คนรักของมุฮัมมัด
  จำนวนคนเข้าชม  11185

คนรักของมุฮัมมัด

 

โดย...อ.มาลิก  โยธาสมุทร

 

          ผู้เป็นบ่าวของอัลลอฮ์ จงเกรงกลังอัลลอฮ์กันเถิด พึงทราบถึงฮิกมะฮ์อันสูงส่งในการตราบทบัญญัติของพระองค์ ในการสร้างของพระองค์ และในเดชานุภาพของพระองค์ ในการเลือกท่านนบีมุฮัมมัด  มาเป็นเราะซูลของพระองค์ เพื่อทำหน้าที่เผยแพร่ศาสนาของพระองค์ไปยังโลกทั้งผอง และยังได้เลือกบรรดาศอฮาบะฮ์ ซึ่งเป็นกลุ่มชนที่ประเสริฐภายหลังจากบรรดานบีทั้งมวล ให้ทำหน้าที่สืบทอดเจตนารมณ์ของอิสลามสืบต่อไป ด้วยกับการเสียสละและต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์ อย่างแท้จริง ทั้งในขณะที่ท่านนะบียังมีชีวิตอยู่ และเมื่อท่านนะบีได้จากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม อัลลอฮ์ได้ทรงช่วยเหลือศาสนาของพวกเขาให้ได้รับชัยชนะเหนือศาสนาทั้งปวง

 

          บรรดากลุ่มชนเหล่านั้นก็คือ บรรดาคุละฟาอ์อัรรอชิดีน ผู้เป็น "อะอิมะฮ์ อัลมะฮ์ดียูน" บรรดาอิมามผู้ทรงธรรม ในฐานะเป็นคอลีฟะฮ์ของท่านเราะซูล ทั้ง 4 ท่าน คือ ท่านอบูบักร อัซซิดดิก อับดุลลอฮ์ บินอุสมาน , ท่านอบูอัลฟารุก อุมัร บินอัลคอฎฎอบ , ท่านอบูอับดุลลอฮ์ ซุนนูรอยน์ อุสมาน บินอัฟฟาน และท่าน อบูอัลฮะซัน อะลี บินอบีฎอลิบ ผู้เป็นลูกชายของลุงของท่านนะบี

         คอลีฟะฮ์ที่ประเสริฐที่สุด ของท่านเราะซูลลุลลอฮ์  คือ ท่านอบูบักร ผู้เป็นสหายคนสนิทของท่านนะบี ขณะซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ ซึ่งท่านนะบี  ได้กล่าวถึงในปี อัลฮุดัยบียะฮ์ ขณะอยู่ในสถานะการณ์วิกฤตที่กำลังประสบกับชาวมุฮาญิรีน และชาวอันศอร และอัลลอฮ์ทรงให้พวกเขายืนหยัดในวันที่ท่านนะบีเสียชีวิต และอัลลอฮ์ได้ทรงให้ศาสนาอิสลามได้รับชัยชนะเพราะพวกเขา ในวันที่อาหรับบางส่วนตกเป็นมุรตัด สิ้นสภาพจากการเป็นมุสลิม ออกนอกศาสนาอิสลามภายหลังการเสียชีวิตของท่านนะบี

 

         ด้วยกับ บะรอกะฮ์ ความจำเริญ ของท่านอบูบักร ที่มีต่อประชาชาตินี้ ท่านได้เตือนสติผู้คนให้กลับมาดังเดิม ด้วยกับสัจธรรม ความรอบรู้และสายตาที่ยาวไกล ด้วยการให้ประชาชาติของท่านได้เลือกท่าน อุมัร อิบนุอัลคอฎฎอบ ให้ได้เป็นคอลิฟะฮ์คนต่อไป ดังที่ได้เคยได้ยินท่านนะบี กล่าวไว้ว่า

 

" แน่นอนในประชาชาติก่อนหน้าพวกท่าน เคยมีผู้คนกล่าวขวัญถึงคนผู้หนึ่งซึ่งมิใช่นะบี

หากบุคคลดังกล่าวจะมีขึ้นในประชาชาติของฉัน แน่นอน เขาคนนั้นก็คือ อุมัร นั่นเอง "

ท่านนะบี พูดถึงท่านอุมัร ว่า

" ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ ผู้ซึ่งชีวิตฉันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ว่า

ไม่พบว่าท่านนั้นจะเปิดหนทางใด ๆ ให้กับชัยฏอนเลย นอกจากมันจะต้องหลีกห่างท่านไปทางอื่น"

 

ท่านอัมร อิบนุลอาศ ได้ถามท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ถึงคนที่เป็นที่รักที่สุดของท่าน

ท่านนะบีตอบว่า "อบูบักร"

เขากล่าวว่า "แล้วใครอีกครับ ?"

ท่านนะบีตอบว่า "ต่อมาก็คืออุมัร อิบนุ อัลคอฏฏอบ"  แล้วท่านก็กล่าวถึงคนอื่นอีกหลายคน

 

          ท่านนะบี  เล่าความฝันให้ฟังว่า มีการขัดแย้งกับอบูบักรที่บ่อน้ำ"ฟิญาอ์"เรื่องถังตักน้ำ หนึ่งหรือสองครั้งที่อิบนุคอฏฏอบ แย่งถังตักน้ำไปจากอบูบักร แต่ทำให้มือของอุมัรหลุดพลาดไป ดังนั้นคนที่ฉลาดหลักแหลมก็จะไม่เห็นสิ่งที่ไม่เป็นไปตามลำดับ จนกระทั่งเรื่องที่ฝันเห็นก็เป็นจริงแล้วตามนั้น

          อัลลอฮ์ ได้ให้เป็นที่สัตย์จริงในการฝันเห็นของท่าน โดยให้ท่านอุมัร ดำรงตำแหน่งเป็นคอลีฟะฮ์ หลังจากท่านอบูบักร ท่านเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง ทำให้อิสลามแผ่ขยายไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก มีการพิชิตดินแดนชาม อิรัก อียิปต์ อาร์มาเนีย และเปอร์เซีย จนกระทั่ง กล่าวกันว่ามีการพิชิตเมืองต่างๆ ในสมัยท่านอุมัร ถึง 1,636 เมืองด้วยกัน มีการสร้างมัสญิดถึง 4,000 มัสญิด

 

ท่านชัยคุลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮ์  กล่าวว่า

          "แท้จริง อัลลอฮ์ ทรงให้เกียรติท่านอุมัร ด้วยกับศาสนาอิสลาม และด้วยกับตัวท่าน ที่ทำให้การตั้งภาคี(ชิริก)และผู้ที่ตั้งภาคีต้องต่ำต้อย ท่านได้เชิดชูสัญลักษณ์อันสูงส่งของศาสนาอิสลามอันบริสุทธิ์นี้ไว้ และได้หักห้ามการกระทำทุกอย่างที่จะทำให้ห่วงโซ่แห่งอิสลามต้องมัวหมองและหลุดลอยไป ด้วยการเป็นผู้ที่เชื่อฟังและปฏิบัติตามอัลลอฮ์ และซุนนะฮ์ของท่านเราะซูล ให้เป็นแบบอย่างอันสูงส่งในการปฏิบัติตาม

มีการปรึกษาหารือกันในกิจการงานต่างๆ ในกลุ่มศอฮาบะฮ์ที่เข้ารับอิสลามในรุ่นแรกๆ เช่น ท่านอุสมาน ท่าอะลี ท่านฏอลละฮ์ ท่านอัซซุบัยร์ และตลอดจนท่านอื่นๆ ที่เป็นผู้มีวิชาความรู้ มีทัศนะและข้อตักเตือนที่เป็นประโยชน์ต่ออิสลามและมุสลิมเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งจากบรรดาหัวหน้าที่มิใช่มุสลิมของผู้อยู่ภายใต้การปกครองของมุสลิม  และมีสัญญากันว่าจะไม่ต่อต้านกระด้างกระเดื่องต่ออิสลาม เพื่อวางระเบียบกฏเกณฑ์ต่างๆ กับพวกเขา"

 

          ท่านอุมัร ได้วางระเบียบปฏิบัติต่อ "อะฮ์ลุซซิมมะฮ์ (ผู้ที่ไม่ต่อต้านอิสลาม)" ที่เป็นพวก "นะซอรอ(คริสต์)" และคนอื่นๆ ที่จะต้องให้เกียรติต่อมุสลิม และมีการจำแนกกันกับพวกเหล่านั้น ในเรื่องเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ ฯลฯ และจะต้องไม่นำไม้กางเขนมาติดตั้งอย่างเปิดเผยตามโบสถ์ หรือตามถนนหนทางในดินแดนของมุสลิม และจะต้องไม่เผยแพร่ตำรับตำรา หรือนำมาแสดงอย่างเปิดเผยในตลาดของมุสลิม

 

 

 มูลนิธิ ชี้นำสู่สันติสุข