ความยิ่งใหญ่ของอัลกุรอาน 1
โดย... ซัยคฺ มูฮำหมัด บินญามีล ซัยนู
อัลกุรอาน เป็นพระดำรัสของอัลลอฮ์ ที่พระองค์ประทานแด่ท่าน นบีมูฮำหมัด เพื่อเป็นทางนำและแนวทางดำเนินชีวิตอย่างสงบสุขแก่มวลมนุษยชาติ อัลกุรอานมีทั้งหมด 114 ซูเราะฮ์ เริ่มต้นด้วยซูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ และจบท้ายด้วยซูเราะฮ์อันนาส และมีทั้งหมด 30 ยุซ จะขอกล่าวถึงส่วนหนึ่งจากความยิ่งใหญ่ของอัลกุรอาน ซึ่งมีดังนี้
1.การอ่านอัลกุรอาน จะได้รับผลบุญอย่างมากมาย คือ การเพียงแค่ 1 ตัวอักษร จะได้รับผลบุญ เท่ากับ 10 ผลบุญ ท่านนบีมูฮำหมัด กล่าวว่า
“ผู้ใดที่อ่านพระดำรัสของอัลลอฮฺ(อัลกุรอาน) หนึ่งตัวอักษรเขาจะได้รับหนึ่งความดีงาม โดยหนึ่งความดีงามนั้นจะเพิ่มทวีคูณเป็นสิบเท่า ฉันไม่ได้บอกว่า อลิฟ ลาม มีม เป็นหนึ่งอักษร แต่ อลิฟ เป็นหนึ่งอักษร ลาม เป็นหนึ่งอักษร มีม ก็เป็นอีกหนึ่งอักษร”
(หะดีษหะซัน ศอหี้ห บันทึกโดยติรมีซีย์)
2.การละหมาดจะไม่ได้รับการตอบรับ หากไม่มีการอ่านซูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ ซึ่ง ซูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์นั้น เป็นส่วนหนึ่งจากอัลกุรอาน ท่านนบีมุฮำหมัดกล่าวว่า
“ไม่ใช่การละหมาด สำหรับบุคคลที่ไม่อ่านซูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์”
(หะดีษศอหี้ห บันทึกโดยบุคอรีย์ และมุสลิม)
3.อัลกุรอาน เป็นพระมหาคัมภีร์เดี่ยวที่อัลลอฮ์ทรงรักษา จากการถูกบิดเบือน และแก้ไข อัลลอฮ์ตรัสความว่า
“เราได้ให้ข้อตักเตือน(อัลกุรอาน)ลงมา และแท้จริงเราเป็นผู้รักษามันอย่างแน่นอน”
(อัลฮิจรฺ : 9 )
4.อัลกุรอาน จะไม่มีความขัดแย้งกันระหว่างโองการต่างๆที่อยู่ในนั้น อัลลอฮ์ตรัสความว่า
“พวกเขาไม่พิจารณาดูอัลกุรอานบ้างหรือ ?
และหากว่า อัลกุรอานมาจากผู้ที่ไม่ใช่อัลลอฮ์แล้ว แน่นอนพวกเขาก็จะพบว่าในนั้นมีความขัดแย้งกันอย่างมากมาย”
(อันนิซาอฺ:82)
5.อัลกุรอาน เป็นสิ่งที่ง่ายในการที่จะอ่าน ท่องจำ ศึกษา ใคร่ครวญ และทำความเข้าใจ อัลลอฮ์ตรัสความว่า
“และโดยแน่นอน เราได้ทำให้อัลกุรอานนี้เป็นที่เข้าใจง่ายแก่การรำลึก แล้วมีผู้ใดบ้างที่รับข้อตักเตือนนั้น”
(อัลเกาะมัร : 32)
6.อัลกุรอานเป็น ปาฏิหาริย์(มะอ์ญิซาต) อันยิ่งใหญ่ที่อัลลอฮ์ ประทานแก่ท่าน นบีมูฮำหมัด และจะไม่มีใครสามารถแต่ง หรือลอกเลียนแบบได้ ซึ่งอัลลอฮ์ เคยให้นบีมูฮำหมัดท้าทายกับผู้ปฏิเสธศรัทธาอาหรับกุร็อช ว่า
หรือพวกเขากล่าว่า “เขา(มุฮัมมัด) เป็นผู้ปั้นแต่ง(อัลกุรอ่าน)ขึ้นเอง”
จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) “พวกท่านจงนำกลับมาสักบทหนึ่งเยี่ยงนั้น และจงเรียกร้องผู้ที่พวกท่านสามารถนำมาได้ นอกจากอัลลอฮ์ หากพวกท่านเป็นผู้สัจจริง”
(ยูนูส : 38)
7.อัลกุรอาน จะให้ความสงบสุขและความเมตตาจากอัลลอฮ์ แก่ผู้อ่าน ท่านนบีมุฮำหมัด กล่าวว่า
“ไม่มีกลุ่มบุคคลใดที่รวมตัวกันในบ้านหลังหนึ่งจากบ้านของอัลลอฮ์ (มัสยิด) แล้วพวกเขาต่างอ่านคัมภีร์ของอัลลอฮ์ (อัลกุรอาน) พร้อมทั้งศึกษาทำความเข้าใจกับคัมภีร์นั้น นอกจากความสงบจะถูกประทานลงมาแก่พวกเขา ความเมตตาของอัลลอฮ์ ก็จะถูกแผ่ให้แก่พวกเขา มวลมลาอิกะฮ์จะสยบปีกให้แก่พวกเขา แล้วอัลลอฮ์ก็จะดำรัสถึงพวกเขากับผู้ใกล้ชิดพระองค์ (ด้วยความภาคภูมิใจ)”
(หะดีษศอหี้ห บันทึกโดยมุสลิม)
8.อัลกุรอานเป็นทางนำในการดำเนินชีวิต แก่ผู้ที่มีชีวิตเท่านั้น และไม่ใช่สำหรับคนที่ตายแล้ว อัลลอฮ์ ตรัสความว่า
“เพื่อตักเตือนผู้ที่มีชีวิต และเพื่อข้อตักเตือนนั้นเป็นหลักฐานยืนยันแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา”
(ยาซีน : 70)
และอัลลอฮ์ ตรัสความว่า
“และมนุษย์จะไม่ได้อะไรเลย นอกจากสิ่งที่เขาได้ขวนขวายเอาไว้”
(อันนัจม : 39)
อิมามชะฟีอีย์ ได้ให้ทัศนะจากโองการข้างต้นว่า
“ผลบุญของการอ่านอัลกุรอานจะไม่ถึงแก่ผู้ตาย เพราะการอ่านอัลกุรอานเป็นการงานของผู้ที่มีชีวิตอยู่และคนที่ตายไปแล้วจะไม่สามารถกระทำได้ ยกเว้นในกรณีการอ่านอัลกุรอานของลูกที่ดี ผลบุญย่อมถึงพ่อแม่ที่ตายไปแล้ว เพราะลูกที่ดีนั้น เป็นผลมาจากการอบรมสั่งสอนของพ่อแม่ ดังที่ปรากฏในหะดีษของท่านรอซูลุลลอฮ์ ”
9.อัลกุรอาน สามารถเป็นยารักษาโรคของจิตวิญญาณ เช่น โรคแห่งการปฏิเสธ โรคกลับกลอก โรคโอ้อวด โรคอิจฉาริษยา โรคมืด โรคซึมเศร้า และอื่นๆ อัลลอฮ์ ตรัสความว่า
“โอ้มนุษย์เอ๋ย ! แท้จริงข้อตักเตือน (อัลกุรอาน) จากพระเจ้าของพวกท่าน ได้มายังพวกท่านแล้ว และ(มัน) เป็นการบำบัดสิ่งที่มีอยู่ในทรวงอก
และเป็นการชี้แนะทาง และเป็นความเมตตาแก่บรรดาผู้ศรัทธา”
(ยูนูส : 57)
และอัลลอฮ์ ตรัสความว่า
“และเราได้ให้ส่วนหนึ่งจากอัลกุรอานลงมา ซึ่งเป็นการบำบัดและความเมตตาแก่บรรดาผู้ศรัทธา”
(อิสรออฺ : 82)
10.อัลกุรอาน จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่อ่านมันในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ ท่านนบีมูฮำหมัดกล่าวว่า
“จงอ่านอัลกุรอ่าน เพราะแท้จริงอัลกุรอ่านจะมาในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ เป็นผู้ที่ช่วยเหลือแก่เพื่อนของมัน(ผู้ที่อ่านอัลกุรอ่าน)”
(หะดีษศอหี้ห บันทึกโดยุมสลิม)
11.อัลกุรอาน เป็นคัมภีร์ที่จะยืนยันถึงคัมภีร์ที่ถูกประทานมาก่อนหน้านี้ อัลลอฮ์ตรัสความว่า
“และเราได้ประทานคัมภีร์ลงมาแก่เจ้า ด้วยความสัจธรรม ในฐานะเป็นที่ยืนยันคัมภีร์ที่อยู่เบื้องหน้ามันและเป็นที่ควบคุมคัมภีร์(เบื้องหน้า) นั้น”
(อัลมาอิดะฮฺ : 48)
อัลหะฟิซ อิบนุ กะซีร ได้กล่าวว่า
“ได้มีความคิดเห็นต่างๆในเรื่องของการอธิบายคำว่า مُهَيْمِنًا (เป็นที่ควบคุมคัมภีร์(เบื้องหน้า นั้น) ซึ่งความคิดเห็นต่างๆนั้นมีความคิดเห็นที่เหมือนๆกัน เพราะความหมายของ مُهَيْمِنًا (เป็นที่ควบคุมคัมภีร์ เบื้องหน้า นั้น) มีความครอบคลุม คือ รักษา เป็นพยาน และข้อตัดสิน สำหรับคัมภีร์ก่อนหน้านั้น และอัลกุรอานเป็นคัมภีร์ที่ครอบคุลมและสมบูรณ์แบบ ถูกประทานลงมาเพื่อควบคุมคัมภีร์ก่อนหน้านั้น ซึ่งจะกล่าวถึงความดีงามทั้งหมดที่อยู่ในคัมภีร์ก่อนๆ และจะเสริมเติมความสมบูรณ์แบบในสิ่งที่ยังไม่เคยมีในคัมภีร์ก่อนๆ อัลลอฮ์ ได้ทำให้อัลกุรอานเป็นพยานในสัจธรรมและข้อตัดสิน แก่คัมภีร์ก่อนๆ และอัลลอฮ์ ทรงสัญญาว่าจะรักษา(อัลกุรอาน)ไว้ ”
(ตัฟซีรอัลกุรอานุลอะซีม ยุซ 2 หน้า 65)
แปลและเรียบเรียงโดย มูฮำหมัดกามัล อัลฟัจรีย์