ฟิตนะฮฺเรื่องผู้หญิง
  จำนวนคนเข้าชม  24488

เพื่อที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อของฟิตนะฮฺเรื่องผู้หญิง


แปลและเรียบเรียงโดย : บินตุ อับดุลสลาม


         ในยุคโลกาภิวัวัฒน์ ยุคของวัฒนธรรมตะวันตก ยุคที่มีสิ่งเชิญชวนไปสู่ฟิตนะฮฺต่างๆมากมาย ยุคที่การสื่อสารไร้พรมแดนเข้าครอบงำสังคมด้วยกับสื่อที่ละลานตา จนกระทั่งพาวัยรุ่น ทั้งชายและหญิง ไปสู่การเป็นเหยื่อของอบายมุข

         เราได้ยินข่าวมากมาย เกี่ยวกับผู้ที่พ่ายแพ้ต่อความต้องการอารมณ์(ชะฮะวาต)ของตนเอง ไม่ว่า คนนั้นจะไปเสพยาเสพติด คนนี้ไปดื่มสุรา หรืออีกคนตกอยู่ในห้วงดินโคลนของความเลวทราม ความผิดบาป(ซินา) แต่ทว่าอาจกล่าวได้ว่า ฟิตนะฮฺที่ร้ายแรงที่สุดของหนุ่มสาวในสมัยนี้ นั่นคือ ฟิตนะฮฺในเรื่องผู้หญิง ดังคำกล่าวของท่านนบี  ที่ว่า

 

“ไม่มีฟิตนะฮฺอันใดถูกทิ้งไว้ในหมู่มนุษย์หลังจากฉัน ที่จะร้ายแรงไปกว่าฟิตนะฮฺ จากผู้หญิง

  

ท่านอิบนฺฮะญัร ได้กล่าวเกี่ยวกับฮะดิษนี้ว่า ฮะดิษนี้ได้ถูกยืนยันโดยคำตรัส ของอัลลอฮฺ

 

“ได้ถูกทำให้สวยงาม (ลุ่มหลง) แก่มนุษย์ ซึ่งความรักในบรรดาสิ่งที่เป็นเสน่ห์ อันได้แก่ ผู้หญิง และลูกชาย ทองและเงินอันมากมาย”

(อาละ อิมรอน 14)

          อัลลอฮฺ ได้ทรงให้ผู้หญิงนั้นเป็นหนึ่งของชะฮะวาต(อารมณ์) และเริ่มต้นผู้หญิงก่อนชะฮะวาต(อารมณ์)อื่น ๆ ที่เหลือ เนื่องจากอันตรายร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นจากพวกนาง และท่านนบี  กล่าวว่า

“พวกท่านจงเกรงกลัวดุนยา เกรงกลัวผู้หญิง แท้จริงฟิตนะฮฺแรกที่เกิดขึ้นในหมู่นบีอิสรออีลนั่นคือ เรื่องผู้หญิง"

 
ปัจจุบัน ภัยร้ายของฟิตนะฮฺ ที่เกิดจากผู้หญิงนั้น มาจากหลายทาง หลายรูปแบบมาจากทุกทั่วสารทิศ ดังต่อไปนี้

     1. ผู้แต่งกายเปิดเผยเอาเราะฮ์ ที่โลดแล่นอยู่ตามสถานีโทรทัศน์ต่างๆ และด้วยกับการที่มีสื่อดาวเทียมที่สามารถดูสิ่งใดก็ได้ในโลกนี้ ทำให้การที่จะดูจะจ้องมองเนื้อหนังมังสาที่ถูกฉายอยู่ได้อย่างสะดวกสบาย

     2. นิตยสาร หรือสิ่งพิมพ์ต่างๆ ที่เกลื่อนกลาดอยู่ตามแผงหนังสือซึ่งมีรูปภาพของหญิงสาวสวยงาม แต่งกายโอ้อวดสัดส่วน ดังเช่น หญิงสาวสมัยญาฮิลียะฮ์

     3. เวบไซต์ลามกอนาจาร ซึ่งผู้เล่นอินเตอร์เน็ต สามารถจะเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย

     4. การออกนอกบ้านของหญิงสาวไปตามที่สาธารณะ ศูนย์การค้า ตลาด โดยแต่งตัวด้วยอาภรณ์โชว์สัดส่วนรัดรูป แต่งหน้าตา ทำตัวโดดเด่นทำให้ผู้พบเห็นสนใจจ้องมอง

     5. การติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์ การพูดจาหยอกล้อ และมันเกิดขึ้นมาก หลังจากการที่โทรศัพท์มือถือแพร่หลายในหมู่วัยรุ่น ทำให้การที่จะติดต่อกันสะดวกไม่มีใครรู้เห็น

     6. ความสะดวกสบาย ในการท่องเที่ยว เดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่ได้ชื่อว่าเป็นที่อโคจร และการเสดงสีเสียงต่างๆนาๆ

     7. เพลงรักประโลมโลกที่มีอยู่มากมาย


         และหนึ่งสิ่งจากสิ่งเหล่านี้ก็เพียงพอแล้ว ที่จะล่อลวงบรรดาผู้ชายไปสู่ฟิตนะฮฺ และจะเป็นอย่างไร ถ้าในสังคมมีหลายสิ่งจากสิ่งเหล่านี้ หรือมีสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด?

          จากการพิจารณาสภาพสังคมในปัจจุบัน ทำให้เราเห็นว่า ผลที่ได้ตามมาจากฟิตนะฮฺเรื่องผู้หญิงนั้นอันตรายแพร่หลายรุนแรง และเรื่องราวที่เป็นข่าวที่น่าสลดใจอยู่ในปัจจุบันนี้ เป็นสิ่งบ่งบอกที่ดียิ่ง แต่ทว่าเราได้นำเอาข่าวหรือเรื่องราวเหล่านั้น มาเป็นข้อตักเตือนตัวเองหรือไม่?


ตัวอย่างบางเรื่อง เกี่ยอันตรายร้ายแรงของฟิตนะฮฺ ดังต่อไปนี้

     ♣ ชายหนุ่มคนหนึ่งได้อพยพจากประเทศของเขา ซึ่งเป็นประเทศมุสลิมไปสู่ประเทศท่เป็นคริสต์ เพื่อที่จะไปแต่งงานกับหญิงคริสเตียนผู้ซึ่งเรียกร้องเชิญชวนผู้อื่นไปแนวทางคริสต์

     ♣ ชายหนุ่มผู้ซึ่งก้มสุญูดต่อหญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นหญิงบริการ หลังจากที่เขารอนางมาอย่างยาวนาน

     ♣ ชายหนุ่มฆ่าตัวตาย เพียงเพราะว่าถูกห้ามไม่ให้แต่งงานกับแฟนสาวผู้เป็นที่รัก

     ♣ บางคนได้เป็นชู้กับภรรยาเพื่อนบ้าน หรือภรรยาของเพื่อน หรือภรรยาของพี่น้องของเขา

          และอีกมากมายหบายตัวอย่าง ซึ่งไม่เพียงพอหน้ากระดาษที่จะหยิบยกมกล่าว เรื่องราวที่ชายหนุ่มเหล่านั้น คิดว่าพวกเขาจะได้หญิงสาวที่ตนต้องการมาครอบครอง ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม แต่ทว่า...พวกเขาหารู้ไม่ว่านั้นเป็นฟิตนะฮฺของคนตาบอด...

 

          หากเราคิดใคร่ครวญ สภาพของผู้ที่ถูกทดสอบด้วยฟิตนะฮฺเรื่องผู้หญิง มองดูด้วยสายตาของผู้ทีฉลาดมีไหวพริบแล้ว เราจะเห็นว่าความเสื่อมเสีย ความเสียหาย ที่พวกเขาได้รับนั้นมีมากมาย ดังต่อไปนี้

          1.พวกเขามีผู้หญิงมากหน้าหลายตา : แน่แท้พวกเขาได้ก้าวข้ามขอบเขตของอัลลอฮฺ  และร่อซูล  พวกเขาได้เสพติดการจ้องมองหญิงที่ไม่เป็นที่อนุญาตให้มองได้ การฟังในสิ่งต้องห้าม พวกเขาผ่อนผัน ผ่อนปรนในการอยู่สองต่อสองกับผู้หญิงที่ไม่ใช่มะฮ์รอมแล้ว บางคนก็ทำมากกว่าการคุยเฉยๆนั่นคือ ทำซินา


          2.พวกเขาได้ทำให้ความเป็นสุภาพบุรุษหายไป :  แท้จริงการเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ได้หมายความว่ามีลักษณะของความเป็นผู้ชายอย่างเดียว แต่ทว่าจำเป็นที่จะต้องมีอุปนิสัยดีงาม มารยาทที่ผู้ชายพึงมี แต่ไหนเล่า ความเป็นสุภาพบุรุษของผู้ที่เที่ยวแซวผู้หญิงตามตลาด ตามถนนหนทาง ผู้ที่เกี้ยวพาราสีผู้อื่น เพื่อที่จะพาผู้อื่นตกไปสู่ความชั่วร้าย ความบาปช้าพร้อมกับตนเอง


          3.ความขาดทุนในดุนยาของพวกเขา :  แท้จริงคนมากมายจากผู้ที่ถูกทดสอบด้วยผู้หญิง พวกเขาใช้ความพยายามอย่างมาก ไปในสนามรบของความรักที่เลื่อนลอย ความลุ่มหลงที่หลอกลวง แล้วพวกเขาก็สูญเสียพลังงานของพวกเขาไปกับสิ่งไร้สาระ แทนที่จะสนใจในการเรียน หรือการทำงาน ทำให้การเรียนหรือหน้าที่การงานเสียหาย และนอกเหนือจากนั้น ยังเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ หรือบางคนอาจเสียทรัพย์สินเงินทองหมดตัวแต่ไม่ได้รับสิ่งใดกลับมา นอกจากบาปเท่านั้น


          4.หัวใจของพวกเขาแข็งกระด้าง :  ผู้ที่ตกอยู่ในฟิตนะฮฺด้วยผู้หญิง พวกเขาจะไม่พบความหอมหวานในการทำอิบาดะฮฺ ต่ออัลลอฮฺ ในขณะที่พวกเขาละหมาด ภาพหญิงสาวในหัวของพวกเขา หรือความรักความใคร่ในตัวพวกนาง ทำให้พวกเขา ไม่มีคุชัวะอฺในการละหมาด แท้จริงความแข็งกระด้างของหัวใจ ทำให้พวกเขาอยู่ในสภาพไร้ยางอายต่ออัลลอฮ์ สามารถทำสิ่งที่น่าอายได้อย่างน่าชื่นตาชม ไม่มีความกระดาก


          5.ร่างกายของพวกเขาเจ็บป่วยเป็นโรค  :  แท้จริงฟิตนะฮ์ในผู้หญิงได้พาหัวใจของบางคนไปสู่การทำซินา หรือ การอยู่กินกับผู้หญิงบริการและผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ การป่วยเป็นโรค ดังคำกล่าวของท่านนบี  ได้กล่าวไว้ว่า

หากว่าหมู่ชนใดเผยแพร่การทำความชั่วช้าบาปมหันต์(ซินา)กันอย่างแพร่หลาย

เมื่อนั้นโรคติดต่อและความเจ็บป่วยที่ไม่มีชนชาติไหนในอดีตได้เคยสัมผัส ก็จะมาประสบกับพวกเขา”


        และโรคอีกชนิดหนึ่งที่จะประสบกับพวกเขา คือ ความเหนื่อยล้าอ่อนแอของจิตใจ และความสับสนวุ่นวายในหัวอก แท้จริงเมื่อใดที่พวกเขาได้ฝ่าฝืนขอบเขตของอัลลอฮฺ และร่อซูล เพื่อจะลิ้มรสความยั่วยวนของชะฮะวาต(อารมณ์) ความสุขอันจีรังก็นจะอันตรธานไปจากชีวิตของพวกเขา และจะมีแต่ความเสียดาย ความทุกข์ และความยากลำบากเข้ามาแทนที่


ท่านอิบนุ อับบาส ได้กล่าวว่า

"แท้จริงสำหรับความชั่วนั้น คือ การหมองคล้ำบนใบหน้า ความมืดมนในหัวใจ ความอ่อนแอของร่างกาย

การขาดริซกี และ ความเกลียดชัง โกรธกริ้วในหัวใจของสรรพสิ่งที่ถูกสร้าง"

 


อัลอิศลาห์ สมาคม อันดับที่ 378-380 / กันยายน 2554