ความยำเกรงต่ออัลลอฮ์ (ตักวา) หนึ่งในคุณสมบัติของมุสลิมที่แท้จริง
โดย... ปริญญา ประหยัดทรัพย์
ตักวา คืออะไร?
ตักวา หมายถึง ความยำเกรง การยึดมั่นในการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ ด้วยความประสงค์ และมุ่งหวังในผลบุญแห่งการตอบแทนและเกรงกลัวต่อบทลงโทษของอัลลอฮ์
ด้วยการประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้ และออกห่างจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม
อัต-ตักวา ตามหลักภาษา หมายถึง การหักห้ามหรือป้องกัน
อัต-ตักวา ตามหลักศาสนา หมายถึง การป้องกันตนเองจากการฝ่าฝืน ละทิ้งการตั้งภาคี การกระทำสิ่งที่น่ารังเกียจ และบาปใหญ่ทั้งหลาย และปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนทางศาสนาอย่างสมบูรณ์
ตักวาในกรอบของอัลกุรอาน
พระองค์อัลลอฮ์ ตรัสไว้ในพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอานเกี่ยวกับ “ตักวา” ว่า
" โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงเคารพสักการะพระผู้อภิบาลของสูเจ้า
ผู้ทรงสร้างสูเจ้า และบรรดาก่อนหน้าสูเจ้า เพื่อสูเจ้าจะได้เกิดความยำเกรง"
(ซูเราะฮ์ อัล-บะกอเราะฮ์ โองการที่ 21)
ตักวาในกรอบของ อัลหะดีษ
ท่านนบีมูฮำหมัด ได้กล่าวว่า
" มนุษย์ที่มีเกียรติที่สุด คือผู้ที่มีความยำเกรง (พระเจ้า) มากที่สุดในหมู่พวกเขา"
(รายงานโดย บุคอรี และมุสลิม)
อัตตักวาในมิติของบรรดาศอฮาบะฮ์
ท่านอะลี รอดิยัลล่อฮู่อันฮู กล่าวว่า ตักวา คือ การเกรงกลัวอัลลอฮ์ ปฏิบัติบทบัญญัติที่ประทานลงมา มีความพอเพียง และมีความพร้อมในการตระเตรียมเสบียงไว้เพื่อวันโลกหน้า
ท่านอบีดัรดาฮ์ รอดิยัลลอฮูอันฮู กล่าวว่า การตักวา คือการที่บ่าวคนหนึ่งได้มีความยำเกรงต่ออัลลอฮ์ด้วยการละทิ้งทุกอณูแห่งความผิดบาป สู่การปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ทรงบัญชาทุกประการ
ท่านอิบนุอับบาส รอดิยัลลอฮูอันฮู กล่าวว่า : บรรดาผู้มีความตักวานั้น คือผู้ที่มีความระมัดระวังการลงโทษของอัลลอฮ์ ด้วยการปฏิบัติตามในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้ ละเว้นในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม มีความหวังในพระเมตตาของอัลลอฮ์
อัตตักวาในมิติของปวงปราชญ์
ท่านอิบนุมุอ์ตะมิร กล่าวว่า : ท่านจงละทิ้งความบาปไม่ว่าบาปเล็ก หรือ บาปใหญ่ ท่านก็จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ตักวา
ท่านหะซัน อัล บัศรีย์ กล่าวว่า : บรรดาผู้มีตักวาคือบุคคลที่ปกป้องตนเองจากสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงบัญญัติห้าม และปฏิบัติตามสิ่งที่อัลลอฮ์
ทรงกำหนดเหนือพวกเขา
สุนทรียภาพแห่งตักวา
สัญชาตญาณแห่งความกลัว เป็นสิ่งยืนยันในความอ่อนแอและต่ำต้อยของมนุษย์ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปบ้างแต่ละคนแต่ละเหตุการณ์ เช่น กลัวความมืด ความยากจน หรือความตาย สิ่งที่มนุษย์กลัวมักจะเป็นสิ่งที่ตนเองไม่เคยประสบมาก่อนหรือยังไม่อุบัติขึ้น เช่น ความตาย
ความกลัวในสิ่งต่าง ๆ เป็นอุปทานคอยหลอนจิตใจให้กลายเป็นคนขี้ขลาด อ่อนแอ ขาดพลังทางจิต ไม่กล้าเผชิญต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ แต่ความกลัวอัลลอฮ์จะทำให้เป็นคนที่เข้มแข็ง เป็นตัวของตัวเอง สามารต่อสู้กับปัญหา และอุปสรรคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังทำให้กล้าที่จะเผชิญกับทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็นบุคคล เหตุการณ์ หรือสภาวการณ์ก็ตาม
♦ ความกลัวอัลลอฮ์ เป็นความรู้สึกรวบยอดที่ตระหนักในหน้าที่ของตนต่ออัลลอฮ์
รู้ซึ้งถึงอำนาจของพระองค์ และตระหนักถึงโทษทัณฑ์ที่จะถูกลงโทษ เมื่อฝ่าฝืนคำสั่งของพระองค์ ดังนั้นเมื่อเรามีความกลัวอัลลอฮ์
อย่างแท้จริง เราจะไม่หวั่นวิตกต่อสิ่งอื่นใด และจะเกิดพลังจิตที่แข็งกล้า เสริมพลังทางสติปัญญาให้มั่นคงยิ่งขึ้น แล้วสิ่งดีงามทั้งหลายก็จะถูกประทานลงมาให้อย่างมากมาย นั่นคือ ได้รับทางนำและความเมตตาจากอัลลอฮ์
ดังที่พระองค์ทรงตรัสไว้ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานว่า
" การชี้นำและความเมตตาจักประสบแก่ บรรดาผู้ยำเกรงต่อพระผู้อภิบาลของเขา"
(ซูเราะฮ์ อัล-อะฮ์รอฟ โองการที่ 134)
♦ ผู้ที่เกรงกลัวอัลลอฮ์ จิตใจและบุคลิกภาพของเขามีความอ่อนน้อม อ่อนโยน มีคัมภีรภาพ พระองค์จักประทานองค์ความรู้ให้แก่เขา ซึ่งผลพวงจากความรู้นั้นจะทำให้เขามีความกลัวต่ออัลลอฮ์
อย่างแท้จริง ดังที่พระองค์ทรงตรัสไว้ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานว่า
" โดยแท้จริงผู้ที่เกรงกลัวอัลลอฮ์จากปวงบ่าวของพระองค์คือ ผู้มีวิชาความรู้ "
(ซูเราะฮ์ฟาฏิร โองการที่ 28)
♦ ความเกรงกลัวอัลลอฮ์ เป็นรากฐานอันแข็งแกร่งที่ทำให้มวลผู้ศรัทธามีจิตใจมั่นคงพร้อมที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่กล้ำกรายด้วยความยินดีต่อการทดสอบของพระองค์ และพระองค์ก็จะทรงให้ความยินดีต่อเขาด้วย ดังโองการจากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระบุว่า
" อัลลอฮ์ทรงยินดีต่อพวกเขา และพวกเขาก็ยินดีต่อพระองค์ นั่นคือสำหรับผู้ที่เกรงกลัวพระเจ้าของพวกเขา"
(ซูเราะฮ์ อัล-บัยยินะฮ์ โองการที่ 8)
♦ ความเกรงกลัวอัลลอฮ์ เป็น แรงบันดาลใจให้มีความสุขกับการละหมาด การบริจาคทาน และการปฏิบัติศาสนกิจอื่น ๆ อันเป็นความสุขแห่งสวรรค์ในโลกนี้และผลจากการดังกล่าวเขาจะได้พบกับสวรรค์ในปรโลกอย่างแน่นอน ดังโองการจากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานได้ระบุว่า
" และผู้ที่เกรงกลัวอัลลอฮ์ ตำแหน่งแห่งองค์อภิบาลของเขาจะได้รับรองสวรรค์เป็นสิ่งตอบแทน"
(ซูเราะฮ์ อัร-เราะห์มาน โองการที่ 46)
ความสำเร็จของผู้ตักวา
ตักวาเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการที่จะได้มาซึ่งความรัก ความเมตตา และความพึงพอพระทัยจากอัลลอฮ์ เป็นวิถีที่นำไปสู่ความใกล้ชิดและจงรักภักดีต่อพระองค์ ตักวา คือ ความหวัง ความปรารถนาและเสบียงของผู้ศรัทธา ดังนั้นผู้ที่ตักวา เขาจะได้รับผลลัพธ์แห่งการตอบแทน ดังนี้
♥ ได้รับการปกป้องให้พ้นภัยจากศัตรู ดังโองการจากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระบุว่า
"และถ้าหากพวกเจ้าอดทน และยำเกรงแล้วไซร้ อุบายของพวกเขาก็ย่อมไม่เป็นอันตรายแก่พวกเจ้าแต่อย่างใด"
(ซูเราะฮ์ อัล-อะลิอิมรอน โองการที่ 120)
♥ ได้รับการอภัยโทษ และรางวัลอันยิ่งใหญ่จากอัลลอฮ์ จากอัลกุรอาน ความว่า
" โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงยำเกรงอัลลอฮ์ และจงกล่าวถ้อยคำที่เที่ยงตรงเถิด
พระองค์จะทรงปรับปรุงการงานของพวกเจ้าให้ดีขึ้นสำหรับพวกเจ้า
และจะทรงอภัยโทษความผิดของพวกเจ้าให้แก่พวกเจ้า
และผู้ใดเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮ์ และรอซูลของพระองค์ แน่นอนเขาได้รับความสำเร็จอันใหญ่หลวง"
(ซูเราะฮ์ อัล-อะห์ซาบ โองการที่ 70-71)
♥ ได้รับเกียรติจากอัลลอฮ์ จากอัลกุรอาน ความว่า
" แท้จริงผู้ที่มีเกียรติยิ่งในหมู่พวกเจ้า ณ ที่อัลลอฮ์นั้น คือ ผู้ที่มีความยำเกรงยิ่งในหมู่พวกเจ้า"
(ซูเราะฮ์ อัล-หุญุรอต โองการที่ 13)
♥ ปลอดภัยและรอดพ้นจากไฟนรก จากอัลกุรอาน ความว่า
" แล้วเราจะให้บรรดาผู้ยำเกรงรอดพ้น และเราจะปล่อยให้บรรดาผู้อธรรมคุกเข่าอยู่ในนั้น"
(ซูเราะฮ์ มัรยัม โองการที่ 72)
♥ เข้าสู่สรวงสวรรค์ของอัลลอฮ์ จากอัลกุรอาน ความว่า
"และพวกเจ้าจงรีบเร่งกันไปสู่การอภัยโทษ จากพระเจ้าของพวกเจ้า
และไปสู่สวรรค์ซึ่งความกว้างของมันนั้น คือบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดิน"
(ซูเราะฮฺ อาลิอิมรอน โองการที่ 133)
♥ พบกับทางออกแห่งชีวิตเมื่อเผชิญกับวิกฤตการณ์ต่าง ๆ และได้รับปัจจัยยังชีพ จากอัลกุรอาน ความว่า
" และผู้ใดยำเกรงอัลลอฮ์ พระองค์ก็จะหาทางออกให้แก่เขา และจะทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่เขาโดยที่เขามิได้คาดคิด"
(ซูเราะฮ์ อัต-ฎอล๊าก โองการที่ 2-3)
คุณค่าของตักวา
ตักวา คือ กระบวนการก่อให้เกิดมรรคเกิดผล ซึ่งผู้ที่ตักวาจะได้รับทั้งในโลกนี้และโลกหน้าเพื่อที่จะได้เป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในอาณาจักรแห่งความรัก ความเมตตาของพระองค์ ซึ่งคุณค่าของตักวานั้นก่อให้เกิดผลดังต่อไปนี้
ตักวา เป็นกระบวนการจำแนกความจริงออกจากความเท็จ
ตักวา คือ เสบียงที่ดีที่สุดของมวลผู้ศรัทธา
ตักวา คือ กำแพงป้องกันให้รอดพ้นจากการกล้ำกรายของชัยฏอนมารร้าย
ตักวา เป็นเหตุทำให้บ่าวได้รับทางนำแห่งสัจธรรม
ตักวา เป็นเหตุทำให้รอดพ้นจากความทุกข์ยาก ได้รับริสกี สะดวกง่ายดาย
ตักวา เป็นเหตุให้เขาเป็นคนรักของอัลลอฮ์
ตักวา เป็นเหตุให้การประพฤติปฏิบัติของเขาถูกตอบรับ
ตักวา เป็นเหตุให้ได้รับการอภัยโทษจากอัลลอฮ์
ตักวา เป็นเหตุให้เขาอยู่ใต้ร่มเงาและใกล้ธารน้ำในสรวงสวรรค์
ตักวา เป็นเหตุให้ได้รับความสำเร็จและความดีงามในโลกนี้และโลกหน้า
ตักวา เป็นเหตุแห่งการได้รับความช่วยเหลือจากอัลลอฮ์
ตักวา เป็นมาตรวัดความมีเกียรติและความแตกต่างระหว่างมนุษย์ในทัศนะของอิสลาม
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น จะเห็นได้ชัดเจนว่า “ตักวา” นั้นเป็นสัญชาตญาณอันดีที่อัลลอฮ์ ประทานแก่มนุษย์ด้วยการทำความดี ซึ่งมนุษย์จะได้รับแนวทางที่ถูกต้อง และเขาก็จะยิ่งได้รับความยำเกรงเป็นสัญชาตญาณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ตักวา คือ สภาพของหัวใจ เป็นสภาพที่สะอาดบริสุทธิ์ และงดงามที่สุดของหัวใจซึ่งนำไปสู่การทำความดีทั้งปวง การมีตักวาคือสาระสำคัญและเป็นวิญญาณของคำสอนแห่งอิสลาม เป้าหมายสูงสุดของการเคารพสักการะอัลลอฮ์ และการประกอบศาสนกิจทั้งปวง รวมถึงคำสอนทางศีลธรรม คือการก่อให้เกิดความยำเกรงต่ออัลลอฮ์
อย่างแท้จริง ดังที่ท่านบรมศาสดามูฮำหมัด
ได้กล่าวคำปราศรัยในการประกอบพิธีฮัจญ์ครั้งสุดท้ายว่า
"ชนชาติอาหรับมิได้เหนือกว่าคนที่มิใช่อาหรับ และคนผิวขาวก็มิได้เหนือไปกว่าคนผิวดำ
แต่คนที่มี “ตักวา” ยำเกรงต่อพระผู้เป็นเจ้ามากที่สุดต่างหากคือผู้มีเกียรติที่สุด"
เนื่องจากความยำเกรงอัลลอฮ์เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากในอิสลาม ความแตกต่างที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นมาเอง เช่น เผ่าพันธุ์ สีผิว เชื้อชาติ ครอบครัว ทรัพย์สิน และบรรพบุรุษจึงถูกลบออกไปด้วยคำสอนของท่านนบีมูฮำหมัด และมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เหลือไว้ใช้วัดเกียรติ และความแตกต่างกันของมนุษย์ นั่นคือความยำเกรงต่ออัลลอฮ์
ดังที่พระองค์อัลลอฮ์
ตรัสไว้ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานว่า
" โอ้มนุษย์ชาติทั้งหลาย แท้จริงเราได้สร้างพวกเจ้าจากเพศชาย และเพศหญิง
และเราได้ให้พวกเจ้าแยกเป็นเผ่า และตระกูล เพื่อจะได้รู้จักกัน
แท้จริงผู้ที่มีเกียรติยิ่งในหมู่พวกเจ้า ณ ที่อัลลอฮ์นั้นคือ ผู้ที่มีความยำเกรงยิ่งในหมู่พวกเจ้า"
(ซูเราะฮ์ อัล-หุญุร๊อต โองการที่ 13)
สำนักจุฬาราชมนตรี