วิธีการศึกษาของชาวสลัฟ
  จำนวนคนเข้าชม  7159

วิธีการศึกษาของชาวสลัฟ


โดย ซัยคฺ... อับดุลลอฮฺ อัลญิบรีณ


          การศึกษา ถือเป็นซึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในอิสลาม เพราะการศึกษา คือ การอบรมและบ่มเพาะทางสติปัญญา การถ่ายทอดความรู้ เพื่อให้ได้มาซึ่งมุสลิมที่มีคุณภาพและคุณธรรม

          ชาวสลัฟ ถือเป็นบรรพชนกลุ่มแรกของอิสลาม คือ บรรดาศอฮาบะฮฺของท่านรอซุลุลลอฮฺ บรรดาตาบิอีน และผู้สืบทอดอิสลามจากท่านรอซูลุลลอฮฺ ในช่วง 300  ปีแรก  บรรดาชาวสลัฟ เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ และมีความรู้ในด้านต่างๆของอิสลาม ไม่ว่าจะเป็น อัลกุรอาน อัตตัฟซีร อัลหะดิษ อัลฟิกฮฺ ซีเราะฮฺ และศาสตร์ด้านอื่นๆอีกมากมาย ในการที่จะได้มาซึ่งความรู้ต่างๆเหล่านั้น ย่อมต้องผ่านวิธีการศึกษา ส่วนหนึ่งจากวิธีการที่เหล่าชาวสลัฟได้ใช้ในการศึกษา คือ วิธีการดังต่อไปนี้


หนึ่ง การท่องจำ

          เป็นที่ทราบกันว่าความรู้ ของชาวสลัฟนั้นเป็นความรู้ที่ถูกต้องและบริสุทธิ์ที่สุด เพราะพวกเขาเป็นบุคคลที่ท่านรอซูลุลลฮฺ ให้การยอมรับ และเป็นกลุ่มชนที่มีความตั้งใจจริงและกระตือรืนร้นในการศึกษาศาสนาอิสลาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นความเมตตาและความโปรดปราน ที่อัลลอฮฺ ประทานแก่พวกเขา และบางคนอยากที่จะจดจำความรู้ต่างๆที่พวกเขาได้ศึกษามาให้อยู่ในหัวอก จนเป็นที่ทราบว่าในยุคของชาวสลัฟนั้น มีหลายต่อหลายคนเป็นบุคคลที่มีความจำอันเยี่ยมยอด

         ท่าน อัช-ชะอฺบีย์ อะมีร บิน ชะเราะหฺบิล (เป็นตาบิอีน) เคยกล่าวว่า “ฉันไม่เคยเขียนสีดำ บนสีขาวเลย”  ซึ่งก็หมายความว่าเขาไม่เคยจดบันทึกเลย อันเนื่องมาจากเขาได้ทำการจดจำทุกสิ่งที่เขาได้ศึกษา ส่วนสีดำที่ท่านหมายถึงอันก็ คือ หมึก และสีขาว คือ กระดาษนั่นเอง


สอง ทำความเข้าใจกับเนื้อหา

        การทำความเข้าใจกับเนื้อหาที่อยู่ในตำราต่างๆ โดยการอ่านเพื่อให้เกิดความเข้าใจและสรุปเนื้อหาสำคัญของมัน ผ่านการคิด และวิเคราะห์ เนื้อหาเหล่านั้น


สาม รวมการท่องจำและความเข้าใจ เข้าด้วยกัน

             ในเรื่องนี้ท่านรอซูลุลลฮฺ ได้ทำการเปรียบเทียบกับน้ำฝนที่ตกลงยังพื้นดิน ซึ่งท่านได้กล่าวว่า 

“ทางนำและความรู้วิชาการ ที่อัลลอฮ์ทรงได้บังเกิดฉันขึ้นมาเป็นตัวแทนบนหน้าแผ่นดิน เปรียบเสมือนฝนที่ตกลงมาอย่างมากมายลงบนพื้นดิน 

พื้นดินนั้น มีทั้งพื้นดินที่สมบูรณ์รับน้ำได้และสามารถทำให้หญ้าและต้นไม้เล็ก ๆงอกเงยได้

และมีพื้นดินหนึ่งที่ค่อนข้างแห้ง สามารถรับน้ำได้ มนุษย์ได้ประโยชน์จากมันได้ มนุษย์มีสิทธิใช้น้ำเพื่อดื่ม เพื่อรดต้นไม้และเพื่อเพาะปลูก

และดินสุดท้าย คือ ดินลื่นที่ไม่ดูดน้ำและไม่มีต้นไม้งอกเงย

เช่นเดียวกับผู้ที่เข้าใจเรื่องศาสนา ทางนำและความรู้วิชาการที่พระองค์อัลลอฮ์ประทานผ่านฉันได้ให้ประโยชน์แก่เขา เขาได้เข้าใจและสอนให้ผู้อื่นเข้าใจ

ส่วนผู้ที่ไม่เข้าใจเรื่องศาสนาและไม่จำอะไรแม้แต่น้อย หรือผู้ที่ไม่มีความรู้และไม่มีผลงานปฏิบัติ ไม่สามารถรับฮิดายะฮ์และวิชาการที่พระองค์ประทานลงมาผ่านฉันได้”

(หะดีษศอหี้ห บันทึกโดยบุคอรีย์ หะดีษที่ 79 และมุสลิม หะดีษที่ 5953)

                บุคคลที่มีคุณลักษณะในเรื่องของการท่องจำและทำความเข้าใจกับเนื้อหา ก็เปรียบเสมือนดินชนิดแรกเป็นดินที่ สมบูรณ์รับน้ำได้และสามารถทำให้หญ้าและต้นไม้เล็ก ๆงอกเงยได้  มีความสามารถในการที่จะเห็นถึงทางนำที่อัลลอฮฺประทานผ่านมาทาง ท่านรอซูลุลลอฮ  และเข้าใจหลักความรู้วิชาการต่างๆ และบทบัญญัติต่างๆ ที่อัลลอฮฺบัญญัติเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต อีกทั้งมีความสามารถในการที่จะเผยแผ่ทางนำและความรู้วิชาการไปยังบุคคลที่ยังไม่รู้ และคงไม่มีกลุ่มชนไหนที่จะดีเลิศไปกว่าชาวสลัฟที่พวกเขาเหล่านั้นได้รับการศึกษาและการขัดเกลาจิตใจจากรอซูลุลลอฮฺ และเหล่าศอฮาบะฮฺของท่าน

 


           ดังนั้นจงนำวิธีการของท่านรอซูลุลลฮฺ  และเหล่าชาวสลัฟมาเป็นต้นแบบในการศึกษาและเผยแผ่มันเถิด และให้วิถีสลัฟ(มัญฮัจญฺสลัฟ)เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของท่านเถิด

 

แปลและเรียบเรียง มูฮำหมัดกามัล  อัลฟัจรีย์