิ่งนั้นจะไม่คลาดแคล้วจากตัวเจ้าอย่างเด็ดขาดอีกเช่นเดียวกัน จงรู้ไว้เถิด การช่วยเหลือของ อัลเลาะห์ จะมาพร้อมๆกับความอดทน ความสุขจะเกิดขึ้น ต้องมาพร้อมกับความยากลำบาก และพร้อมๆกับความยากลำบากนั้น อัลเลาะห์ จะให้เกิดความสะดวกง่ายดาย"
ท่านพี่น้องที่เคารพรัก ความหมายของคำว่า إِحْفَظِ اللهَ يَحْفَظْكَ เจ้าจงปกปักรักษา อัลเลาะห์ แล้ว อัลเลาะห์ จะปกปักรักษาเจ้านั้น มิได้หมายความว่าให้เรานั้นคอยปกป้องภัยอันตรายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับ อัลเลาะห์ แต่หมายถึง إِحْفَظْ أوامِرَهُ เจ้าจงปกปักรักษา คือให้รักษาคำบัญชาต่างๆของ อัลเลาะห์ ให้รักษาคำบัญชาใช้ของ อัลเลาะห์ ให้เจ้าปฏิบัติตามคำบัญชาใช้รักษาไว้ตลอดชีวิตของเจ้าให้มั่นคง และจงปฏิบัติตามสิ่งที่ อัลเลาะห์ บัญชาแก่สูเจ้า และให้เจ้าจงหยุดยั้ง จงหักห้ามจากสิ่งต่างๆ ที่ อัลเลาะห์ ห้ามสูเจ้า แล้วพระองค์จะปกปักรักษาสูเจ้า ในขณะที่สูเจ้ามีความผันผวน ปั่นป่วน วุ่นวายในชีวิตของสูเจ้า อัลเลาะห์ จะปกป้องรักษาเจ้า ทั้งในโลกดุนยา และอาคีเราะฮ์ หากเราปกปักรักษา อัลเลาะห์
ใครที่ปฏิบัติ คุณงามความดีในโลกดุนยา เขารักษาคำสั่งที่ อัลเลาะห์ สั่งให้ปฏิบัติ ปฏิบัติอามั้ลที่ซอและห์ พระองค์อัลเลาะห์ จะให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกดุนยา อย่างมีความสุขสบายอย่างแน่นอน ขอให้เชื่อฟังคำสั่งของ อัลลอฮ์ และปฏิบัติตามคำสั่งของ อัลลอฮฺ ที่สั่งไว้ทุกประการ ความสุขจะเกิดขึ้น เป็นคำยืนยันของพระองค์อัลเลาะห์ ใน ซูเราะห์ตุ้ลนะห์ริ سورة النحل โองการที่ 97 ว่า
مَنْ عَمِلَ صَالِحًا مِنْ ذَكَرٍ أَوْ أُنْثَى وَهُوَ مُؤْمِنٌ فَلَنُحْيِيَنَّهُ حَيَاةً طَيِّبَةً وَلَنَجْزِيَنَّهُمْ أَجْرَهُمْ بِأَحْسَنِ مَا كَانُوا يَعْمَلُونَ (97) سورة النحل
" ผู้ใดก็ตามปฏิบัติ อามั้ล ที่ ซอและห์ ไม่ว่าจะเป็นสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี โดยที่เขามีความศรัทธาต่อพระองค์อัลเลาะห์ อย่างแน่วแน่
พระองค์จะให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกดุนยาอย่างดีงาม"
คำว่าให้มีชีวิตอยู่ในโลกดุนยาอย่างดีงาม หมายถึงพระองค์จะประทาน ริซกี ที่ ฮาลาลให้เขาอย่างเพียงพอ จับจ่ายใช้สอยในโลก ดุนยา โดยไม่ติดขัด และได้รับ ริซกี มาโดยไม่มีบาปใดๆทั้งสิ้น นี่คือคำอธิบายของ ตัฟซีร อัลกุรอาน สั้นๆ
พระองค์ อัลเลาะห์ จะให้ความสุข ในโลกดุนยากับบุคคลที่ปฏิบัติอามั้ลที่ซอและฮ์ โดยพระองค์รับรองเอาไว้ว่า ใครปฏิบัติ อามั้ลที่ซอและห์ เป็นการปฏิบัติตามบัญชาใช้ของ อัลเลาะห์ แน่นอนในโลกดุนยา เขาจะไม่ติดขัดในเรื่องริซกี ที่อัลเลาะห์ จะให้แก่เขา และเป็นริซกี ที่ ฮาลาล โดยไม่มีบาปใดๆทั้งสิ้น ถ้าเรามองในทางกลับกัน ถ้าใครในโลกดุนยานี้ไม่ทำอามั้ลอิบาดะห์ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮฺ เขาจะขวนขวายหา ปัจจัยยังชีพ มาเลี้ยงตัวเขาอย่างเพียงพอ ในการดำรงชีพตัวเขาเองและครอบครัวของเขา แม้บางครั้งเขาจะนำปัจจัยนั้นมาจากสิ่งที่ผิดไปจากหลักการ ที่เป็นบาป
ท่านพี่น้องที่เคารพรัก สิ่งที่มันเกิดขึ้นกับมนุษย์ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภัย บาลาอฺ การถูกทดสอบจาก อัลลอฮฺ หรือ มุซีบะฮ์ ความทุกข์ยากต่างๆที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ในทุกๆวันนี้ ด้วยกับสาเหตุที่มนุษย์ผู้นั้นได้ละเลยจากคำสั่งของ อัลลอฮฺ ไม่ปฏิบัติตามคำบัญชาของพระองค์ นั่นเอง ซึ่ง อัลลอฮฺ ยืนยันไว้ใน อัลกุรอาน سورة الشورى โองการที่ 30
وَمَا أَصَابَكُمْ مِنْ مُصِيبَةٍ فَبِمَا كَسَبَتْ أَيْدِيكُمْ وَيَعْفُو عَنْ كَثِيرٍ (30)
"และสิ่งที่มาประสบกับพวกเจ้าทั้งหลาย จากเหตุร้าย มันก็ด้วยมือของพวกเจ้า ที่ได้พากเพียรเอาไว้ "
อัลลอฮฺ ยืนยันว่าเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในโลกดุนยานี้ ที่มาประสพกับพวกเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตคัด ขาดแคลน ความแห้งแล้ง โรคระบาด หรือภัยพิบัติอื่นๆที่เกิดขึ้น กับมนุษย์ในโลกดุนยา เพราะมนุษย์ได้ทำความเลวร้ายเอาไว้มาก ก็ด้วยเหตุมาจากมือของพวกเจ้าได้กระทำไว้ เราอย่าได้ไปโทษสิ่งอื่น
ท่านพี่น้องที่เคารพรัก เมื่อเรารักษา พระองค์อัลเลาะห์ ไว้ ท่านนบี มูฮัมมัด ได้บอกไว้ว่า تَجدْه تُجَاهَكَ เจ้าจะได้พบพระองค์อัลเลาะห์ เหมือนอยู่ต่อหน้าเจ้า แปลว่าให้รักษาคำมั่นสัญญา ปฏิบัติตาม ไม่ฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮฺ เราจะพบว่าพระองค์อัลเลาะห์ อยู่ต่อหน้าเรา คำว่า อัลเลาะห์ อยู่ต่อหน้าเรานั้น หมายถึง อัลเลาะห์ จะช่วยเหลือเรา ในยามที่เรามีความคับแค้น ชิดดะห์ شدة ความเดือดร้อน พระองค์ จะช่วยเหลือเราทันที ท่านนบี มูฮัมมัด ได้บอกไว้ว่า
"เจ้าจงรู้จักอัลลอฮฺ ขณะที่เจ้ามีความสุข อัลลอฮฺ จะรู้จักเจ้า ขณะที่เจ้ามีความทุกข์ มีความเดือดร้อน"
เวลาที่เรามีความสุขกายสบายใจ อัลลอฮฺสั่งให้เราทำ อามั้ลอิบาดะห์ วันหนึ่ง 5 เวลา ลองสำรวจดูว่าทำครบตามคำสั่งของอัลลอฮฺไหม ในเดือนรอมาฏอน เราถือศีลอดครบไหม เรื่องของซากาต เราตรวจสอบแล้วจ่ายครบไหม และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย ที่อัลลอฮฺ สั่งให้เราปฏิบัติ ลองสำรวจในขณะเรามีความสุขกายสบายใจ เราปฏิบัติตามนั้นครบถ้วนหรือไม่ ถ้าหากว่าเราบกพร่อง เวลาที่เราเกิดภาวะคับขัน มีความคับแค้น ความเดือดร้อน เป็นหนี้เป็นสิน ลูกเกเร ติดยา ภัยพิบัติเกิดขึ้น ความเดือดร้อนต่างๆเมื่อมาประสพกับตัวเรา เราก็ยกมือขึ้นขอดูอาอฺ โอ้ อัลลอฮฺ ช่วยเหลือฉันด้วยเถิด ขณะที่เราผิดคำสั่งของ อัลลอฮฺ แล้วไฉน อัลลอฮฺ จะช่วยเหลือเรา
พระองค์อัลเลาะห์ ได้กล่าวว่า
فَلَوْلَا أَنَّهُ كَانَ مِنَ الْمُسَبِّحِينَ (143) لَلَبِثَ فِي بَطْنِهِ إِلَى يَوْمِ يُبْعَثُونَ (144) سورة الصافات
"หากแม้นว่าเขา ยูนุซ ไม่ได้เป็นผู้หนึ่งที่ทำการ ตัซเบียฮฺ สรรเสริญสดุดี พระคุณของอัลลอฮฺ ขณะอยู่ในท้องปลาแล้ว
แน่นอนที่สุด เขาก็ต้องอยู่ในท้องของปลานั้น จนกระทั่งถึงวัน กิยามะห์"
นั่นหมายถึงเสียชีวิตในท้องปลา แต่ด้วยเหตุที่ท่าน นบียูนุซ เป็นคนที่รำลึกถึงอัลลอฮฺ ทำการ ตัซเบียฮฺ สรรเสริญสดุดี พระองค์อัลเลาะห์ ตลอดเวลา อัลลอฮฺจึงให้เขาปลอดภัยจากท้องปลา และได้ขึ้นบก
ท่านพี่น้องที่เคารพรัก นี่คืออามั้ลที่ซอและห์ ที่พระองค์ ได้ยกตัวอย่างให้เราได้เห็น ว่าใครทำการงานที่ดีไว้ เมื่อถึงเวลาเดือดร้อน พระองค์ ช่วยเหลือให้เขาพ้นภัย มีอีกโองการหนึ่งที่ พระองค์ กล่าวถึง ฟาโรห์ (Faroh) หรือ ฟิรเอาน์ พระองค์ พระองค์บอกว่า
ในขณะที่ ฟิรเอาน์ ได้ทำการไล่ล่า ชาวบานีอิสรออีล จนกระทั้ง นบีมูซา นำชาว บานีอิสรออีล ลงทะเล ในขณะที่ พระองค์ให้ทะเลแยกออกจากกัน เป็นที่ว่าง นบีมูซา นำชาว บานีอิสรออีล เดินลงทะเล จนหมดทุกคน ในขณะที่ ฟิรเอาน์ นำทหารจำนวนมาก ลงไล่ล่าตาม เมื่อถึงกลางทะเลลึก พระองค์ ได้ลงโทษ ฟิรเอาน์ พร้อมทหารจำนวนมากนั้นด้วยการให้น้ำทะเลมาบรรจบอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ ฟิรเอาน์ พร้อมทหารจำนวนมากจมน้ำทะเลทั้งหมดในขณะนั้น ฟิรเอาน์ ได้เอ่ยขึ้นมาว่า آمَنْتُ أَنَّهُ لَا إِلَهَ إِلَّا الَّذِي آمَنَتْ بِهِ بَنُو إِسْرَائِيلَ ฉันศรัทธาแล้ว ไม่มีพระเจ้าอื่นใด ที่เที่ยงแท้ควรการเคารพบูชาในภาคภพนี้ เว้นแต่ อัลลอฮฺ พระผู้ซึ่งวงศ์วานอิสรออีล เคารพบูชา และฉัน(ฟิรเอาน์)นี้เป็นผู้หนึ่งจากพวกถือมั่นในเอกภาพของพระองค์อีกด้วย
ครั้นแล้วญิบรีล จึงเอาโคลน จากก้นทะเลยัดเข้าปาก ฟิรเอาน์ ด้วยเกรงว่าเขาจะกล่าวคำปฏิญาณ ศรัทธาว่า لَاإِلَهَ إِلَّاالله ไม่มี พระเจ้าอื่นใดนอกจาก อัลลอฮฺ แล้วพระองค์จะทรงปรานีต่อมัน การที่ ฟิรเอาน์ เพิ่งจะศรัทธาในเอกภาพของอัลลอฮฺ ต่อเมื่อเห็นโทษทัณฑ์นั้นย่อมจะไม่ถูกรับรองเลย หรือจะมีศรัทธาแต่เพียงอัลลอฮฺ แต่มิได้ศรัทธาต่อมูซาก็ย่อมจะไม่ถูกรับรองอีกด้วยเช่นกัน ญิบรีล กล่าวตำหนิแล้วตวาด ฟิรเอาน์ ว่าเจ้าเพิ่งจะมาศรัทธาเอาเพียงขณะนี้เองหรือ ทั้งที่เมื่อแรกเจ้าก็เคยทรยศ และเป็นผู้หนึ่งจากพวกก่อความเสื่อมเสีย ด้วยความงมงายของตัวเจ้าเอง และเป็นผู้ทำให้คนอื่นงมงาย เหินห่างจากศรัทธาต่อพระองค์
จากโองการนี้บอกให้เราทราบว่า คนที่อยู่ในโลกดุนยา ฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮฺ มาโดยตลอด เมื่อถึงเวลาคับขัน จะขอร้องต่อ อัลลอฮฺให้ช่วยเหลือได้หรือ น่าอูซุบิลลาฮฺ มันไม่กินในสติปัญญา ดังนั้นจึงเป็นอุทาหรณ์ ให้เราท่านทั้งหลาย ว่าในโลกดุนยาที่เราใช้ชีวิตอยู่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองไทยเรา ซึ่งมีความเสื่อมเสียเกิดขึ้นมากมาย เราในฐานะผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ จะต้องมั่นคงในหลักอากีดะฮฺ ไม่ว่าโลกนี้จะเกิดอะไรขึ้น ประเทศนี้จะเกิดอะไรขึ้น เราจะต้องมั่นคงยึดมั่นต่อคำสั่งของ อัลลอฮฺ และปฏิบัติตัวเป็นบ่าวที่ดีตลอดเวลา เมื่อถึงยามคับขัน อัลลอฮฺจะช่วยเหลือเราแน่นอน إن شاء الله
ท่านพี่น้องที่เคารพรัก ในช่วงปิดภาคเรียนลูกหลานของเรากำลังว่าง ขอให้เราท่านทั้งหลาย ดูแลลูกหลานของเราให้ใกล้ชิด พยายามดึงพวกเขาให้มาใกล้ชิดกับศาสนา ให้เขามีศาสนา ไม่ว่าเราจะหางานให้เขาทำ หรือเราจะให้โอกาสแก่พวกเขาได้ศึกษาเรื่องราวของศาสนา หรือสามัญเพิ่มเติม จงอย่าปล่อยให้พวกเขาใช้ชีวิตอย่างอิสระ เพราะช่วงปิดเทอมในแต่ละปีนั้น อาจทำให้อนาคตลูกหลานเรา เสียหายขึ้นได้ วัลอิยาซุบิลลาฮฺมินซาลิก
คุตบะฮ์ ณ มัสยิดท่าอิฐ