อย่าปล่อยให้ชีวิตสูญเปล่าในเดือนรอมาฏอน
อาจารย์ อิบรอเฮม และซัน
ศรัทธาชนที่เคารพรักทั้งหลาย ไม่มีวันคืนไหนจะมาชื่นใจเท่ากับวันคืนในเดือนรอมาฏอน กลางวันเราได้ถือศีลอด ได้อดทน ได้สนองพระบัญชา ได้ละหมาดก้มกราบในขณะที่เรากำลังถือศีลอด ในเดือนรอมาฏอน เราทุกคนต่างแสดงความยำเกรงต่อ الله อัลเลาะห์ ออกมาให้ปรากฏ ใครที่ถือศีลอดผ่านมาด้วยใจศรัทธา ด้วยความภักดี ชีวิตจะไม่ไร้ค่า บาปกรรมที่เคยทำมาจะได้รับการลบล้าง บุญกุศลจะเพิ่มพูน เพราะ الله อัลเลาะห์ ทรงสัญญาไว้กับบ่าวของพระองค์ ดังที่ท่าน นบีมูฮัมมัด النبي صلى الله عليه وسلم ได้กล่าวถึงความโชคดีของผู้ศรัทธาว่า
مَنْ صَامَ رَمَضَانَ إيْمَانًاوَاحْتِسَابًاغُفِرَلَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ
“ผู้ใดที่เขาถือศีลอดด้วยใจศรัทธาและด้วยความบริสุทธิ์ใจ เขาจะได้รับการอภัยบาปที่เขาได้กระทำล่วงผ่านมา”
(บุคอรี)
ในทุกๆค่ำคืนของเดือนรอมาฏอน มะลาอิกะห์จะประกาศเรียกร้อง เชิญชวนมวลบ่าวของ الله อัลเลาะห์ มาทำความดี ดังที่ท่าน นบีมูฮัมมัด ได้กล่าวถึงความโชคดีของผู้ศรัทธาว่า
وَيُنَادِيْ مُنَادٍ كُلَّ لَيْلَةٍ : يَا بَاغِيَ الخَيْرِ هَلُمَّ وَيَا بَاغِيَ الشَرِّأَقْصِرْ
“และจะมีผู้ป่าวประกาศเป็นประจำในทุกๆคืนในเดือนรอมาฏอนว่า โอ้บรรดาผู้ที่ใฝ่หาเรื่องชั่ว จงยุติเสียเถิด”
(อะหมัด)
เมื่อยามกลางวันเราถือศีลอด ขอให้รักษาศีลอดให้สมบูรณ์เรียบร้อย ขอให้สำนึกไว้ว่า การถือศีลอดนั้นไม่ใช่ให้อดอาหาร อดน้ำดื่ม แต่เพียงเรื่องเดียว แต่เราต้องอดใจไม่คิดเรื่องชั่ว อดปากไม่พูดเรื่องที่ไร้สาระ ไม่พูดเรื่องบาปเรื่องละเมิดคนอื่น อดการเดินไปในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม ไม่ไปรับฟังคัมภีร์ของไซตอน พวกเสียงเพลง เสียงดนตรี ให้หูของเราได้พักการฟังเรื่องชั่ว ฟังแต่เสียงดีๆ เสียงที่มีกุศล เช่น เสียงอ่านอัลกุรอาน ยิ่งปากของเราอ่านอัลกุรอาน หูของเราก็ได้รับฟังไปด้วย เพราะปากอ่าน หูฟัง และหากเอาคัมภีร์อัลกุรอานมาเปิดอ่านด้วยตาของเรา จะได้ดูอักษรของอัลกุรอาน แบบนี้บุญกุศลมหาศาล คิดไม่ถ้วนคำนวณไม่ได้
อย่าปล่อยให้ชีวิตสูญเปล่าในเดือนรอมาฏอน อย่าถือศีลอดแล้วทอดทิ้งละหมาด เพราะความดีทุกแขนงต้องทำควบคู่กันไป ถือศีลอดก็ประเสริฐ ละหมาดก็สำคัญ เหมือนตัวเราจะไปไหนต้องมีศีรษะควบคู่ไปด้วย ไม่ใช่ไปแต่ตัวแล้วหัวไม่มี
เดือนรอมาฏอน เป็นเดือนเก็บเกี่ยวอิบาดะห์ทุกชนิด กลางวันเราถือศีลอด ส่วนในตอนกลางคืนเราทำละหมาดสุนัต ตื่นมาทำอิบาดะห์ให้มากๆ อย่าไปกังวลกับเรื่องนอนให้มากเกินไปนัก เพราะเมื่อเราไปอยู่ในกุบุรแล้วจะได้ไปนอนรอวันกิยามะห์นานแสนนาน กลางวันเราถือศีลอดด้วย ทำงานด้วย ละหมาดฟัรดูด้วย ส่วนกลางคืนเรามามัสยิด มาร่วมละหมาดตะรอเวี๊ยะห์ พร้อมวิเตร เอี๊ยะติกาฟมัสยิด ชีวิตของเราจะได้ดีขึ้น
ท่าน นบีมูฮัมมัด กล่าวไว้ว่า
إِنَّ اللهَ تَبَارَكَ وَتَعَالَى فَرَضَ صِيَامَ رَمَضَانَ عَلَيْكُمْ
وَسَنَنْتُ لَكُمْ قِيَامَهُ فَمَنْ صَامَهُ وَ قَامَهُ إيْمَانًا
وَاحْتِسَابًا خَرَجَ مِنْ ذُنُوْبِهِ كَيَوْمِ وَلَدَتْ أُمُّهُ
“แท้จริง الله ได้ทรงมีบัญญัติการถือศีลอดในเดือนรอมาฏอน แก่พวกท่านทั้งหลาย และตัวฉันก็ได้ทำแบบอย่างไว้สำหรับพวกท่านในเรื่องของการตื่นเพื่อทำการอิบาดะห์ในตอนกลางคืนของเดือนรอมาฏอน ดังนั้นผู้ใดที่เขาถือศีลอด และไม่หลับนอน เพื่อการทำอิบาดะห์ในเดือนรอมาฏอนตามแบบฉบับของฉัน โดยศรัทธาและบริสุทธิ์ใจ เขาจะได้ออกจากมวลบาปของเขา ประดุจดังวันที่มารดาของเขา ได้คลอดเขาออกมา”
(รายงานโดยอันนะซาอี และ อะหมัด)
ท่านพี่น้องที่เคารพ เดือนรอมาฏอนจะขัดสีตัวเราให้เกลี้ยงสะอาดปราศจากบาปเหมือนวันที่เราคลอดออกมาจากครรภ์ของมารดานั้น หมายถึงภายหลังจากที่เราได้ทำการเตาบัตจากบาปใหญ่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสิทธิของ الله อัลเลาะห์ .หรือสิทธิของมนุษย์ จงฉกฉวยโอกาส เราต้องมีมานะ อดทน อย่าเห็นแก่ตัว อย่าเห็นแก่กิน อย่าเอาแต่สบาย อย่าให้รอมาฏอนผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ และขอให้เราระวังเรื่องเลว เรื่องชั่ว อย่าได้เฉียดเข้าไปใกล้ อย่าทิ้งละหมาด อย่าขาดการถือศีลอด อย่าพูดจานินทาว่าร้ายใคร ทำมาหากินแต่ริสกีที่ดี อย่าหันหลังให้มัสยิด
ใน อัลกุรอาน ซูเราะห์ บะนีอิสรออีล الإسرَاء อายะห์ ที่ 7 الله อัลเลาะห์ ตรัสความว่า
اِنْ اَحْسَنْتُمْ اَحْسَنْتُمْ لِاَنْفُسِكُمْ ٌ وَاِنْ اَسَاْتُمْ فَلَهَا
“หากพวกเจ้าทำความดี พวกเจ้าก็ทำเพื่อตัวของเจ้าเอง และหากว่าพวกเจ้าทำความชั่วก็เพื่อตัวเอง
(หมายถึงการทำความดีก็มิได้ให้คุณแก่พระองค์ และการทำชั่วก็มิได้ให้โทษแก่พระองค์เช่นกัน ทั้งคุณและโทษนั้นกลับไปหาตัวของพวกท่านเอง)”
และในซูเราะห์ อันนะหฺลิ النحلอายะห์ที่ 128 พระองค์ตรัสความว่า
إِنَّ اللهَ مَعَ الَّذِيْنَ اتَّقَوْ وَّالَّذِيْنَ هُمْ مُّحْسِنُوْنَ
“แท้จริง อัลลอฮฺทรงอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ยำเกรง และบรรดาผู้กระทำความดี”
** ดังนั้นจึงขอให้เราอดทนทำความดี เพราะ รอมาฏอน ปีหน้าอาจจะไม่มีเรา ?
คุตบะห์วันศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐ