สาเหตุที่นําไปสู่ความเบิกบานใจ
ดร.อะมีน บิน อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย์
การสรรเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺความเมตตาจำเริญและความศานติจงมีแด่ท่านเราะสูลุลลอฮฺ รวมถึงบรรดาวงศาคณาญาติและบรรดาอัครสาวกของท่านฉันขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ควรได้รับการเคารพภักดีนอกจากอัลลอฮฺ เพียงพระองค์เดียว โดยไม่มีภาคีหุ้นส่วนอันใดสำหรับพระองค์ และฉันขอปฏิญาณว่าท่านนบีมุหัมมัดคือบ่าวและศาสนทูตของพระองค์...
ความคับแคบใจและความเคราะห์ร้ายของมุสลิมอันได้แก่ ความทุกข์ระทมความเศร้าโศก ความเสียใจเป็นเรื่องที่ไม่มีบุคคลใดปรารถนาที่จะได้พบพานกับมัน
อิบนุ หัซมฺ เราะหิมะฮุลลอฮฺกล่าวว่า
“ฉันได้พินิจถึงความพยายามของผู้ที่มีสติปัญญาฉันพบว่าความพยายามของพวกเขาทั้งหมดมีเป้าหมายเดียวกัน ถึงแม้ว่าวิธีการที่จะให้ได้มาแตกต่างกันก็ตาม ฉันเห็นพวกเขาล้วนพยายามผลักไสความความทุกข์ระทม ความเศร้าหมองให้หลุดพ้นจากจิตใจของพวกเขา ด้วยเหตุนี้ผู้คนบางส่วนพยายามแสวงหาความสุขจากการกิน การดื่ม บางส่วนจากการค้าขายการแสวงหาปัจจัยยังชีพ บางส่วนจากการแต่งงาน บางส่วนจากการละเล่น การสนุกสนานและในด้านอื่นๆ ที่หลากหลายกันไป
แต่ฉันก็ไม่เห็นว่าการแสวงหาความสุขด้วยวิธีการต่างๆจะทำให้เขาได้รับความเปี่ยมสุข และที่เห็นส่วนมากกลับได้รับในสิ่งตรงกันข้าม แน่นอนหนทางเดียวที่จะได้รับความเปี่ยมสุขคือการมุ่งหน้าสู่อัลลอฮฺแต่เพียงผู้เดียว และให้คัดเลือกเอาความพอพระทัยของอัลลอฮฺเหนือทุกสรรพสิ่งที่ตรงกันข้าม ดังนั้นสำหรับบ่าวของพระองค์ไม่มีหนทางใดแล้วที่จะมีประโยชน์ยิ่งไปกว่าหนทางนี้และจะได้รับอรรถรสและความเปี่ยมสุขยิ่ง”
(อัล-ญะวาบ อัล-กาฟีย์ หน้าที่ 171-172)
อิบนุลก็อยยิม เราะหิมะฮุลลอฮฺ ได้บอกถึงสาเหตุที่จะทำให้มีความเบิกบานใจ ประกอบด้วยสาเหตุดังต่อไปนี้
สาเหตุที่หนึ่ง..
การให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺ(เตาฮีด) อันเนื่องจากความสมบูรณ์ความหนักแน่นและการเพิ่มพูนของการให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺ จะทำให้ผู้ที่มีเตาฮีดมีความเบิกบานใจอัลลอฮฺ ตรัสว่า
“ผู้ใดที่อัลลอฮฺทรงเปิดทรวงอกของเขาเพื่ออิสลามและเขาอยู่บนแสงสว่างจากพระเจ้าของเขา (จะเหมือนกับผู้ที่หัวใจบอดกระนั้นหรือ?)
ดังนั้นความวิบัติจงประสบแด่ผู้ที่หัวใจของพวกเขาแข็งกระด้างต่อการรำลึกถึงอัลลอฮฺ ชนเหล่านี้อยู่ในการหลงผิดอันชัดแจ้ง”
(อัซ-ซุมัรฺ 22)
อัลลอฮฺ ตรัสอีกว่า
“และผู้ใดที่พระองค์ทรงต้องการจะปล่อยให้เขาหลงทางก็จะทรงให้ทรวงอกของพวกเขาคับแคบ อึดอัดประหนึ่งว่าเขากำลังขึ้นไปยังฟากฟ้า”
(อัล-อันอาม 125)
ดังนั้น ทางนำและการให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺ เป็นสาเหตุสำคัญสุดที่จะทำให้เกิดความเบิกบานใจ ส่วนการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ(ชิริก)และความหลงผิดเป็นสาตุที่ทำให้เกิดความทุกข์ใจและกระวนกระวาย
สาเหตุที่สอง..
แสงแห่งรัศมีที่อัลลอฮฺโยนลงไปในหัวใจของบ่าว คือ แสงสว่างแห่งศรัทธา มันจะช่วยให้หัวใจมีความเบิกบานสำราญใจ และมีความเปี่ยมสุข หากแสงแห่งรัศมีนี้สูญหายไปจากหัวใจของบ่าว จะทำให้ทุกข์ใจและเศร้าหมองในที่สุดทำให้คับแคบใจ ถูกกักขังและเป็นเรื่องที่ยากเย็น ดังนั้นส่วนแบ่งของบ่าวที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดความเบิกบานใจปัจจัยหลักขึ้นอยู่กับส่วนแบ่งของแสงแห่งรัศมีนี้ อัลลอฮฺ ตรัสว่า
“และผู้ที่ตายแล้วจากนั้นเราได้ให้เขามีชีวิตขึ้นและเราได้ให้แสงสว่างแก่เขาซึ่งเขาใช้แสงสว่างนั้นเดินไปในกลุ่มมนุษย์นั้น
จะเหมือนกับผู้ที่อุปมาของเขาซึ่งอยู่ในบรรดาความมืด โดยที่มิใช่เป็นผู้ที่จะออกมาจากบรรดาความมืดเหล่านั้นได้กระนั้นหรือ?
ในทำนองนั้นแหละได้ถูกประดับให้เห็นดีเห็นงามแก่ผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลายซึ่งสิ่งที่พวกเขากระทำกันอยู่”
(อัล-อันอาม 122)
สาเหตุที่สาม..
วิชาความรู้เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดความเบิกบานใจและมีความกว้างขวางสราญใจมากที่สุดในโลกดุนยา ความอวิชาเป็นมรดกบาปของความคับแคบในจิตใจ ถูกจองจำ ถูกพันธนาการทุกครั้ง บ่าวที่ได้เพิ่มพูนวิชาความรู้ยิ่งทำให้เขามีจิตใจที่ร่าเริงเบิกบาน แต่ทว่าไม่ใช่เป็นความรู้ในทุกศาสตร์สาขาวิชา หากต้องเป็นศาสตร์วิชาซึ่งเป็นธรรมทายาทที่ต้องมาจากท่านนบีมุหัมมัด เป็นวิชาที่ยังประโยชน์ ดังนั้น ผู้ที่ได้ครอบครองศาสตร์วิชาสาขานี้เขาจะเป็นผู้ที่มีความเปี่ยมสุขที่สุดในโลก หัวใจจะกว้างใหญ่ไพศาลมากที่สุด มีจรรยามารยาทที่ประเสริฐที่สุด และมีวิถีชีวิตที่ดีงามมากที่สุด
สาเหตุที่สี่..
การกลับใจไปหาพระองค์อัลลอฮฺ อย่างจริงจังมอบความรักให้แก่พระองค์อย่างสุดขั้วหัวใจ มุ่งหน้าตรงไปสู่พระองค์มีความเปี่ยมสุขในการทำอิบาดะฮฺแล้วจะพบว่าไม่มีสิ่งใดจะมีความเปี่ยมสุขไปยิ่งกว่าการที่บ่าวได้ทำอิบาดะฮฺต่อพระองค์ อัลลอฮฺ ตรัสว่า
“ผู้ใดปฏิบัติความดีไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิงก็ตาม โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธา ดังนั้น เราจะให้เขาดำรงชีวิตที่ดี
และแน่นอนเราจะตอบแทนพวกเขาด้วยกับรางวัลของพวกเขาที่ดียิ่งกว่าที่พวกเขาได้เคยกระทำไว้”
(อัล-นะห์ลุ 97)
จนกระทั่งมีคำกล่าวกันว่า หากว่าฉันได้อยู่ในสวนสวรรค์สภาพเช่นนี้แท้จริงมันย่อมเป็นชีวิตที่ดีอย่างรักแน่แท้ และความรักต่ออัลลอฮฺนั้นจะมีอิทธิพลอย่างมหัศจรรย์ในการทำให้จิตใจเบิกบาน มีความสุขใจ จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีนอกจากผู้ที่ได้สัมผัสมันเอง และทุกครั้งที่ความรักเพิ่มมากยิ่งขึ้นจิตใจก็จะยิ่งกว้างขวางและเบิกบานมากยิ่งขึ้นเช่นกัน
ขณะที่สาเหตุทำให้จิตใจคับแคบยิ่ง คือ การผินหลังให้กับพระองค์อัลลอฮฺหัวใจผูกพันกับผู้อื่นหลงลืมในการรำลึกถึงพระองค์และรักใคร่ต่อผู้อื่นนอกเหนือจากพระองค์อัลลอฮฺ ตรัสว่า
“และผู้ใดผินหลังจากการรำลึกถึงข้า แท้จริงสำหรับเขาคือการมีชีวิตอยู่อย่างคับแค้นและเราจะให้เขาฟื้นคืนชีพในวันกิยามะฮฺในสภาพของคนตาบอด”
(ฏอฮา/124)
ดังนั้นผู้ที่รักใคร่สิ่งอื่นนอกเหนือจากอัลลอฮฺ เขาก็จะได้รับความทรมานที่เจ็บปวดและหัวใจของเขาถูกจองจำด้วยกับการรักสิ่งนั้นโดยไม่อาจหลุดพ้นไปได้
สาเหตุที่ห้า..
รำลึกถึงอัลลอฮฺอยู่เป็นประจำในทุกสภาวการณ์ ทุกที่ทุกเวลาสำหรับการรำลึกถึงพระองค์มีผลต่อจิตใจอย่างมหัศจรรย์ สุขใจมากยิ่งนักส่วนการหลงลืมพระองค์มีผลที่ทำให้จิตใจคับแคบถูกจองจำพันธนาการอย่างน่าแปลกใจเช่นเดียวกัน อัลลอฮฺ ตรัสว่า
“บรรดาผู้ศรัทธาและจิตใจของพวกเขาสงบด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮฺพึงทราบเถิดด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮฺเท่านั้นทำให้จิตใจสงบ”
(อัร-เราะอฺดุ 28)
สาเหตุที่หก..
การทำดีต่อผู้อื่นทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นตามความสามารถไม่ว่าจะเป็นด้วยทรัพย์สิน เกียรติยศ และร่างกายการทำดีต่อผู้อื่นมีหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นผู้ที่มีจิตกุศล จิตอาสาจะเป็นผู้ที่มีจิตใจเปี่ยมสุขมีความเบิกบานใจอย่างยิ่งส่วนผู้ที่มีความตระหนี่ไม่แบ่งปันความดีแก่ผู้อื่นจะมีจิตใจที่คับแคบมีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ระทม
จากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮู แท้จริงท่านนบี กล่าวว่า
“อุปมาของผู้ตระหนี่และผู้บริจาคทานอุปมัยดั่งสองคนที่สวมเสื้อคลุมทำจากเหล็กซึ่งมือของเขาทั้งสองมีความจำเป็นที่จะต้องจับไหปลาร้า ทุกครั้งที่ผู้บริจาคมีความประสงค์จะบริจาคเสื้อก็จะขยายให้เขาจนกระทั่งเสื้อปล่อยเขาไปและทุกครั้งที่ผู้ตระหนี่มีความประสงค์จะบริจาค เสื้อก็จะกระชับและหดจากนั้นมือทั้งสองข้างจะถูกรวบไว้ที่ไหปลาร้า”
แล้วอบูฮุร็อยเราะฮฺได้ยินท่านนบีกล่าวว่า “เขาพยายามที่จะขยายเสื้อแต่เสื้อไม่ยอมขยายให้”
(บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ หมายเลข 2917 และมุสลิม หมายเลข 1021)
สาเหตุที่เจ็ด..
ความกล้าหาญชาญชัยเพราะความกล้าหาญจะทำให้เบิกบานใจจิตใจกว้างขวาง ในขณะที่ความขี้ขลาดหรือความหวาดกลัวทำให้จิตใจคับแคบทุกข์ระทม ไม่มีความปลื้มปีติยินดี เขาจะไม่พบกับความสุขความเบิกบานใจเขาจะไม่พบความหอมหวานในชีวิตนอกจากจะมีบ้างก็เหมือนกับชนิดของสัตว์เดรัจฉาน ขณะที่ความสำราญใจของจิตวิญญาณความหอมหวาน ความเปี่ยมสุขความสวยงามในชีวิตเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับคนขี้ขลาด เฉกเช่นเดียวกับเป็นที่ต้องห้ามสำหรับคนตระหนี่
สาเหตุที่แปด..
กำจัดสนิมที่เกาะกินหัวใจอันเนื่องมาจากปัจจัยที่น่าตำหนิซึ่งเป็นที่มาทำให้เกิดความคับแคบและทุกข์ทรมานในจิตใจ และมันจะมาปิดกั้นมิให้เขาได้รับความดี ถึงแม้ว่ามนุษย์จะได้รับสาเหตุที่ทำให้มีความเบิกบานใจ หากทว่าเขาไม่ได้นำปัจจัยอันน่าตำหนิหรือเอาสนิมออกจากหัวใจเขาก็จะไม่ได้รับส่วนแบ่งจากสาเหตุที่ทำให้เบิกบานใจแต่ประการใด
สาเหตุที่เก้า..
งดเว้นจากเรื่องไร้สาระอันเกิดจากการมอง การพูด การฟัง การปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นการกิน การนอน เพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้มันจะแปรสภาพเป็นความเจ็บปวดความทุกข์ระทม ความกังวลในจิตใจปิดกั้นหัวใจให้มีความคับแคบ
ดังนั้น ขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ !!
อะไรจะคับแคบไปกว่าการที่หัวใจถูกยิงด้วยลูกศรซึ่งอาบด้วยโรคพวกนี้ !และการดำเนินชีวิตของเขานั้นช่างไร้ประโยชน์เสียเหลือเกิน !
และขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ!!
ช่างสุขเหลือเกินสำหรับชีวิตของผู้ที่มีคุณสมบัติข้อหนึ่งข้อใดตามที่กล่าวมาข้างต้นและความมุ่งมั่นของเขาก็วนเวียนอยู่ในประการต่างๆ เหล่านั้นซึ่งพวกเขาจะได้รับส่วนแบ่งตามที่อัลลอฮฺได้ตรัสว่า
“แท้จริงบรรดาผู้ทรงคุณธรรมนั้นจะอยู่ในความสุขสำราญ”
(อัล-อินฟิฏอรฺ 13)
ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งจะได้รับส่วนแบ่งตามที่อัลลอฮฺ ตรัสว่า
“และแท้จริงบรรดาคนชั่วจะอยู่ในนรกที่ลุกโชน”
(อัล-อินฟิฏอรฺ 14)
สรุปก็คือ ท่านนบี เป็นผู้มีความสมบูรณ์เพียบพร้อมในทุกๆอิริยาบถอันจะนำไปสู่ความเปี่ยมสุขเบิกบานใจ จิตใจกว้างขวางและมีจรรยามารยาทที่ดีเลิศสุด ท่านเป็นผู้มีจิตใจเบิกบานมีชีวิตที่หอมหวานเป็นที่สราญตาแก่ผู้พบเห็นมากที่สุด และแน่นอนที่สุดการที่เราได้เจริญรอยตามและปฏิบัติตามจริยวัตรของท่าน ยิ่งมากเท่าใดก็จะเป็นเหตุให้เราได้พบกับความเปี่ยมสุขในจิตใจ เป็นที่สราญตาสราญใจ และสัมผัสอรรถรสแห่งจิตวิญญาณมากเท่านั้น
แปลโดย : ยูซุฟ อบูบักรฺ / Islamhouse