ความรัก สร้างเด็กให้ฉลาด
  จำนวนคนเข้าชม  17409

“ความรัก” สร้างเด็กให้ฉลาด


ดร.แพง ชินพงศ์


         หนึ่งคำถามยอดฮิตที่ใครหลายๆ คนต้องการรู้คำตอบ ก็คือ “ทำไมคนเราถึงมีความฉลาดไม่เท่ากัน” จริงๆ แล้วพันธุกรรมนั้นมีผลต่อความฉลาด 30-60% แต่สิ่งแวดล้อมมีผลต่อความฉลาด 40-70% ดังนั้น การจัดสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ไม่ว่าจะเป็นการเติมเต็มความรักและความอบอุ่นในครอบครัว การจัดที่อยู่อาศัยที่มีความสะอาด และความปลอดภัย การรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการพักผ่อนอย่างเพียงพอนั้น คือ ปัจจัยสำคัญที่ช่วยพัฒนาความฉลาดของเด็กได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรักจากพ่อแม่นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำให้สมองของเด็กเติบโตได้มากยิ่งขึ้น

       
       ผู้เขียนจึงขอนำเสนอวิธีการแสดงความรักที่สร้างให้เด็กฉลาดเพื่อที่คุณพ่อคุณแม่จะได้นำไปใช้กับลูกๆที่รักของท่าน ดังนี้
 
      
       1. รักผ่านทางการสัมผัสร่างกาย

         เด็กๆ ทุกคนชอบให้คุณพ่อคุณแม่กอด สัมผัส อุ้ม หอม เพราะนั่นคือ การแสดงออกว่าเขาเป็นที่รักและเป็นคนสำคัญของคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรสัมผัสลูกด้วยความรักให้บ่อยครั้ง เช่น โอบกอดลูกทุกครั้งที่มีโอกาสเพราะเวลาที่ลูกๆ อยู่ในอ้อมแขนของคุณพ่อคุณแม่ เขาจะรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย ผ่อนคลาย และมีความสุขเป็นอย่างมาก ซึ่งส่งผลให้สมองเกิดการหลั่งของสารเคมีที่ทำให้เด็กอารมณ์ดีและมีความสุข (Endorphin) ทำให้สมองของเด็กเจริญเติบโตได้ดี ฉลาด และสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้รวดเร็วและมีความจำที่ดี

        ตรงกันข้ามกับเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างปล่อยปละละเลย เช่น ไม่มีใครสัมผัส อุ้ม โอบกอด หรือปล่อยให้ร้องไห้อยู่คนเดียวนานๆ พัฒนาการทางสติปัญญาและทางด้านอารมณ์จะมีปัญหาและล่าช้ากว่าเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูด้วยสัมผัสรักที่อบอุ่นอย่างสม่ำเสมอ

       
       2. รักผ่านทางเสียง

          คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยกับลูกด้วยถ้อยคำอ่อนโยนอยู่เสมอ เช่น พ่อรักหนูมากนะลูก หนูน่ารักที่สุดสำหรับแม่เลยรู้มั้ยคะ นอกจากนี้ การที่คุณพ่อคุณแม่เล่านิทาน พูดคำคล้องจอง ร้องเพลงกับลูก เป็นสิ่งที่นอกจากจะช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกที่ดีแล้วยังเป็นการช่วยพัฒนาความฉลาดในเรื่องของความจำและในเรื่องภาษาของเด็กเป็นอย่างมาก เพราะการที่เด็กแต่ละคนจะมีพัฒนาการทางภาษาที่ดีได้นั้น ต้องเกิดจากการที่เด็กมีการพูดคุยสื่อสารกับคนรอบตัวทั้งคุณพ่อคุณแม่ ญาติพี่น้องและผู้มีหน้าที่ดูแลเด็กๆ อย่างสม่ำเสมอ

         ดังนั้น หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกฉลาดในเรื่องของภาษาแล้ว ก็ต้องหมั่นพูดคุยสืิ่อสารกับลูกเป็นประจำและต่อเนื่อง โดยหลีกเลี่ยงการพูดจาทำร้ายจิตใจลูกและการตะโกนเสียงดังหยาบคายใส่ลูก เพราะเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ลูกเครียด ส่งผลให้สารแห่งความเครียด (Cortisol) หลั่งเมื่อสมองได้รับความกดดัน ซึ่งมีผลไปยับยั้งการเจริญเติบโตของสมองและใยประสาท ส่งผลให้เด็กมีสมาธิสั้นและความสามารถในการเรียนรู้ลดลง

       
       3. รักผ่านการให้เวลา 

         ถึงแม้วันหนึ่งๆ คุณพ่อคุณแม่จะมีงานยุ่งมากมายแค่ไหน แต่สิ่งที่ไม่ควรละเลยก็คือ การให้เวลาอย่างมีคุณภาพกับลูก ซึ่งได้แก่
      
       - การชวนลูกพูดคุยถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เช่น เรื่องที่โรงเรียน เรื่องเพื่อน เรื่องสัตว์เลี้ยงในบ้าน เรื่องหนังสือที่ลูกชอบอ่าน หรือเรื่องต่างๆ ที่ลูกสนใจ

       - การเล่นกับลูก เช่น เล่นใบ้คำ เล่นต่อจิ๊กซอว์ เล่นออกกำลังกาย วาดรูประบายสีร่วมกัน

       - การทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันในครอบครัว เช่น ปลูกต้นไม้ รดน้ำต้นไม้ เลี้ยงสัตว์ ทำอาหาร

       - การพาลูกออกไปเที่ยวนอกบ้าน เช่น ไปเดินเล่นและออกกำลังกายที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน พาไปเที่ยวทะเล ไปต่างจังหวัด ไปเยี่ยมญาติพี่น้อง

      
       การใช้เวลาอย่างมีคุณภาพไม่ใช่แค่อยู่ด้วยกัน แต่ไม่เคยมีกิจกรรมร่วมกัน ไม่เคยพูดคุยหัวเราะกัน หรือทำสิ่งต่างๆ ร่วมกัน เพราะแม้จะได้ชื่อว่าอยู่ด้วยกันแต่การใช้เวลานั้นไม่เกิดประโยชน์หรือคุณค่าแต่อย่างใด มีแต่จะสร้างความกดดันหรือความทุกข์ให้แก่ลูก เพราะเขาจะรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง ดังนั้น พ่อแม่ลูกควรมีปฏิสัมพันธ์กันให้มาก เพราะช่วงเวลาในการที่คุณพ่อคุณแม่ได้ใช้ทำกิจกรรมร่วมกับลูกๆ นอกจากจะเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวได้มีประสบการณ์ดีๆ ร่วมกันแล้วยังเป็นการพัฒนาความฉลาดในเรื่องความรู้รอบตัวกับลูกโดยตรงอีกด้วย
       
       สำหรับเด็กๆ แล้ว การที่เขาได้รับการเลี้ยงดูที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักตั้งแต่ยังเล็ก นอกจากจะทำให้เขาเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นคงทางด้านอารมณ์และมองโลกในแง่ดีแล้ว ยังช่วยพัฒนาความฉลาดในเรื่องของการใช้ภาษาสื่อสาร การปรับตัวเข้าผู้อื่น อีกทั้งพัฒนาความฉลาดในเรื่องของความจำ การคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้อีกด้วย ดังนั้น หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกฉลาดนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่การแสดงความรักกับลูกด้วยการสัมผัสร่างกาย พูดกับลูกด้วยถ้อยคำดีๆ และให้เวลาคุณภาพกับลูกอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอแล้ว เพราะความรักของพ่อแม่เปรียบเสมือนอาหารใจและอาหารสมองอันแสนวิเศษที่ลูกๆ ทุกคนในโลกนี้ปรารถนายิ่งกว่าสิ่งใด

 


manager online / Life & family