จุดยืนต่อบรรดาศ่อฮาบะของท่านนบี
แปลและ เรียบเรียง โดย อับดุลวาเอด สุคนธา
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
มวลการสรรเสริญทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ เราขอสรรเสริญต่อพระองค์ เราขอความช่วยเหลือจากพระองค์ เราขออภัยโทษจากพระองค์ เราขอความคุ้มครองจากพระองค์ให้พ้นจากความชั่วร้ายในตัวของเรา จากการงานที่เลวร้าย และการตั้งเจตนาไม่ดีที่อยู่ในจิตใจของเรา ผู้ใดก็ตามที่พระองค์ทรงนำทางเขา เขาก็จะไม่หลงทาง และผู้ใดก็ตามที่พระองค์ให้เขาหลงทาง ก็จะไม่มีผู้ใดให้ทางนำแก่เขาได้ เว้นแต่พระองค์เท่านั้น
ข้าพเจ้า ขอปฏิญาณตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺไม่มีภาคีใดๆสำหรับพระองค์ และข้าพเจ้าขอปฏิญาณตนว่านบีมุฮัมมัด คือบ่าวและศาสนทูตของพระองค์ ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่านและบรรดาเศาะฮาบะฮฺของท่านและบรรดาเครือญาติของท่านตลอดจนบรรดาผู้ปฏิบัติตามแนวทางของท่านให้ได้รับความดีด้วยเถิด
อัลลอฮฺ ตรัสไว้ในคัมภีร์อัลกรุอาน ความว่า :
"โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงยำเกรงต่ออัลลอฮฺ อย่างแท้จริงเถิด และพวกเจ้าจงอย่าตายเป็นอันขาด นอกจากในฐานะที่พวกเจ้าเป็นผู้นอบน้อมเท่านั้น"
(อาละอิมรอน : 102)
"มนุษยชาติทั้งหลาย จงยำเกรงต่อพระเจ้าของพวกเจ้าที่ได้บังเกิดพวกเจ้ามาจากชีวิตหนึ่งและได้ทรงบังเกิดจากชีวิตนั้นซึ่งคู่ครองของเขา และได้ทรงแพร่สะพัดไปจากทั้งสองนั้น ซึ่งบรรดาชายและบรรดาหญิงอันมากมาย และจงยำเกรงอัลลอฮฺที่พวกเจ้าต่างขอกันด้วยพระองค์ และการพึงรักษาเครือญาติ แท้จริงอัลลอฮฺทรงสอดส่องดูพวกเจ้าอยู่เสมอ"
( อัน-นิซาอฺ : 1)
"โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงยำเกรงอัลลอฮฺ จงกล่าวถ้อยคำที่เที่ยงธรรมเถิด พระองค์จะทรงปรับปรุงการงานของพวกเจ้าให้ดีขึ้นสำหรับพวกเจ้า และจะทรงอภัยโทษความผิดของพวกเจ้าให้แก่พวกเจ้า และผู้ใดที่เชื่อฟัง ปฏิบัติตามอัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์ แน่นอนเขาได้รับความสำเร็จอันใหญ่หลวง"
(อัลอะหฺซาบ : 70,71)
"พระองค์ คือ ผู้ทรงส่งร่อซูลของพระองค์พร้อมด้วยแนวทางที่ถูกต้อง และศาสนาแห่งสัจธรรม เพื่อพระองค์จะทรงให้ศาสนา(ของพระองค์)นั้นประจักษ์แจ้งเหนือศาสนาอื่นทั้งมวล และพอเพียงแล้วที่อัลลอฮฺทรงเป็นพยาน"
( อัลฟัตฮฺ : 28)
"มุฮัมหมัดเป็นร่อซูลของอัลลอฮฺ และบรรดาผู้ที่อยู่ร่วมกับเขาเป็นผู้เข้มแข็ง กล้าหาญต่อพวกปฏิเสธศรัทธา เป็นผู้เมตตาสงสารระหว่างพวกเขาเอง เจ้าจะเห็นพวกเขาเป็นผู้รูกั๊วะ ผู้สุญูดโดยแสวงหาคุณงามความดีจากอัลลอฮฺ และความโปราดปราน(ของพระองค์)เครื่องหมายของพวกเขาอยู่บนใบหน้าของพวกเขา เนื่องจากร่อยรอยแห่งการสุญูด นั้นคือ อุปมาของพวกเขาที่มีอยู่ในอัตเตารอต และอุปมาของพวกเขาที่มีอยู่ในอัลอินญีล ประหนึ่งเมล็ดพืช ที่งอกหน่อหรือกิ่งก้านของมันออกมา แล้วทำให้มันงอกงาม แล้วมันก็เติบโตแข็งแรง และทรงตัวอยู่ได้บนลำต้นของมัน นำความปลื้มปิติมาให้แก่ผู้หว่าน เพื่อที่พระองค์จะก่อความโกรธแค้นแก่พวกปฏิเสธศรัทธา เพราะพวกเขา(มุสลิมีน) และอัลลอฮฺทรงสัญญาบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำคุณงามความดีทั้งหลายในหมู่พวกเขาว่า จะได้รับการอภัยโทษและรางวัลอันใหญ่หลวง"
(อัลฟัตฮฺ : 29)
"บรรดาบรรพชนรุ่นแรกในหมู่ผู้อพยพ(ชาวมุฮาญิรีนจากมักกะฮฺ)และในหมู่ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ(ชาวอันศอรจากมะดีนะฮฺ) และบรรดาผู้ที่ดำเนินรอยตามพวกเขาด้วยการทำความดีนั้น อัลลอฮุทรงพอพระทัย ในพวกเขา และพวกเขาก็พอใจในพระองค์ด้วย และพระองค์ทรงเตรียมไว้ให้พวกเขาแล้ว ซึ่งบรรดาสวนสรรค์ที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านอยู่เบื้องล่าง พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล นั้นคือชัยชนะอันใหญ่หลวง"
(อัตเตาบะฮฺ : 100)
อนึ่งถือว่าเป็นความผิดอันใหญ่หลวง สำหรับการกล่าวถึงอิสลามในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง ตัวอย่างเช่น การกล่าวหาและการใส่ร้ายบรรดาเศาะฮาบะฮฺ ตลอดจนบรรดาเครือญาติของท่านนบี ในทางที่ไม่ดี และพยายามที่จะลบล้างและหาข้อผิดพลาดของบรรดาเศาะฮาบะฮฺ ตลอดจนบรรดาเครือญาติของท่าน พวกเขาเหล่านั้นจะทำทุกวิธีทางเพื่อเป่าประกาศให้โลกได้รับรู้ว่า แท้จริงแล้วศาสนาอิสลามมีบรรพชนรุ่นแรกที่มีแบบอย่างที่ไม่ดี พร้อมกันนั้นพวกเขาก็พยายามที่จะลบล้างประวัติศาสตร์อันดีงามของอัลอิสลาม เพื่อให้มนุษยชาติได้รับรู้ว่า นี้หรือที่บอกว่า ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาแบบอย่างและเป็นประชาชาติที่ถูกคัดเลือกที่จะสร้างความสันติสุขของมนุษย์บนโลกใบนี้
แท้จริงแล้ว ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาที่ให้เกียรติแก่บรรพชนรุ่นแรกที่เรียกว่า "เศาะฮาบะฮฺ" พวกเขาคือผู้ที่ใกล้ชิดและอยู่เคียงข้างท่านนบี ปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้อง และยังส่งเสริมให้ลูกหลานนำมาซึ่งการปฏิบัติตามแนวทางที่ดีงามที่ได้กระทำเอาไว้จนมาถึงพวกเราในทุกวันนี้
ศาสนาอิสลามถือว่าการให้ความรัก ความเคารพ และการให้เกียรติต่อบรรดาเศาะฮาบะฮฺเป็นหลักการที่สำคัญอย่างยิ่งต่อมุสลิมทั้งชายและหญิง ใครก็ตามที่เขามีความรักต่อบรรดาเศาะฮาบะฮฺของท่านนบี ก็แสดงว่าเขานั้นก็มีความรักต่อท่านนบี ด้วยเช่นกัน และยังชี้ให้เห็นได้ว่า นี้คือหลักศรัทธาอีกประการหนึ่ง เพราะอัลลอฮฺ ได้ทรงกล่าวชมเชย และให้เกียรติบรรดาเศาะฮาบะฮฺ เอาไว้อย่างมากมายในคัมภีร์อัลกรุอาน
ในปัจจุบันนี้เรามักจะเห็นกันบ่อยครั้งว่า มีกลุ่มชนและองค์กรต่างๆมากมายได้ออกมาประกาศและใส่ร้ายป้ายสีบรรดาเศาะฮาบะฮฺและบรรดาสาวกของท่านนบี ในทางที่ไม่ดี และพวกเขาพยายามที่จะทำลายคุณงามความดีของบรรพชนรุ่นก่อน จุดประสงค์เพื่อที่จะทำให้คนที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามเข้าใจผิดและให้คนทั่วไปได้รับรู้ว่า นี้คือแบบอย่างของบรรดาเศาะฮาบะฮฺผู้ที่ใกล้ชิดท่านนบี
สังคมปัจจุบันนี้ มุสลิมส่วนมากมักจะละเลยและไม่ได้ออกมาปกป้องศาสนาอิสลามและบรรดาเศาะฮาบะฮฺของท่านนบี เมื่อมีการใส่ร้าย ดูหมิ่นเกียรติยศ และละเมิดสิทธิต่างๆ ของพวกท่าน แท้จริงแล้วบรรดาผู้ที่ใส่ร้ายและดูหมิ่นบรรดาเศาะฮาบะฮฺของท่านนบี ตามที่พวกเขากล่าวอ้าง คงจะหนีไม่พ้น 5 ประการ ดังต่อไปนี้ :
1. ต้องการที่จะสร้างความแตกแยกและความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในโลกอิสลาม
2. ต้องการที่จะตำหนิและทำลายแบบอย่างที่ดีงามและภาพพจน์ของศาสนาอิสลาม
3. ต้องการที่จะปกปิดและบิดเบือนแบบอย่างที่ดีงามของบรรดาเศาะฮาบะฮฺในหน้าประวัติศาสตร์อิสลาม
4. ต้องการที่จะสร้างภาพลักษณ์ของศาสนาอิสลามไปในทางลบและหาข้อผิดพลาดของเหล่าบรรดาเศาะฮาบะฮฺ
5. ต้องการที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดและความคลุมเครือต่อคนทั่วไป เพื่อให้พวกเขาเกิดความเกลียดชังต่อบรรดาเศาะฮาบะฮฺ
ถึงเวลาแล้วสำหรับผู้ที่ได้ชื่อว่ามุอฺมินและมุสลิมที่ศรัทธาทั้งหลายจะต้องออกมาปกป้องและรักษาเกียรติของเหล่าบรรดาเศาะฮาบะฮฺ อย่าปล่อยให้พวกเขาเหล่านั้นดูหมิ่นและละเมิดสิทธิบรรพชนของพวกเราเป็นอันขาด แม้แต่พระองค์อัลลอฮฺ ยังทรงสรรเสริญและให้เกียรติแก่บรรดาเศาะฮาบะฮฺของท่านนบี แล้วเราเป็นแค่เพียงมนุษย์สมควรแล้วหรือที่จะไม่ให้ความรักและความเคารพต่อบรรดาเศาะฮาบะฮฺของท่านนบี