นครมะดีนะฮ์เมืองแห่งความประเสริฐ
  จำนวนคนเข้าชม  12130

นครมะดีนะฮ์เมืองแห่งความประเสริฐ

 
โดย : เชคอับดุลมัวะฮฺซิน  บินฮะมัด  อัลอับบาด  อับบัดร.


ความประเสริฐเกี่ยวกับชื่อเมือง

          ส่วนหนึ่งจากความประเสริฐของนครมะดีนะฮ์ที่มีความจำเริญ  คือ  นบีมุฮัมมัด ได้ตั้งชื่อนครมะดีนะฮฺว่า  “ฏอยบะฮ์”  หรือ  “ฏอบะฮ์”  โดยมีหลักฐานยืนยันอยู่ในหนังสือศ่อเฮี้ยะฮ์มุสลิม ว่า  นบีมุฮัมมัด  กล่าวว่า

“แท้จริง  อัลลอฮฺทรงตั้งชื่อนครมะดีนะฮฺว่า ฏอบะฮฺ”

คำทั้งสองนี้คือ  “ฏอยบะฮ์”  และ  “ฏอบะฮ์”  ผันมาจากคำว่า  “ฎอยยิบ”  แปลว่า  “ดี”  ซึ่งบ่งชี้ว่า  ชื่อทั้งสองนี้เป็นสิ่งที่ดี  จึงถูกนำมาเรียกสถานที่ดี

 

ความศรัทธาที่พรั่งพรู

         ส่วนหนึ่งจากความประเสริฐของนครมะดีนะฮ์  คือ  ความศรัทธาได้พรั่งพรูมายังเมืองนี้  ดังที่ท่านร่อซูลลอฮ์  กล่าวว่า

“แน่แท้  ความศรัทธาจะพรั่งพรูไปยังนครมะดีนะฮ์ ดังเช่นงูที่พรั่งพรูไปยังรูของมัน”

(บันทึกโดย อัลบุคอรียฺ  และมุสลิม)

          หมายความว่า  ความศรัทธาจะพรั่งพรูไปยังนครมะดีนะฮ์และปกคลุมเมืองนี้  บรรดามุสลิมต่างมุ่งไปยังนครมะดีนะฮฺและพรั่งพรูไปยังเมืองนี้  เนื่องจากความศรัทธาและมีความรักในย่านที่มีความจำเริญ  ซึ่งพระองค์อัลลอฮ์ทรงพิทักษ์ไว้

 

เมืองแห่งชัยชนะ

          ส่วนหนึ่งจากความประเสริฐของนครมะดีนะฮ์  ปรากฏอยู่ในรายงานนอกจากท่านนบี  ว่า  เป็นเมืองที่มีชัยชนะเหนือเมืองทั้งหลาย 

“ฉันถูกใช้ให้อพยพไปยังตำบลหนึ่งซึ่งกินตำบลทั้งหลาย  พวกเขาเรียกมันว่า  ยัษริบ  คือ  อัลมะดีนะฮ์”

(บันทึกโดย  อัลบุคอรียฺและมุสลิม)

         คำพูดของท่านร่อซูล  ที่ว่า  “กินตำบลทั้งหลาย”  มีการอธิบายว่า  เมืองนี้มีชัยเหนือเมืองทั้งหลายและเอาชนะตำบลต่าง ๆ และอธิบายว่า  จะมีการนำทรัพย์เชลยและทรัพย์สงครามที่ได้มาโดยการทำญิฮาดในหนทางของอัลลอฮ์  ส่งมายังนครมะดีนะฮ์  ทั้งชัยชนะและทรัพย์สงครามนี้  เกิดขึ้นจริง  โดยที่เมืองนี้มีชัยเหนือเมืองอื่น ๆ

ดังที่นักเผยแพร่ผู้พัฒนาและผู้พิชิตผู้บุกเบิก  ได้นำหมู่ชนออกจากความมืดสู่ความสว่างด้วยการอนุมัติจากพระเจ้าของพวกเขา  จึงทำให้ประชาชนทั้งหลายเข้านับถือศาสนาของอัลลอฮฺ    และนำความดีทั้งหลายสู่ชาวโลก  ซึ่งออกมาจากนครมะดีนะฮ์ที่จำเริญนี้  อันเป็นยุคของชนรุ่นแรกจากบรรดาศ่อฮาบะฮ์ของท่านร่อซูลุลลอฮ์    และบรรดาคอลีฟะฮ์ผู้ปราดเปรื่อง 

บรรดาทรัพย์สงครามที่ยึดได้ถูกส่งมายังนครมะดีนะฮ์  สภาพเช่นนี้ก็เกิดขึ้นจริงเพราะท่านนบีได้บอกถึงการที่ได้นำเอาคลังสมบัติของกิสรอแห่งอาณาจักรเปอร์เซียและไกเชอร์แห่งอาณาจักรโรมัน  มาใช้จ่ายในหนทางของอัลลอฮ์ โดยได้มีการลำเลียงคลังสมบัติทั้งหลายมายังนครมะดีนะฮ์อันจำเริญ  และได้จัดการแบ่งสรรโดยมือของคอลีฟะฮ์ อุมัร  อิบนุ ศ็อฏฏ็อบ

 

ส่งเสริมให้มีความอดทน

          ส่วนหนึ่งจากความประเสริฐของนครมะดีนะฮ์  คือ  นบีมุฮัมมัด  ส่งเสริมให้มีความอดทนและบากบั่นอุตสาหะ  ขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนี้  โดยที่ท่านนบี  กล่าวว่า

“นครมะดีนะฮ์สำหรับพวกเขา  ถ้าหากว่าพวกเขารู้”

          การที่ท่านร่อซูลุลลอฮ์  กล่าวเช่นนี้  เพื่อเป็นการทักท้วง  บรรดาผู้ที่ต้องการเดินทางออกจากนครมะดีนะฮ์  เพื่อไปอาศัยอยู่ในสถานที่อื่น ๆ โดยปรารถนาในความสุขความสบาย  การมีริซกีที่กว้างขวางและมีทรัยพ์สินเงินทองมากมาย  ท่านนบีมุฮัมมัด  กล่าวว่า


 
“นครมะดีนะฮ์สำหรับพวกเขา  ถ้าหากว่าพวกเขารู้ ไม่มีคนใดปรารถนาอื่นจากมัน  (นครมะดีนะฮ์)  นอกจากอัลลอฮ์จะทรงทดแทนผู้ที่ดีกว่าเขาให้มาอาศัยอยู่ในเมืองนี้ 

และไม่มีคนใดยืนหยัดต่อความหิวโหยและความยากลำบากของเมืองนี้  นอกจากฉันจะเป็นผู้ขอซะฟาอะฮ์หรือจะเป็นพยานให้แก่เขาในวันกิยามะฮ์”

(บันทึกโดย มุสลิม)

         นี่เป็นการบ่งบอกถึงความประเสริฐของนครมะดีนะฮ์  ความประเสริฐของการมีความอดทนต่อความยากลำบาก  ความหิวโหยทุกข์ภัยและความลำเค็ญที่ประสบกับคนหนึ่ง  ภาวะเช่นนั้นมิได้เป็นปัจจัยผลักดันให้เขาต้องอพยพออกจากนครมะดีนะฮ์ไปอาศัยอยู่ในเมืองอื่น  เพื่อแสวงหาความสุขสบาย  การมีริซกีที่กว้างขวาง  แต่ทว่าเขามีความอดทนต่อสิ่งที่มาประสบกับเขาโดยที่เขาได้รับการสัญญาว่าจะได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่และผลบุญที่ท่วมท้นจากอัลลอฮ์ 

 

การอุตริในเรื่องของศาสนา

          ส่วนหนึ่งจากความประเสริฐของนครมะดีนะฮฺ  ท่านนบีมุฮัมมัด    ได้แจ้งถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองนี้  การอุตริในเรื่องของศาสนาถือเป็นอันตรายอย่างยิ่ง  เมื่อท่านได้บอกถึงเขตฮะรอมของเมืองโดยกล่าวว่า

“นครมะดีนะฮ์มีขอบเขตฮะรอมระหว่างภูเขาอัยร์ถึงภูเขาซูร  ผู้ใดที่ก่อการอุตริหรือให้ที่พักพิงแก่ผู้อุตริ 

เขาจะถูกสาปแช่งจากอัลลอฮ์ และมะลาอิกะฮ์ และมวลมนุษย์  พระองค์อัลลอฮ์จะไม่ทรงรับการขออภัยโทษและการไถ่โทษใด ๆ จากเขา”

(บันทึกโดย บุคอรีย์  และมุสลิม)

 

 

แปลและเรียบเรียงโดย  อาจารย์มูนีร  มูฮัมมัด

ที่มา : อัลอิศลาห์สมาคม