อย่าสลับ บทบาทและหน้าที่

โดย อาจารย์ มุญาฮิด ลาตีฟี

          พี่น้องศรัทธาชนที่เคารพรักทั้งหลาย ขอท่านทั้งหลายจงมีความตั้งมั่น มีความยำเกรงต่อ อัลเลาะห์ อย่างแท้จริง ด้วยการประพฤติปฏิบัติตามในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้ ละเว้น ห่างไกลจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม ตามนัยยะความหมายแห่งคำดำรัสของ อัลเลาะห์   พระองค์ได้ทรงกล่าวกับพวกเราว่า

" และแน่นอนเราได้บังเกิดสำหรับญฮันนัม(นรก) ซึ่งมากมายจากญิน และมนุษย์

โดยที่พวกเขามีหัวใจซึ่งพวกเขาไม่ใช้มันทำความเข้าใจและพวกเขามีตา ซึ่งพวกเขาไม่ใช่มันมอง และพวกเขามีหู ซึ่งพวกเขาไม่ใช้มันฟัง

ชนเหล่านี้แหละประหนึ่งปศุสัตว์ ใช่แต่เท่านั้น พวกเขาเป็นผู้หลงผิดยิ่งกว่า ชนเหล่านี้แหละ พวกเขาคือผู้ทีเผลอเรอ "

ท่านนบีมูฮำมัด ได้กล่าวว่า

"พวกท่านทั้งหลายจงกล่าว ซอลาวาต ต่อฉัน ในวันและคืนวันศุกร์ มากๆ

อันบุคคลใดปฏิบัติการดังกล่าว ฉันจะเป็นประจักษ์พยาน เป็นผู้ให้การอนุเคราะห์กับเขาในวันกิยามะฮ"

         ศรัทธาชนที่เคารพทั้งหลาย การใช้ชีวิตอยู่ในดุนยานี้ เราไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ในความเป็นมนุษย์ กับอีกสิ่งหนึ่ง ที่เป็น มัคลูกของอัลเลาะฮ คือมวล มลาอิกะฮฺ เเละสิงสาราสัตว์ ทั้งเล็กและใหญ่ ซึ่งความแตกต่างทั้ง 3 ชนิดนี้

♣ บรรดา มลาอิกะฮฺ อัลเลาะฮ.ทรงสร้างขึ้นมาในสภาพที่มีสติปัญญา แต่ปราศจาก นัฟซู อารมณ์

♣ อัลเลาะฮ ทรงสร้างสรรพสัตว์ทั้งเล็กและใหญ่ ในสภาพซึ่งที่ไร้ปัญญา ไม่มีปัญญา แต่มี นัฟซู อารมณ์

♣ อัลเลาะฮฺทรงสร้างเราในฐานะที่เป็นมนุษย์ ในสภาพที่มีปัญญา และ นัฟซู อารมณ์

           เมื่อใดก็ตาม ที่เราสามารถจะใช้ปัญญา เพื่อการเอาชนะ นัฟซู แล้ว แน่นอนที่สุดว่า เราจะได้รับฐานะที่อยู่เหนือกว่าบรรดา มลาอิกะฮฺ ในทางกลับกัน ถ้าหากว่า นัฟซู อารมณ์ของเรานั้นอยู่เหนือปัญญา ผลที่เกิดขึ้นกับพฤติกรรมการปฏิบัติ บางครั้งบางคราว อาจจะดูละม้ายคล้ายคลึงกับสัตว์ หรืออาจจะมีสภาพที่เลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์

          ท่านพี่น้องที่เคารพรักทั้งหลาย ศาสนาอิสลามสนับสนุนส่งเสริมต่อการที่จะรักษาไว้ซึ่งปัญญา เพื่อการไตร่ตรอง คิด พินิจ พิจารณา ต่อการเป็นตัวเราสำคัญที่สุด เราบอกว่าเราคือ มุสลิม เราบอกว่าเราคือ มุอฺมิน สิ่งใด อะไร ซึ่งที่อิสลามได้ตักเตือน ชี้แนะกับความรู้ ที่จะนำไปสู่การได้ใช้ปัญญาพิจารณาและไตร่ตรอง  ด้วยกับปัญญา จะทำให้เราเห็นในสิ่งที่เป็นความบกพร่อง ที่มันเกิดขึ้น แม้กับคนที่เรารักก็ตาม

รายงานจากท่านหญิงอาอิซะฮ์ ได้กล่าวกับท่านนบีมูฮำมัด ว่า "พอเพียงแล้วสำหรับท่าน จากซอฟียะห์ เช่นนั้น เช่นนั้น "

         ซึ่งผู้รายงาน ฮะดิษ บางท่านได้ให้คำอธิบายว่า تعنى قصيرة หมายถึงท่านหญิง อาอิซะฮ ได้กล่าวถึงความบกพร่องที่เกิดขึ้น กับท่านหญิง ซอฟียะห์ ถึงความเตี้ยของนาง

ท่านนะบีมุฮัมมัด กล่าวว่า

"แน่แท้เธอได้กล่าวถ้อยคำ ถ้าหากมาดแม้นว่าถ้อยคำนั้นได้ถูกเอาไปผสมกับน้ำทะเลแล้ว มันจะทำให้น้ำทะเลนั้นขุ่น หรืออาจจะทำให้น้ำทะเลนั้นเน่าเหม็น"

ท่านหญิง อาอิซะฮ์  กล่าวว่า "และฉันได้เลียนแบบการปฏิบัติของบุคคลหนึ่ง ในแง่ที่บ่งชี้ถึงการตำหนิ"

ท่านนบีมูฮำมัด ได้กล่าวว่า  "ฉันไม่ชอบต่อการที่เธอ จะทำพฤติกรรมเลียนแบบ บุคคลหนึ่งให้ฉันเห็น"

         พี่น้องที่เคารพรักทั้งหลาย การเป็นอยู่ของเราในชีวิตนี้ แน่นอนที่สุดว่า เรามีบุคคลที่เรารัก และเราก็มีบุคคลทีเราชัง แต่สิ่งสำคัญที่สุดนั้น เมื่อเราเห็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งที่จะก่อให้เกิดผลเสียกับผู้ที่เรารัก คือ การตักเตือนบอกกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนั้น ไม่ให้คล้อยตาม ถึงแม้ว่าบุคคลนั้นจะเป็น บุคคลที่เรารักก็ตาม  และกับปัญญาอีกเช่นกัน ที่จะทำให้เราเห็นถึงความดีของคนที่เราชิงชัง

ท่าน กุรซี ได้กล่าวต่อหน้าท่าน อั้มร์อิบนุลอาส รอดิญัลลอฮฺอันฮฺ ซึ่งท่านเป็นจอมทัพและเป็นผู้นำรัฐอิสลามที่ยิ่งใหญ่

ท่าน กุรซี ได้กล่าวว่า ฉันได้ยินท่าน นบี กล่าวว่า วันกิยามะห์ จะอุบัติขึ้น และชาติโรมันจะมีจำนวนประชากรมากที่สุด

ท่าน อั้มร์ ได้กล่าวถามท่าน กุรซี ว่า ที่ท่านพูดนั้นจริงหรือ ?

ท่าน กุรซี ตอบว่า ฉันพูดในสิ่งที่ฉันได้ยินจาก ท่าน นบี  

ท่าน อั้มร์ จึงได้กล่าวเสริมว่า ถ้าหากฉันจะพูด แน่นอนฉันจะพูดถึง คุณสมบัติ ๔ ประการ ของพวกเขาชาวโรมัน

ประการที่ ๑ พวกเขาจะประนีประนอมกัน ไกล่เกลี่ยกัน เมื่อ ฟิตนะห์ ความวุ่นวายเกิดขึ้น

ประการที่ ๒ พวกเขาจะสำนึกตนเร็ว หลังเกิดพิบัติภัย บาลาอฺ

ประการที่ ๓ พวกเขาจะปรองดองได้รวดเร็ว เมื่อมีความแตกร้าว

ประการที่ ๔ พวกเขาจะกระทำดีต่อคนจน เด็กกำพร้า คนอ่อนแอ

         พี่น้องศรัทธาชนที่เคารพรักทั้งหลาย สติปัญญาและการใช้มัน จะก่อให้เกิดประโยชน์กับตัวเรา จากคนที่เรารัก และคนที่เราชัง ถ้าหากเราจะพิจารณาถึง สภาพความเป็นจริงของสังคมมุสลิมของเรา ความโกลาหล ความสับสน ความไม่เข้าใจ ความไม่ลงรอย มีอยู่อย่างดาษดื่น ไม่ว่าในระดับครอบครัว ในระดับชุมชน ในระดับองค์กร ในระดับสถาบัน ทุกหัวระแหง เกิดความไม่เข้าใจทั้งสิ้น เนื่องจากเราไม่พิจารณา เราไม่ไตร่ตรอง ซึ่งบางครั้งบางคราว ความผิดที่เกิดขึ้นจากคนที่เรารัก เรากลับไม่มองในสิ่งนั้น ในทางกลับกัน เมื่อความผิดที่เกิดขึ้นจากคนที่เราชัง เราเกลียด เราไม่ชอบ เราสามารถหยิบยกสิ่งนั้นออกมา ทำให้เห็นชัด ทำให้มันเป็นที่ประจักษ์ กับบุคคลทั่วๆไป

         อัลเลาะห์ ได้ทรงสร้าง สัตว์ชนิดหนึ่ง ตัวเล็กๆ แต่มันให้ข้อคิดแก่เราอย่างมากมายมหาศาล สัตว์ที่ว่านั้นคือปลวก  อัลเลาะห์ ได้ทรงสร้างไว้ในดุนยานี้มากกว่า 2000 ชนิด แต่ว่าทุกชนิด จะมีความรัก มีความสมัครสมานสามัคคี มีความกลมเกลียว มีการเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน มีราชาปลวก มีราชินีปลวก มีปลวกงาน มีปลวกทหาร ซึ่งแต่ละตัวจะปฏิบัติหน้าที่ของมัน ตามสัญชาติญาณความเป็นปลวก ที่  อัลเลาะห์ ได้ทรงบรรจุนิสัยเอาไว้ มันจะไม่อธรรมซึ่งกันและกัน ราชาปลวก มีหน้าที่สืบพันธ์ ราชินีปลวก มีหน้าที่วางไข่ ปลวกงานมีหน้าที่หาอาหารมาเลี้ยงราชินีปลวก ปลวกทหารมีหน้าที่ปกป้องศัตรู พิทักษ์รักษารังของมัน นั่นคือ อมานะห์ ที่มี มันไม่ทำให้ขาดตกบกพร่อง

         พี่น้องศรัทธาชนที่เคารพรักทั้งหลาย กับเราในฐานะที่เป็นมุสลิม ผู้สวามิภักดิ์ต่อ อัลเลาะห์ บทบาทหน้าที่ของเรามีอยู่ จงย้อนกลับมาดูตัวเราเอง ว่า ณ ปัจจุบัน เรารับบทบาทอะไรจาก อัลเลาะห์ เรารับบทพ่อ เรารับบทแม่ เรารับบทลูก เรารับบทเพื่อนบ้าน เรารับบทผู้นำ เรารับบทผู้ตาม เรารับบทผู้รู้ เรารับบทผู้ไม่รู้ ทุกคนมีหน้าที่ทั้งสิ้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดว่า เราได้กระทำบทบาทที่ อัลเลาะห์ ได้ทรงกำหนดไว้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการใช้สติปัญญา พิจารณา ไตร่ตรอง อย่างรอบคอบ เพราะเมื่อใดก็ตาม เมื่อบทบาทมีการสลับที่กัน ความวุ่นวาย ความโกลาหลก็จะเกิดขึ้น บุคคลที่เป็นพ่อ กลับไปเป็นลูก บุคคลที่เป็นลูก กลับไปเป็นพ่อ บุคคลที่เป็นสามี กลับไปเป็นภรรยา บุคคลที่เป็นภรรยา กลับไปเป็นสามี บุคคลที่เป็นผู้รู้ กลับไปเป็นผู้ไม่รู้ บุคคลที่เป็นผู้ไม่รู้ กลับไปเป็นผู้รู้ เมื่อใดก็ตามที่สภาพการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เราทำใจได้เลยกับฟิตนะฮ์ ความโกลาหลที่เกิดขึ้น

         สิ่งหนึ่งที่เราอาจพิจารณาได้ กับสิ่งที่ ท่าน อั้มร์อิบนุลอาส รอดิญัลลอฮฺอันฮฺ ได้มองเห็นถึงความดีงาม แม้กระทั้งบุคคลผู้นั้นจะเป็นศัตรูก็ตาม นั่นคือคุณสมบัติที่เราควรนำเอามาเป็นแบบอย่าง ในทุกๆระดับ ในทุกๆบทบาทที่เราได้รับ พี่น้องศรัทธาชน สิทธิของเรา คือสิทธิที่เราจะต้องดูแล  และ  สิทธิของบุคคลที่อยู่ภายใต้การปกครองการดูแลของเรา ที่เราจะต้องบอกสิ่งนั้นต่อ อัลเลาะห์ และ สิทธิของ อัลเลาะห์ ที่ได้กำหนดมาเป็นภาระหน้าที่การปฏิบัติของเรา

          ในฐานะที่เป็นมุมิน ถ้าหากเราสามารถที่จะบริหารจัดการสองสิ่งนี้ ผ่านกระบวนการ การใช้สติปัญญา ผ่านการศึกษาการเรียนรู้ในบทบาทของเราให้ชัดเจน และถือปฏิบัติไปตามนั้น ความสุข ความสบายใจ ความอิ่มเอมจะเกิดขึ้นกับตัวเรา กับครอบครัวของเรา กับเพื่อนบ้านของเรา กับชุมชนของเรา กับสังคมของเรา ในทุกๆระดับ จะอยู่ในกรอบ จะอยู่ในระเบียบที่อัลเลาะห์ ได้ทรงกำหนดเอาไว้

คุตบะห์วันศุกร์  ณ มัสยิดท่าอิฐ