อัลเกาซัร และความเมตตาอันมากมาย
โดย ...มูฮัมหมัด อับดุฮฺ ฏัวซิกัล
ซูเราะฮฺอัลเกาซัร เป็นซูเราะฮฺหนึ่งจาก 114 ซูเราะฮฺในอัลกุรอาน ซึ่งซูเราะฮฺนี้ อัลลอฮฺ ตรัสความถึงความเมตตาและความโปรดปรานอันมากมายที่พระองค์ทรงเตรียมไว้สำหรับท่านนบีมูฮำหมัด และตรัสความถึงการละหมาดและการเชือดพลีสัตว์อย่างบริสุทธิ์ใจเพื่ออัลลอฮฺ และตรัสความถึงสิ่งที่เหล่าศัตรูที่ต่อต้านท่านนบีมูฮำหมัด จะได้รับ
อัลลอฮฺตรัสความว่า
“แท้จริงเราได้ประทานอัลเกาซัรแก่เจ้าแล้ว ดังนั้นเจ้าจงละหมาดเพื่อพระเจ้าของเจ้าและจงเชือดสัตว์พลี แท้จริงศัตรูของเจ้านั้นเขาเป็นผู้ถูกตัดขาด”
(อัลเกาซัร : 1-3)
ความหมายของอัลเกาซัร
อัลลอฮฺ ตรัสความถึงความเมตตาและความโปรดปรานต่างๆที่พระองค์ทรงเตรียมไว้สำหรับท่านนบีมูฮำหมัด อัลลอฮฺ ตรัสความถึง นบีมูฮำหมัด ว่า
“แท้จริงเราได้ประทานอัลเกาซัรแก่เจ้า(มูฮำหมัด)แล้ว”
(อัลเกาซัร : 1)
หมายถึง ได้ประทานความเมตตาและความโปรดปราณแก่ท่านนบีมูฮำหมัด และได้ประทานแก่เจ้าซึ่ง อัลเกาซัร นั้นคือ แม่น้ำในสวนสวรรค์ และแม่น้ำนั้น จะเป็นบ่อน้ำของท่านนบีมูฮำหมัด ในหะดีษบทหนึ่ง จากศอหี้หมุสลิม จากท่านอนัส บิน มาลิก กล่าวว่า ในเวลาหนึ่ง เราได้อยู่ร่วมกันกับท่านรอซูลุลลอฮฺ ซึ่งท่านอยู่ในสภาพที่กำลังนอนเล่น(ไม่ได้หลับ) หลังจากนั้นท่านได้ลุกขึ้น และยิ้ม
เราได้ถามท่านว่า “โอ้ท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺ ทำไมท่านถึงยิ้มครับ”
ท่านตอบว่า “มีซูเราะฮฺหนึ่งลงมายังฉัน”
และท่านได้อ่าน
“แท้จริงเราได้ประทานอัลเกาซัรแก่เจ้าแล้ว ดังนั้นเจ้าจงละหมาดเพื่อพระเจ้าของเจ้าและจงเชือดสัตว์พลี แท้จริงศัตรูของเจ้านั้นเขาเป็นผู้ถูกตัดขาด”
(อัลเกาซัร : 1-3)
และท่านได้ถามพวกเราว่า “พวกท่านรู้ไหมอะไรคืออัลเกาซัร”
พวกเราตอบว่า “อัลลอฮฺและรอซูล เท่านั้นที่รู้ยิ่ง”
ท่านรอซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า
“(อัลเกาซัร) คือ แม่น้ำที่พระเจ้าของฉันได้สัญญาไว้ ซึ่งแม่น้ำนั้นเป็นแม่น้ำที่มีความเมตตาอันมากมาย
ที่นั้นมีบ่อน้ำที่กำลังรอการมาของประชาชาติฉันในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ ”
(หะดีษศอหี้ห บันทึกโดย มุสลิม หะดีษที่ 400)
บทเรียนอันทรงคุณค่าที่ อิมาม อิบนุ กะซีร ได้อธิบายถึงซูเราะฮฺอัลเกาซัร ท่านได้กล่าวว่า “มีทัศนะจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญอัลกุรอาน หลายท่านว่า ซูเราะฮฺนี้ เป็น ซูเราะฮฺมะดานียะห์ และส่วนใหญ่จากบรรดาผู้เชี่ยวชาญอัลกุรอาน ให้ทัศนะว่า บิสมิลลาฮฺฯ เป็นส่วนหนึ่งจากซูเราะฮฺนี้ อันเนื่องมาจากลงมาพร้อมกัน ”
(ตัฟซีรอัลกุรอานนุลอะซีม เล่มที่ 14 หน้า 476)
แต่ทัศนะของ อิบนุ เญาซีย์ กล่าวว่า “นักวิชาการส่วนใหญ่ รวมถึง อิบนุ อับบาส ให้ทัศนะว่า ซูเราะฮฺนี้เป็นซูเราะฮฺ มักกียะห์”
(ซาดุล มะสีร เล่ม 9 หน้า 247)
อิบนุ เญาซีย์ ได้สรุปว่า มี 6 ทัศนะจากนักวิชาการ ว่าด้วย ความหมายของ อัลเกาซัร
1.อัลเกาซัร เป็นแม่น้ำในสวนสวรรค์
2.อัลเกาซัร คือ ความเมตตาอันมากมาย ที่อัลลอฮฺ ทรงประทานแก่ท่านนบีมูฮำหมัด ซึ่งเป็นทัศนะของท่าน อิบนุ อับบาส
3.อัลเกาซัร คือ ความรู้และอัลกุรอาน ซึ่งเป็นทัศนะของท่าน หะซัน อัลบัซรีย์
4.อัลเกาซัร คือ การเป็นนบี(นุบุววะฮฺ) ซึ่งเป็นทัศนะของท่าน อิกรอมะฮฺ
5.อัลเกาซัร คือ บ่อน้ำของท่านนบีมูฮำหมัด ที่มนุษย์จะมาในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ
6.อัลเกาซัร คือ การมีผู้ปฏิบัติตามและประชาชาติ ซึ่งเป็นทัศนะของ อบูบักรฺ บิน อิญาซี
(ซาดุล มะสีร เล่ม 9 หน้า 247-249)
ความเมตตาที่ถูกตอบแทนด้วยสวนสวรรค์
ซัยคฺ มุศฏอฟา อัลอะดาวีย์ กล่าวว่า “บุคคลที่อยู่ในธรรมชาติแห่งความสันติ แน่นอนเขาจะได้รับความเมตตาที่ถูกตอบแทนด้วยสวนสวรรค์” ซึ่งความเมตตาที่ได้รับ จะต้องตอบแทนบุญคุณด้วย
“ดังนั้นเจ้าจงละหมาดเพื่อพระเจ้าของเจ้าและจงเชือดสัตว์พลี”
(อัลเกาซัร : 2) (ตัฟซีร ญุซอัมมา ซัยคฺมุศฏอฟา อัลอะดาวีย์ หน้า 293 )
จงละหมาดและเชือดสัตว์พลีเพื่ออัลลอฮฺ
ความหมายของโองการ “ดังนั้นเจ้าจงละหมาดเพื่อพระเจ้าของเจ้าและจงเชือดสัตว์พลี” คือ การดำรงซึ่งการละหมาดและ เชือดสัตว์พลี เพื่ออัลลอฮฺ เท่านั้น อย่างบริสุทธิ์ใจ โดยที่ไม่มีการตั้งภาคีและเจตนาอื่นใดทั้งสิน และเริ่มต้นด้วยพระนามของอัลลอฮฺ อัลลอฮฺ ตรัสความว่า
“จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่า แท้จริงการละหมาดของฉัน และการอิบาดะฮ์ ของฉัน และการมีชีวิตของฉัน
และการตายของฉันนั้นเพื่ออัลลอฮ์ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลกเท่านั้น ไม่มีภาคีใด ๆ แก่พระองค์
และด้วยสิ่งนั้นแหละข้าพระองค์ถูกใช้ และข้าพระองค์คือคนแรกในหมู่ผู้สวามิภักดิ์ทั้งหลาย”
(อัลอันอาม : 162-163)
ท่านกอตาดะฮฺ ได้อธิบายละหมาดในที่นี้ คือ การละหมาดฎุฮา ส่วนการเชือดสัตวพลี คือ การเชือดสัตว์พลีในเทศกาลอีดอัฎฮา ตามทัศนะของนักวิชาการส่วนใหญ่ เช่น อิบนุ อับบาส มุญาฮิด และอื่นๆ
(ซาดุล มะสีรเล่ม 9 หน้า 249)
เหล่าศัตรูที่ต่อต้านท่านนบีมูฮำหมัด พวกเขาเป็นผู้ถูกตัดขาด อัลลอฮฺ ทรงตรัสความว่า
“แท้จริงศัตรูของเจ้านั้นเขาเป็นผู้ถูกตัดขาด”
(อัลเกาซัร : 3)
ความหมายของโองการนี้ คือ “บุคคลที่ต่อต้านและเป็นศัตรูกับท่านนบีมูฮำหมัด ในวันแห่งการตัดสิน พวกเขาจะไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆและไม่มีผู้ให้การสนับสนุน”
(ตัฟซีร ญุซอัมมา ซัยคฺมุศฏอฟา อัลอะดาวีย์ หน้า 293 )
อิบนุ เญาซีย์ ได้อธิยายถึงคำว่า “ถูกตัดขาด ว่า ถูกตัดขาดจากความดี”
(ซาดุล มะสีรเล่ม 9 หน้า 251)
อิกรอมะฮฺ ไดอธิบายถึงคำว่า “ถูกตัดขาด ว่า โดดเดี่ยว”
อัศศูดีย์ ได้กล่าวว่า “เมื่อมีลูกชายคนหนึ่ง เสียชีวิต จะถูกเรียกว่า ถูกตัดขาด ซึ่งเมื่อลูกชายของท่านรอซูลุลลอฮฺ เสียชีวิต ทำให้พวกปฏิเสธศรัทธาเยาะเย้ยท่านว่าถูก ตัดขาด อัลลอฮฺ จึงประทานโองการนี้เพื่อปลอบโยนท่านนบี”
(ตัฟซีรอัลกุรอานุลอะซีม เล่มที่ 14 หน้า 483)
อิบนุ กะซีร ได้อธิบายว่า “เมื่อบุคคลหนึ่งเสียชีวิตไป เขาก็จะไม่ได้รับการชื่นชมและกล่าวถึง ซึ่งนี้เป็นความโง่เขลาของผู้ปฏิเสธศรัทธากุร็อช ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า เมื่อลูกชายเสียชีวิต เขาก็จะไม่ได้รับการชื่นชมและกล่าวถึง ทั้งๆที่บุคคลที่เสียชีวิตนั้นจะได้รับการชื่นชมและกล่าวถึงจากบุคคลอื่น ในคุณงามความดีต่างๆจนถึงวันแห่งการฟื้นคืนชีพ ”
(ตัฟซีรอัลกุรอานุลอะซีม เล่ม 14 หน้า 483)
ซูเราะฮฺนี้ ซัยคฺ มูฮำหมัด ศอลิหฺ อัลหุศัยมีน ได้อธิบายว่า “เป็นความเมตตาและความโปรดปรานต่างๆที่อัลลอฮฺ ประทานแก่ท่านนบีมูฮำหมัด ซึ่งท่านนบีมูฮำหมัด ได้รับความเมตตาอันมากมาย และอัลลอฮฺได้สั่งใช้ให้ทำการละหมาดและเชือดสัตว์พลี บนพื้นฐานของความศรัทธาและบริสุทธิ์ใจต่อพระองค์ และอัลลอฮฺได้ตรัสความถึงบุคคลที่ต่อต้านและเป็นศัตรูกับท่านนบีมูฮำหมัด ซึ่งพวกเขาจะเป็นผู้ที่ถูกตัดขาดจากความประเสริฐและความดีงาม”
(ตัฟซีร ญุซอัมมา หน้า 281)
แปลและเรียบเรียงโดย มูฮำหมัดกามัล อัลฟัจรีย์