ของต้องห้าม ! ! !
โดย.. อาจารย์ สมาน แสงเราะหมัด
พี่น้องศรัทธาชนที่เคารพรักทุกท่าน ขอเราท่านทั้งหลายได้ยืนหยัดอยู่บน หลักแห่งแนวทางอันเที่ยงตรงของ อัลอิสลาม ยืนหยัดอยู่บนหลักแห่งความตักวา ความยำเกรงจากพระองค์อัลเลาะห์ อย่างแท้จริง ด้วยการประพฤติปฏิบัติสิ่งที่เป็นพระบัญชาใช้ของพระองค์อัลเลาะห์ งดเว้นออกห่างจากสิ่งที่เป็นพระบัญชาห้าม
ท่านพี่น้องที่เคารพรักทั้งหลาย การที่เราถูกสร้างขึ้นมาเป็นมนุษย์นั้น เพื่อสนองนโยบายของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อที่พวกเราจะได้เป็นผู้ที่ค้ำจุนสังคมโลก เป็นผู้ที่รังสรรค์สร้างสิ่งที่ดีงาม ให้กับโลกดุนยา หน้าที่ของเรามีการปฏิบัติ และที่ไม่ต้องปฏิบัติ คือ ปฏิบัติในสิ่งที่เป็นคำสั่งของพระองค์อัลเลาะห์ ที่เป็นบทบัญญัติ ที่เป็นบทพระบัญชาใช้สูงสุด และในขณะเดียวกันเราจะต้องไม่ปฏิบัติในสิ่งที่เป็นบทบัญญัติห้าม ของพระผู้เป็นเจ้า
การเป็นตัวตนของเรา ความเป็นมนุษย์ที่พระองค์อัลเลาะห์ ได้สร้าง อวัยวะต่างๆให้กับเรานั้น มีอยู่สองส่วนซึ่งเป็นอวัยวะที่อาจเรียกว่า นำพาเราไปสู่สุขาวดีแห่งสรวงสวรรค์ หรือมันจะชักนำพาเราถลำลงสู่เหวนรกอเวจี ท่านรอซูลุลลอฮ์ ได้เคยกล่าวสอนเตือนกับพวกเรา มีรายงานจากท่าน ยาบิร อิบนิอับดิลลาห์ ท่านยาบิร เล่าว่า ท่านรอซูลุลลอฮ์ กล่าวว่า
مَنْ ضَمِنَ لِيْ مَابَيْنَ لِحْيَتِهِ ใครก็ตามที่ประกันให้กับฉันได้ ถึงสิ่งที่อยู่ระหว่างเคราของเขา
บางริวายะห์บอกว่า مَابَيْنَ لَحْيَيْهِ สิ่งที่อยู่ระหว่างสองขากรรไกรของเขา وَرِجْلَيْهِ และสิ่งที่อยู่ระหว่างสองเท้าของเขา
ใครประกันให้ฉันได้ถึงสองสิ่งอันนี้สองอวัยวะนี้ ضَمِنْتُ لَهُ الْجَنَّةَ ฉันก็สามารถที่จะประกันให้กับเขาว่า เขาจะได้รับสวรรค์อย่างแน่นอน
จากคำสอนตรงนี้ได้ให้บทเรียนกับเราหลายอย่าง ที่จะต้องน้อมนำ ตรึกตรอง แล้วก็นำไปปฏิบัติ อวัยวะที่มันจะพาเราไปสู่สุขาวดีแห่งสวรรค์ คือ อวัยวะที่อยู่ระหว่างสองขากรรไกร ได้แก่ปาก ได้แก่ลิ้น ได้แก่ทางเดินอาหาร ที่จะนำอาหารไปสู่กะเพาะ และสิ่งที่อยู่ระหว่างสองขา นั่นคืออวัยวะเพศ
ท่านพี่น้องที่เคารพรักทั้งหลาย ความเป็นมนุษย์จะต้องมีการดำรงชีพ ด้วยกับปัจจัยสี่ ด้วยกับการมีอาหาร มีที่อยู่อาศัย มีเครื่องนุ่งห่ม และมียารักษาโรค สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นปัจจัยพื้นฐาน ที่เรานั้นจำเป็นจะต้องมี จะต้องได้มาเพื่อความเป็นอยู่ในโลกดุนยา แต่ด้วยกฎกติกาทางศาสนา อัลเลาะห์ ได้ทรงบอก บัญญัติ สอนและแนะนำกับพวกเราในทุกเรื่อง เพราะกลัวว่าเราจะถลำ พระองค์จึงออก กติกาในการดำเนินชีวิตว่าสิ่งอันใดควรทำ อันไหนทำไม่ได้เด็ดขาด ทั้งนี้มิใช่เหตุผลอื่นใดก็เพื่อความสุข ความสำเร็จในชีวิตของตัวผู้ปฏิบัตินั่นเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ใดๆในความเป็นพระผู้เป็นเจ้าแม้แต่น้อย มันเป็นสิ่งที่จะหวนกลับคืนสู่ผู้ปฏิบัติ ดังนั้นในฐานะความเป็นผู้ศรัทธา ความเป็นอยู่ของเราจึงต้องแตกต่างจากความไม่เป็นผู้ศรัทธา
ชุมชนของเราในฐานะที่เป็นชุมชนมุสลิม ย่อมจะต้องแตกต่างจากชุมชนที่ไม่ได้เป็นชุมชนมุสลิม จากคำสอนที่มีการกระตุ้นเตือนมาโดยตลอดในทุกๆวันศุกร์ ที่ให้มีความยำเกรงต่อพระองค์อัลเลาะห์ นั่นหมายถึงว่าตัวของเราจะเป็นเฉกเช่นตัวตนของคนที่มิได้เป็นมุสลิม และชุมชนของเราจะเหมือนกับชุมชนที่มิได้เป็นมุสลิมไม่ได้ เราจะต้องสะอาด ต้องปลอดจากบาปมลทินทั้งปวง ในขณะเดียวกัน ชุมชนของเราจะต้องไม่มีสิ่งที่เป็นบาปเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนว่า คำสอนคำเตือนของเราทุกวันศุกร์นั้น มันเป็นเพียงเสียงเรียกร้องที่หายไปกับสายลม กลายเป็นอากาศธาตุ ที่หลายๆคนยังมิได้น้อมนำที่จะนำไปพิจารณาและปฏิบัติ
สังคมของเราในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ มันจะต้องปลอดจากอบายมุข ปลอดจากสิ่งที่เป็นของฮาหร่ามทั้งหลาย ถ้ามันจะต้องเกิด ก็ต้องให้เกิดแบบหลบๆซ่อนๆ จะต้องให้เกิดแบบไม่ให้มีใครรู้ใครเห็น เปิดเผยไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องที่น่าละอาย ทั้งต่อตัวเอง และละอายต่อพระผู้เป็นเจ้าที่กำลังเพ่งมองอยู่ แต่วันนี้กลับยังมีอะไรต่อมิอะไรหลายๆอย่าง ที่ปรากฏต่อสายตาของเราอย่างหน้าตาเฉย ที่เป็นเรื่องมะซิยัตต่อพระองค์อัลเลาะห์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นเรื่องที่เป็นบาปใหญ่
ข้อห้ามของพระองค์อัลเลาะห์ ที่กล่าวมาข้างต้น แบ่งออกเป็นสองประเภท คือ ประเภทที่เป็นบาปเล็ก และ ประเภทที่เป็นบาปใหญ่ อันบาปเล็กนั้น แม้ว่าความหมายของมันนั้นมันมิใช่เรื่องใหญ่โต แต่อย่าคิดว่ามันไม่สำคัญ เรื่องบาปเล็กถ้ากระทำกันบ่อยๆปฏิบัติกันจนชาชิน มันจะเป็นทวีคูณ จนกลายเป็นเรื่องบาปใหญ่ได้ ส่วนเรื่องบาปใหญ่นั้นแน่นอนเหลือเกินว่า อัลเลาะห์ทรงสัญญาว่าจะลงโทษ อัลเลาะห์ ทรงสัญญาว่าจะสาปแช่งผู้ที่ปฏิบัติและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ท่านพี่น้องที่เคารพรัก วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องพิษร้ายของดอกเบี้ย เพื่อที่เรานั้นจะได้มีความเข้าใจ และได้รู้ถึงพิษร้ายว่ามันมากมายมหาศาลเพียงใด เรื่องของดอกเบี้ย ถ้าพูดเราก็คงจะนึกภาพออก มันคือเงินส่วนเกินที่เป็นผลประโยชน์กลับมาหายังผู้ที่ให้กู้ยืม ถ้าจะให้พูดกันมันต้องใช้เวลา เอาเป็นว่ามันคือเงินส่วนเกินของการกู้หนี้ยืมสินกัน และในยุคสมัยใหม่นี้มันก็มีการพลิกแพลงหลายๆอย่างที่จะทำให้ของฮารอมกลายเป็นของฮาล้าล
พระองค์อัลเลาะห์ ตรัสว่า
اَلَّدِيْنَ يَأْكُلُوْنَ الرِّبَالاَيَقُوْمُوْنَ إِلاَّ كَمَايَقُوْم ُالَّدِيْ يَتَخَبَّطُهُ الشَّيْطَانِ مِنَ المَْسِّ دلِكَ بِأَنَّهُمْ قَالُوْا إِنَّمَا الْبَيْعُ مِثْلُ الرِّبَا وَأَحَلَّ اللهُ الْبَيْعَ وَحَرَّمَ الرِّبَا فَمَنْ جَاءَهُ مَوْعِظَةٌ مِنْ رَّبِهِ فَانْتَهَى فَلَهُ مَاسَلَفَ وَأَمْرُهُ إِلَى اللهِ وَمَنْ عَادَ فَأُولئِكَ أَصْحَابُ النَّارِ هُمْ فِيْهَاخَالِدُوْنَ ( سورةالبقرة : 275 )
" บรรดาผู้ที่กินดอกเบี้ยนั้น เขาจะไม่ทรงตัว นอกเสียจากจะเป็นเช่นเดียวกับผู้ที่ซัยฏอนทำร้ายเขาทรงตัว ดังกล่าวนั้นเนื่องด้วย
พวกเขากล่าวว่า ที่จริงการค้าขายนั้นก็เหมือนการเอาดอกเบี้ย และอัลเลาะห์นั้นทรงอนุมัติการค้าขาย และทรงห้ามดอกเบี้ย
ดังนั้นผู้ใดที่การตักเตือนของพระเจ้าได้มายังเขา แล้วเขาก็เลิก สิ่งที่ล่วงแล้วมาก็เป็นสิทธิของเขา และเรื่องของเขานั้นย่อมกลับไปสู่อัลเลาะห์
และผู้ใดกลับ(กระทำ) ชนเหล่านี้คือชาวนรกโดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกตลอดกาล ชั่วกัปชั่วกัลป์"
ท่านพี่น้องที่เคารพรักทั้งหลายครับ สภาพคนที่กินดอกเบี้ยในโลกดุนยานี้ เขาไม่อาจจะใช้ชีวิตเป็นปกติสุขได้เลย ลงไปในหลุมฝังศพไม่ต้องพูดถึง ตื่นจากหลุมฝังศพในวันกิยามะฮ์ เขาจะต้องเดินทางไกลไปสู่ทุ่ง มะห์ซัร ก็ไม่อาจที่จะเดินแบบมนุษย์ธรรมดาได้ อีกทั้งท้องของเขาจะมีความใหญ่โตเหมือนกับบ้านเป็นหลังๆ ซึ่งเมื่อจะลุกทรงตัว มันก็ล้มกลิ้ง ดั่งที่กุรอ่านได้บอกไว้ ล้มกลิ้งๆ จนไม่รู้ว่ากว่าจะถึงทุ่งมะซัรจะอีกกี่สิบกี่ร้อยกี่พันปี จะพักก่อนไม่ได้หรือ ไม่ได้ครับหลังจากตื่นจากหลุมฝังศพจะมีไฟไล่ทุกคน ไล่เพื่อที่จะให้ไปถึงทุ่งมะห์ซัร ฉะนั้นคนที่กินดอกเบี้ยยังไม่ถูกพิพากษาเลย ในหลุมฝังศพก็เดือดร้อนแล้ว ตื่นจากหลุมฝังศพก็โดนลงโทษ 1. ไม่สามารถเดินอย่างปกติ และ 2. มีไฟไล่หลังที่จะทำให้ตัวของเขามอดไหม้ ซึ่งน่ากลัวมากวันหนึ่งในอาคิเราะห์เท่ากับ 1,000 ปีในดุนยา เพียงแค่เราล่าช้าไปแค่วันเดียวก่อนถึงทุ่งมะห์ซัร เราก็แย่แล้ว จะตายอีกก็ไม่ได้เพราะไม่มีการตายอีกแล้ว
لاَيَمُوتُ فِيْهَا وَلاَيَحْيَى " ไม่มีการตายจนกระทั้งมีการพิพากษา "
ดั่งที่ นบี ไปเห็นในคืนที่อิสเราะฮฺเมี๊ยะรอต คนที่กินดอกเบี้ย ภาพของเขาเป็นสภาพที่น่าสมเพช เวทนา เขาจะต้องแหวกว่ายอยู่ในทะเล ไม่มีอะไรจะกิน ไม่มีอะไรจะดื่ม เขาจะต้องดื่มน้ำเลือด และว่ายพยายามที่จะเข้าหาฝั่ง และเมื่อใกล้จะถึงฝั่งก็มีมลาอิกะฮฺอยู่ขอบชายฝั่ง แล้วเอาหินขว้างทะลวงไปที่ปากของเขาที่กำลังเหนื่อยและก็อ้าเพราะแหวกว่ายน้ำเลือด พอหินเข้าปาก มันก็ทะลุลำไล้ทะลวงออกทวาร เขากระเด็นออกไปกลางลำน้ำเลือดนั้นใหม่ ก็ต้องพยายามแหวกว่ายเข้ามาใหม่ เป็นอย่างนั้นด้วยความทรมาน
ท่านพี่น้องที่เคารพรักทั้งหลายครับ ผู้ที่กินดอกเบี้ย ไปถึงวันกิยามัตมันฉาวโฉ่ อัลเลาะห์จะให้เขามีท้องประดุจบ้านเป็นหลังๆ แต่มันเป็นท้องใสที่เห็นข้างในว่ามีอะไรอยู่ ในฮะดิษค่ำคืนอิสเราะฮฺเมี๊ยะรอต บอกอีกว่าในท้องของเขามีงู มีแมลงป่องเต็มไปหมด ที่ไปกินไปพันลำไส้ของเขาด้วยความทุกข์ทรมาน เพราะฉะนั้นเมื่อเรารู้อย่างนี้แล้ว เราจะต้องออกห่างให้ไกลที่สุด จะต้องไม่ไปเกี่ยวข้องในทุกๆกรณี เพราะไม่เช่นนั้นแล้วมันจะทำให้เราพบกับจุดจบอันน่าอนาถ และอิสลามของเรา เมื่อห้ามเรื่องใดแล้วจะห้ามแบบครบวงจร เมื่อห้ามกินดอกเบี้ย แต่ยังมีผู้ให้ดอกเบี้ยมันก็เลิกกันไม่ได้ ในฮะดิษ นบี ท่านได้บอกว่า
"พระองค์อัลเลาะห์นั้นจะสาปแช่งผู้ที่กินดอกเบี้ย ผู้ที่จ่ายดอกเบี้ย ผู้ที่บันทึกดอกเบี้ย และผู้ที่เป็นพยานให้กับกิจกรรมดอกเบี้ย"
การสาปแช่งจากเอกองค์อัลเลาะห์ มันเป็นสิ่งที่น่ากลัว คิดว่าจะได้ง่ายๆ อย่างเพิ่มพูน เพราะดอกเบี้ยมันมหาศาล ให้กู้หนึ่งหมื่น ได้คืนหมื่นห้า กู้แสน ได้คืนแสนห้าในระยะเวลาสักเดือนหนึ่ง ดูแล้วมันทบทวีคูณ ทำกำไรอย่างสูงสุดให้แก่เรา แต่อันใดที่อัลเลาะห์ และร่อซู้ลสาปแช่ง สิ่งนั้นมีแต่ความหายนะ อาจจะได้มาแบบเห็นตัวเงิน แต่ท้ายสุดแล้วไม่มีเหลือ เดี๋ยวอัลเลาะห์เก็บหมด วิธีการเก็บนี่มันมีมากมายเหลือเกิน มากจนขนาดที่เราคาดไม่ถึง เพราะฉะนั้นแล้วจงเชื่อฟังคำสั่งของอัลเลาะห์ และร่อซู้ล บาปของดอกเบี้ยนั้น มันกระทบวงกว้าง บางฮะดิษบอกว่า เรื่องของดอกเบี้ยมันมีความเสียหายถึง 70 ด้าน 70 ประตูด้วยกัน เสียหายต่อสังคม เสียหายต่อความเป็นพี่น้อง ตัดขาดวงศ์ญาติ ตัดขาดเพื่อนมิตร ยืมเงินกัน แล้วเสร็จแล้วก็ทวงกัน และไม่มีเงินจ่ายจึงมีเรื่องอื่นตามมา ดั่งที่เราเห็นกันในหน้าหนังสือพิมพ์ ฟังแล้วน่าตกใจว่า
"บาปเล็กที่สุดของดอกเบี้ยคือ บาปเหมือนกับทำซินากับแม่ของตัวเอง"
ท่านพี่น้องเมื่อเราเห็น เราจะต้องตักเตือนกันโดนใช้วิถีอิสลาม อย่าเอาวิธีของซัยฏอนมาใช้ และเมื่อการสาปแช่งจากอัลเลาะห์ และร่อซู้ล เกิดขึ้น มันแลกกันไม่ได้หรอกครับ ขอให้ผู้ที่ถลำและคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ใหญ่นักเมื่อเตาบัตก็คงจะหาย มันไม่ใช่ครับ เพราะไม่แน่ว่าการเตาบัตอันนั้นอัลเลาะห์ อาจจะไม่รับก็ได้ เพราะมันเป็นเรื่องของบาปใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์ เราจะต้องคืนส่วนต่างที่ไปรีดไถมาด้วย มันถึงจะครบองค์ประกอบของการเตาบัติ ซึ่งไม่แน่ว่าการเตาบัตอันนั้นอัลเลาะห์จะรับหรือไม่ ข้อสำคัญขอให้เรามีความตั้งใจ ขอให้เรามีความอดทนในการดำรงชีวิต ดุนยามันสั้นครับ ดั่งที่เราเห็นกันอยู่ ความตายย่อมเป็นสิ่งที่มาเตือนได้อย่างดี ท่านนบี บอกว่า
وَكَفََى بِالْمَوْتِ وَاعِظًا
"เพียงพอแล้วด้วยกับความตายที่เราได้ยินได้ฟังอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน"
เป็นสิ่งที่จะมากระตุ้นเตือนจิตสำนึก และก็ความรู้สึกแห่งการเป็นผู้ศรัทธาของเรา ด้วยความรัก และความห่วงใย
คุตบะห์ วันศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐ