รักษารักแท้ในครอบครัว
โดย อุสตาส อับดุลลอฮฺ บิน ตัสลิม อัลบัฏฮูนีย์
สำหรับบุคคลที่มีครอบครัวแล้ว แน่นอนอย่างยิ่งที่เขาจะแสวงหาความดีงามและความสุข ในชีวิตครอบครัว กับภรรยาและลูกๆ ซึ่งจะทำให้เขามีความรู้สึกรักและเป็นห่วงต่อภรรยาและลูกๆ สิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติของความเป็นมนุษย์(ฟิฏเราะห์) ที่อัลลอฮฺทรงประทานแก่หัวใจทุกดวง
อัลลอฮฺตรัสความว่า
“ได้ถูกทำให้สวยงาม (ลุ่มหลง) สำหรับมนุษย์ซึ่งความรัก ในบรรดาสิ่งที่เป็นเสน่ห์จากผู้หญิงและลูกชาย,
ทองและเงินอันมากมาย และม้าดีและปศุสัตว์ และไร่นา นั่นเป็นสิ่งอำนวยประโยชน์ชั่วคราวในชีวิตความเป็นอยู่ในโลกนี้เท่านั้น
และอัลลอฮฺนั้น ณ พระองค์ คือที่กลับอันสวยงาม”
(อาลิอิมรอน : 14)
และเช่นเดียวกัน ความโปรดปราณในเรื่องของภรรยาและลูกๆ นั้น ถือเป็นบททดสอบหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ ที่อาจเป็นต้นเหตุในการนำบุคคลหนึ่งสู่ความหายนะได้
อัลลอฮฺ ทรงเตือนในเรื่องนี้ว่า
“โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย แท้จริงในหมู่คู่ครองของพวกเจ้าและลูกหลานของพวกเจ้านั้นมีบางคนเป็นศัตรูแก่พวกเจ้า ฉะนั้นจงระวังต่อพวกเขา”
(อัตตะฆอบุน : 14)
ความหมายของคำ “เป็นศัตรูแก่พวกเจ้า” คือ ทำให้พวกเจ้าเพลิดเพลินในการกระทำสิ่งที่ฝ่าฝืนอัลลอฮฺ
(ดู ตัฟซีร อัลกุรอานุลอะซีม)
มีบางคนเข้าใจผิดต่อความรักและความห่วงใย ที่มีต่อภรรยาและลูกๆ ด้วยการตอบสนองทุกความต้องการของพวกเขา แม้มันจะผิดต่อหลักการของอิสลามก็ตาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ได้พบซึ่งความหายนะและไม่ได้รับความความดีงามใดๆเลย
เมื่อได้ใคร่ครวญโองการข้างต้น ซัยคฺ อับดุรเราะห์มาน อัสสะอฺดีย์ กล่าวว่า
“หัวใจและจิตวิญญาณของมนุษย์นั้นมีธรรมชาติ (ฟิฏเราะห์)ของมัน ในเรื่องของความรักต่อภรรยา และลูกๆ ดังนั้นในโองการข้างต้น อัลลอฮฺ จึงตักเตือนบรรดาบ่วงบ่าวของพระองค์ ว่าอย่าทำให้ความรักเหล่านี้เป็นเหตุทำให้ต้องตอบสนองทุกความต้องการของภรรยาและลูกๆ โดยที่มันเป็นสิ่งที่ผิดของหลักการอิสลาม และพระองค์ได้เน้นย้ำถึงการเคารพภักดีและเชื่อฟังต่อพระองค์ ”
(ดู ตัยสีร อัล การีม อัร เราะหฺมาน )
ดังนั้น หัวหน้าครอบครัวจึงจำเป็นที่จะต้องรักษารักแท้ในครอบครัว และให้ความสำคัญกับการดำเนินชีวิตของบุคคลในครอบครัว เพื่อให้พวกเขามีวิถีแห่งการดำเนินชีวิตตามแนวทางของอิสลาม เพราะหน้าที่นี้จะถูกสอบสวนในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ
ท่านรอซูลุลลอฮฺ กล่าวว่า
“จงทราบเถิด ว่าทุกคนนั้นล้วนเป็นผู้รับผิดชอบ และทุกคนจะถูกสอบสวนในความรับผิดชอบของเขา
สามีคนหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ(ครอบครัวของเขา) และจะถูกถามเกี่ยวกับคนในครอบครัวของเขา”
(หะดีษศอหี้ห บันทึกโดยบุคอรีย์และมุสลิม)
ในฐานะที่บุคคลหนึ่งเป็นผู้นำครอบครัว ย่อมมีความรัก ความเอ็นดู ต่อภรรยาและลูกๆ ดังนั้นจงมอบความรักที่แท้จริงและบริสุทธิ์แก่พวกเขา มิใช่เพียงการมอบความสุขและความสะดวกสบายต่างๆในโลกนี้ แต่จำเป็นที่จะต้องทำให้พวกเขามีความตระหนักในด้านการรักษาจิตวิญญาณเพื่อการอยู่ในกรอบอันดีงามของศาสนาอิสลาม ตามแนวทางของอัลกุรอานและซุนนะห์ของท่านรอซูลุลลอฮฺ และนี่แหละ คือ ความรักที่แท้จริงและบริสุทธิ์ ที่จะทำให้ครอบครัวอยู่อย่างมีความรักและความสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
อัลลอฮฺ ตรัสความว่า
“โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงคุ้มครองตัวของพวกเจ้าและครอบครัวของพวกเจ้าให้รอดพ้นจากไฟนรก ซึ่งเชื้อเพลิงของมันนั้น คือมนุษย์ และก้อนหิน”
(อัตตะหฺรีม : 6)
ท่านอลี บิน อบีฏอลิบ ได้ใคร่ครวญถึงโองการนี้และกล่าวว่า
“ดังนั้นจงสั่งใช้ในเรื่องของความดีแก่ตัวของพวกท่านและครอบครัวของพวกท่าน”
(บันทึกโดย ท่านฮากิม และท่านได้กล่าวว่าเป็นศอหี้ห ในหนังสือ “อัลมุสตัฏร็อก อะลา ศอหี้หหีน”)
ซัยคฺ อับดุรเราะห์มาน อัสสะอฺดีย์ กล่าวว่า
“การป้องกันตัวเอง (จากไฟนรก) คือ การบังคับตัวเอง เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ และออกห่างจากสิ่งที่พระองค์สั่งห้าม และกลับเนื้อกลับตัว ขออภัยโทษในสิ่งที่จะนำตามซึ่งความไม่พึงพอพระทัยและบทลงโทษจากอัลลอฮฺและการป้องกันภรรยาและลูกๆ (จากไฟนรก) คือ การอบรมสั่งสอนหลักการต่างๆของอิสลาม และสั่งใช้พวกเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ ดังนั้นปวงบ่าวคนหนึ่ง ของอัลลอฮฺจะไม่สามารถรอดพ้นจากบทลงโทษของไฟนรกได้ นอกจากเขาจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺทั้งตัวของเขาเอง และบุคคลที่อยู่ภายใต้อำนาจและความรับผิดชอบของเขา ”
(ดู ตัยสีร อัล การีม อัร เราะหฺมาน)
หัวหน้าครอบครัว จำเป็นต้องตระหนักอยู่เสมอว่า การทำให้ครอบครัวปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ นั้นเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ ที่จะนำมาซึ่งความดีงามและความสำเร็จที่แท้จริงแก่บุคคลในครอบครัว และหากละเลยต่อภารกิจที่ยิ่งใหญ่ ก็จะนำมาซึ่งปัญหาต่างๆภายในครอบครัว เช่น การทะเลาะระหว่างสามี-ภรรยา ปัญหาเกี่ยวกับลูก ปัญญาความรุนแรงในครอบครัว และปัญหาอื่นๆอีกมากมาย
อัลลอฮฺ ตรัสความว่า
“และเคราะห์กรรมอันใดที่ประสบแก่พวกนั้น ก็เนื่องจากน้ำมือของพวกเจ้าเอง ที่ได้ขวนขวาย และพระองค์ทรงอภัย (ความผิดให้) มากต่อมากแล้ว”
(อัชชูรอ : 30)
อุลามาอฺสลัฟท่านหนึ่งกล่าวว่า
“เป็นความจริง เมื่อฉันได้กระทำสิ่งที่ฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ ฉันก็จะพบว่า สิ่งที่ฝ่าฝืน ต่ออัลลอฮฺ ที่ฉันได้ทำนั้นมันมีอิทธิพลต่อภรรยาของฉัน”
(ดู อัดดาอฺ วัด ดาวาอฺ ของ อิบนุ ก็อยยิม )
บุคคลใดที่หวังในความรักและความเมตตาที่มีต่อครอบครัว ให้เป็นความรักที่แท้จริงและบริสุทธิ์ ให้มีความยั่งยืน นิรันดร ทั้งโลกนี้และโลกหน้า ก็จงทำให้ความรักที่มีอยู่นั้น เป็นไปในหนทางของอัลลอฮฺ ด้วยการตักเตือนและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในสิ่งที่เป็นการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ
อัลลอฮฺ ตรัสความว่า
“ในวันนั้นบรรดาผู้ที่รักกันจะเป็นศัตรูกัน นอกจากบรรดาผู้ยำเกรง (อัลลอฮฺ)”
(อัซซุครุฟ : 67)
โองการนี้ ย่อมเป็นการเพียงพอแล้วว่าถ้าหาก ความรัก ในโลกนี้ที่มิได้เป็นไปในหนทางของอัลลอฮฺ ในโลกหน้าจะเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้นและศัตรูกัน และความรักที่นิรันดรและยั่งยืน คือ ความรักที่เป็นไปในหนทางของอัลลอฮฺ
(ดู ตัฟซีร อัลกุรอานุลอะซีม)
และยิ่งกว่านั้น แท้จริงแล้วด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮฺที่บ่าวคนหนึ่งได้ยืนหยัด ด้วยความประสงค์ของอัลลอฮฺ เขาจะได้เห็นภรรยาและลูกๆ ที่ให้ความรื่นรมย์แก่สายตา และความสุขในจิตใจ ซึ่งสิ่งนี้ย่อมเป็นความหวังของบรรดาผู้ศรัทธา ที่จะได้ประสบกับความดีงามแก่ตนเองและครอบครัว ดังนั้นอัลลอฮฺ จึงชื่นชมแก่บ่าวของพระองค์ที่มีความยำเกรง ซึ่งพวกเขาจะขอจากพระองค์ ว่า
رَبَّنَا هَبْ لَنَا مِنْ أَزْوَاجِنَا وَذُرِّيَّاتِنَا قُرَّةَ أَعْيُنٍ وَاجْعَلْنَا لِلْمُتَّقِينَ إِمَامًا
“ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของเรา ขอพระองค์โปรดประทานแก่เรา ซึ่งคู่ครองของเราและลูกหลานของเรา
ให้เป็นที่รื่นรมย์แก่สายตาของเราและทรงทำให้เราเป็นแบบอย่างแก่บรรดาผู้ยำเกรง”
(อัลฟุรกอน : 27)
อิมาม หะซัน อัลบัศรีย์ เคยถูกถามเกี่ยวกับโองการข้างต้น ท่านได้กล่าวว่า
“ขอสาบานด้วยอัลลอฮฺ ไม่มีสิ่งไหนที่จะทำให้สายตาของผู้ศรัทธารื่นรมย์ มากไปกว่า การที่เขาได้เห็นลูกหลานของเขา ญาติพี่น้องของเขา และบุคคลที่เขารัก เคารพภักดี และเชื่อฟังต่ออัลลอฮฺ ”
(ดู ตัฟซีร อัลกุรอานนุลอะซีม)
และสำหรับบุคคลที่ยังไม่มีภรรยาและลูกๆ เราสามารถรักษารักแท้ภายในครอบครัว ด้วยการอบรม สั่งสอน ตักเตือน บิดามารดาของเรา ญาติพี่น้องของเรา หลานๆของเรา เพื่อที่ว่าครอบครัวของเราจะได้อยู่ร่วมกันด้วยรักแท้และสันติในสวนสวรรค์ของอัลลอฮฺ และเราขอจบท้ายด้วยดุอาอฺ ที่ว่า
رَبَّنَا هَبْ لَنَا مِنْ أَزْوَاجِنَا وَذُرِّيَّاتِنَا قُرَّةَ أَعْيُنٍ وَاجْعَلْنَا لِلْمُتَّقِينَ إِمَامًا
“ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของเรา ขอพระองค์โปรดประทานแก่เรา ซึ่งคู่ครองของเราและลูกหลานของเรา
ให้เป็นที่รื่นรมย์แก่สายตาของเราและทรงทำให้เราเป็นแบบอย่างแก่บรรดาผู้ยำเกรง”
(อัลฟุรกอน : 27)
แปลและเรียบเรียง มูฮำหมัดกามัล อัลฟัจรีย์