25 แนวคิดพิชิตปัญหาตามวิถีอิสลาม (1-7)
Abdulmalik Al-Qasem
ในโลกดุนยานี้ ทุกคนต่างขวนขวายใฝ่หาความสุข ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะเป็นผู้ศรัทธา ผู้ปฏิเสธศรัทธา คนดี หรือคนเลว ทุกคนล้วนถวิลหาความสุขกันทั้งสิ้น แม้แต่สัตว์ก็ยังชอบความสุขสบาย ในยามที่แดดร้อนมันก็จะหลบไปอยู่ใต้ต้นไม้หรือที่อื่น ๆ ที่มีร่มเงาแทน.. อัลลอฮฺตรัสถึงสภาพของมนุษย์ในโลกดุนยานี้ว่า:
“โดยแน่นอนเราได้บังเกิดมนุษย์มาเพื่อเผชิญความยากลำบาก”
[อัล-บะลัด: 4]
ท่านอิบนุกะษีรฺ กล่าวว่า: หมายถึง ต้องเผชิญกับความยากลำบากทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ
การเยียวยาแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น อาจต้องใช้เวลาและความคิดเป็นอย่างมาก ในหนังสือเล่มนี้ ข้าพเจ้าจึงได้กล่าวถึงแนวคิดและข้อเสนอแนะบางประการ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขเยียวยา หรือลดระดับความรุนแรงของปัญหาเหล่านั้นลง ทั้งนี้ มันอาจไม่ใช่ทางออกที่ทำให้ปัญหาต่างๆหมดสิ้นไปในชั่วพริบตา แต่หากจะอุปมาอุปไมย ก็คงเหมือนกับอาคารหลังใหญ่ที่พังทลายลง แล้วเราต่างก็ใช้ความพยายามในการบูรณะซ่อมแซมมันขึ้นมาใหม่ พร้อมทั้งช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากหักปรักพังนั้น และทำให้อาคารหลังนั้นกลับมาตั้งตระหง่านดังเดิมอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าการก่อสร้างขึ้นใหม่นั้นย่อมต่างจากการทุบทิ้ง
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้เวลา ความพยายาม และความอดทนเป็นอย่างยิ่ง เพื่อที่จะก้าวผ่านปัญหาต่างๆ ที่ประสบไปได้ในที่สุด ด้วยประสงค์แห่งอัลลอฮฺ
1. กล่าว “อินนาลิลลาฮฺ วะอินนา อิลัยฮิรอญิอูน”
เมื่อมีปัญหาหรือเรื่องทุกข์ใจ สิ่งแรกที่จะช่วยบรรเทาและเยียวยาปัญหาคือการกล่าว “อินนาลิลลาฮฺ วะอินนา อิลัยฮิรอญิอูน” (แท้จริงพวกเราเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ และแน่นอนว่าพวกเราจะต้องกลับไปหาพระองค์) การกล่าวอิสติรฺญาอฺ (อินนาลิลลาฮฯ) เป็นแนวทางปฏิบัติที่ท่านนบีของเรา ได้เคยสอนไว้ มันทำให้จิตใจสงบเยือกเย็นลงได้ ท่านหญิงอุมมุสะละมะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านเราะสูล กล่าวว่า:
"ไม่มีมุสลิมคนใดประสบกับปัญหาความทุกข์ใจ แล้วเขากล่าวสิ่งที่อัลลอฮฺทรงใช้:
"อินนาลิลลาฮฺ วะอินนาอิลัยฮิ รอญิอูน อัลลอฮุมมะญุรฺนี ฟีมุศีบะตี วะอัคลิฟลี ค็อยร็อน มินฮา"
(แท้จริงพวกเราเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ และแน่นอนว่าพวกเราจะต้องกลับไปหาพระองค์
โอ้อัลลอฮฺ ขอทรงตอบแทนผลบุญแก่ฉันในความทุกข์โศกของฉันนี้ และขอทรงทดแทนให้ฉันซึ่งสิ่งที่ดีกว่า)
เว้นแต่อัลลอฮฺจะทรงทดแทนสิ่งที่ดีกว่าให้แก่เขา"
[บันทึกโดยมุสลิม]
ลองไตร่ตรองเรื่องราวของท่านหญิงอุมมุ สะละมะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา ดูเถิด เมื่อสามีของนาง "อบูสะละมะฮฺ" สิ้นชีวิตไป นางได้กล่าวอิสติรฺญาอฺตามที่ท่านนบี สอน ดังนั้น อัลลอฮฺ จึงทรงทดแทนให้แก่นางซึ่งสิ่งที่ดีกว่า ด้วยการให้นางได้แต่งงานเป็นภรรยาของท่านนบี ทั้งนี้ การทดแทนสิ่งที่ดีกว่าให้นั้น อาจจะเกิดขึ้นในโลกดุนยาหรือโลกอาคิเราะฮฺ หรืออาจจะทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺก็เป็นได้
2. ใช้ความสุขุมรอบคอบ
ปัญหาครอบครัว ปัญหาระหว่างสามีภรรยา หรือระหว่างเพื่อนฝูงคนรู้จักนั้น เป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาขึ้น ส่วนสำคัญที่จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ก็คือ การใช้ความสุขุมรอบคอบเข้าแก้ไขปัญหา และไม่รีบร้อนบุ่มบ่ามในการตัดสินใจ จำไว้ว่าการตัดสินใจนั้นอย่างไรเสียก็อยู่ในมือเรา จะวันนี้พรุ่งนี้ มันก็คือการตัดสินใจของเรา ดังนั้น จะรีบร้อนไปไย? บางทีพรุ่งนี้ความคิดของเราอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความร้อนรุ่มในใจสงบลง และความโกรธความโมโหดับไปตามจังหวะอารมณ์ ท่านนบี กล่าวแก่ท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา ว่า:
"เธอจงทำตัวให้อ่อนโยนเถิด และจงห่างไกลความรุนแรงและความหยาบคาย
แท้จริงความอ่อนโยนนุ่มนวลนั้นไม่มีอยู่ในสิ่งใดเว้นแต่จะทำให้สิ่งนั้นงดงามขึ้น
และจะไม่ถูกสลัดออกจากสิ่งใดเว้นแต่จะทำให้สิ่งนั้นมีตำหนิและขาดความงดงามไป"
[บันทึกโดยมุสลิม]
ความรีบร้อนผลีผลามไม่เคยนำพาไปสู่ผลลัพธ์ที่ดี ลองพิจารณาดูคดีความต่างๆ ที่ต้องฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล จะเห็นว่าหลายต่อหลายครั้งเกิดขึ้นเพราะความโกรธและอารมณ์ชั่ววูบ ที่ทำให้ขาดความรอบคอบ ขาดความยับยั้งชั่งใจแทบทั้งสิ้น
3. อดทนให้มาก
เมื่อประสบกับปัญหาต้องอดทนให้มาก ให้ความอดทนมาคู่กับปัญหา ทุกครั้งที่มีปัญหาจะต้องมีความอดทนอยู่ด้วยเสมอ มิเช่นนั้นแล้วปัญหาจะหนักหน่วงขึ้น ความท้อแท้หมดหวังก็จะย่างกรายเข้ามา และถือเป็นความเมตตาของอัลลอฮฺอย่างแท้จริง ที่ทรงให้ปัญหาต่างๆเยียวยาและบรรเทาลงได้ด้วยความอดทน อัลลอฮฺทรงสัญญาว่าจะตอบแทนผู้ที่อดทนด้วยผลบุญอันมหาศาล พระองค์ตรัสไว้ความว่า:
"แท้จริงบรรดาผู้อดทนนั้นจะได้รับการตอบแทนผลบุญอย่างไร้ขีดจำกัด"
[อัซ-ซุมัรฺ: 10]
และท่านนบี กล่าวว่า:
"เรื่องของผู้ศรัทธานั้นช่างน่าแปลก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องดีสำหรับเขา ซึ่งลักษณะเช่นนี้ไม่มีในผู้ใดนอกจากผู้ศรัทธา
เมื่อเขาประสบกับสิ่งที่ดีเขาชุโกรขอบคุณ นั่นก็เป็นเรื่องดีสำหรับเขา
และเมื่อเขาประสบกับสิ่งที่ไม่ดีเขาอดทน ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องดีสำหรับเขา"
[บันทึกโดยมุสลิม]
4. มองโลกในแง่ดี
ถือเป็นเรื่องจำเป็นที่เราต้องคิดต่ออัลลอฮฺในแง่ดี คิดเสียว่าอีกไม่นานปัญหาของเราก็จะมีทางออก มีทุกข์เดี๋ยวก็มีสุข ฝึกมองคู่กรณีที่เป็นต้นตอของปัญหาในแง่ดีเข้าไว้ คิดเสียว่าบางทีเขาอาจจะเข้าใจอะไรผิดก็ได้? หรืออาจจะได้รับข่าวที่คลาดเคลื่อน ซึ่งการคิดต่อผู้อื่นในแง่ดีนี้จะทำให้จิตใจสงบไม่ว้าวุ่น และช่วยให้แก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น
5. อย่าแพร่งพรายปัญหาให้ผู้อื่นรู้โดยไม่จำเป็น
ถ้าหากว่าปัญหาที่เรากำลังประสบอยู่นั้น เป็นสิ่งที่ปกปิดไม่บอกให้ผู้อื่นรู้ได้ ก็สมควรที่จะปกปิดไว้ไม่บอกใคร เพราะหลายต่อหลายครั้งเมื่อแก้ปัญหาได้แล้ว เราจะรู้สึกเสียดายที่ได้เล่าปัญหาให้คนนั้นคนนี้ฟังไปแล้ว ทั้งที่มันควรจะเป็นความลับ ดังนั้น ปัญหาใดที่เก็บไว้คนเดียวได้ก็ควรเก็บไว้ไม่บอกให้ใครรู้
การแพร่งพรายปัญหาที่แย่ที่สุดข้อหนึ่ง คือส่วนที่เกี่ยวกับปัญหาครอบครัว เราจะเห็นว่าภรรยาบางคนเมื่อมีปัญหากับสามี ก็มักจะบอกให้ครอบครัวของตัวเองรับรู้ และต่อว่าสามีอย่างเสียๆหายๆ ขุดเรื่องเสียๆ ของสามีไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหม่หรือเก่าออกมาประจานต่อหน้าญาติพี่น้องของนาง ทำให้พวกเขาพากันเกลียดและไม่พอใจสามีของนาง ซึ่งก็อาจกลายก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่ความขัดแย้ง และการหย่าร้างได้ในที่สุด ผู้เป็นสามีเองก็เช่นเดียวกัน
6. เผชิญหน้ากับปัญหาด้วยสิ่งที่ดีกว่า
ท่านนบี กล่าวแก่ชายผู้หนึ่งซึ่งขอให้ท่านกำชับสั่งเสียเขาว่า "ท่านจงอย่าโกรธ" โดยท่านได้กล่าวย้ำเช่นนั้นหลายครั้ง และท่านก็ยังกล่าวว่า
"ผู้กล้าแกร่งนั้น มิใช่ผู้ที่ได้รับชัยชนะจากการต่อสู้ แต่ผู้กล้าแกร่งที่แท้จริง คือผู้ที่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองในยามโกรธได้ต่างหาก”
[บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์และมุสลิม]
ความโกรธนั้น มักจะบดบังความคิดสติปัญญาที่มี ทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบขึ้นอย่างขาดสติ ดังนั้น จึงควรควบคุมอารมณ์ให้จิตใจสงบ แล้วเผชิญหน้ากับปัญหาด้วยสิ่งที่ดีกว่า และไม่ทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปมากกว่าที่เป็นอยู่ อัลลอฮฺ ตรัสว่า:
"เจ้าจงตอบโต้ด้วยสิ่งที่ดีกว่า แล้วเมื่อนั้นผู้ที่ระหว่างเจ้ากับเขาเคยเป็นอริกันก็จะกลับกลายเป็นเยี่ยงมิตรที่สนิทกัน"
[ฟุศศิลัต: 34]
หากเรากลัวว่าใครคนใดคนหนึ่งจะสร้างปัญหาให้แก่เรา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานหรือญาติพี่น้อง ก็ควรที่เราจะทำดีต่อเขา อาจจะด้วยการมอบของขวัญเล็กๆน้อยๆให้ หรือพูดจาคบหากันด้วยคำพูดและมนุษยสัมพันธ์ที่ดี จะได้เป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดจากพวกเขาเหล่านั้นอันเนื่องจากความอิจฉาริษยาหรือสาเหตุอื่นๆ
7. อย่าลืมดุอาอ์
ในยามที่ประสบกับปัญหาหรือความลำบาก ท่านนบี ได้สอนให้เราดุอาอ์วิงวอนอัลลอฮฺ ตัวอย่างดุอาอ์ที่ท่านสอนให้เราอ่านก็เช่น:
“โอ้องค์อภิบาลผู้ทรงมีชีวิตที่ยืนยง โอ้องค์อภิบาลผู้ทรงบริหารทุกๆสิ่ง เราขอความช่วยเหลือด้วยความเมตตาของพระองค์”
[บันทึกโดย อัต-ติรมิซีย์]
“โอ้พระผู้อภิบาลของฉัน! แท้จริงฉันเป็นบ่าวของพระองค์ เป็นลูกของบ่าวชายของพระองค์และเป็นลูกของบ่าวหญิงของพระองค์ กระหม่อมของฉันอยู่ในมือของพระองค์ กำหนดการของพระองค์แก่ฉันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน การตัดสินของพระองค์ต่อฉันนั้นยุติธรรม
ฉันขอวิงวอนต่อพระองค์ด้วยพระนามทั้งหมดของพระองค์ ที่พระองค์ทรงครอบครองมัน ทั้งที่พระองค์ทรงใช้เรียกขานพระองค์เอง หรือพระองค์ทรงประทานลงในคัมภีร์ของพระองค์ หรือพระองค์ทรงสอนแก่คนใดคนหนึ่งจากบ่าวของพระองค์ หรือพระองค์ทรงเก็บมันไว้ในความรู้ที่เกี่ยวกับสิ่งซ้อนเร้น(ฆออิบ)เฉพาะพระองค์
ขอพระองค์ทรงโปรดทำให้ อัลกุรอานเป็นธารน้ำที่คอยหล่อเลี้ยงใจของฉัน เป็นแสงประทีปที่คอยส่องอกฉัน เป็นสิ่งที่ขจัดความยากลำบากแก่ฉันและเป็นสิ่งที่ลบล้างความเสียใจของฉัน”
[บันทึกโดย อะหฺมัด]
“โอ้พระผู้อภิบาลแห่งข้า แท้จริงข้าพระองค์ขอความคุ้มครองต่อพระองค์ จากความกังวลใจและความโศกเศร้า ความอ่อนแอและความเกียจคร้าน ความขยาดและความตระหนี่ การติดหนี้ที่มากมายจนล้นตัว และการพ่ายแพ้ต่อผู้อื่น”
[บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์]
หรือดุอาอ์บทอื่นๆ
แปลโดย : อัสรัน นิยมเดชา / Islamhouse