การเงินอิสลาม ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจอาเซียน
นิพล แสงศรี
ปัจจุบันสินทรัพย์ภายใต้การบริหารของอุตสาหกรรมการเงินอิสลามทั่วโลก (ล่าสุด) จะอยู่ที่ 950,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ขนาดของตลาดพันธบัตรอิสลามทั่วโลกอยู่ที่ 110,000 ล้านดอลลาร์ โดยคาดการคาดการณ์ว่าสินทรัพย์จะพุ่งขึ้น 5 เท่าตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และแน่นอนส่วนหนึ่งของสินทรัพย์หลายหมื่นล้านดอลลาร์ข้างต้น กำลังหมุนเวียนอยุ่ในเศรษฐกิจอาเซียน
การเปิดตัวประชาคมอาเซียน ซึ่งมีประชากรราว 600 ล้านคน และ 300 กว่าล้านคนเป็นมุสลิม เช่น ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และบรูไน เป็นต้น จะทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มและเกิดการโยกย้ายทรัพยากรมนุษย์หรือแรงงาน ทั้งในเชิงรุก กล่าวคือ ประเทศไทยสามารถไปทำธุรกิจ ค้าขาย และลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านได้ และเชิงรับ กล่าวคือ ประเทศเพื่อนบ้านสามารถเข้ามาทำธุรกิจ ค้าขาย และลงทุนในประเทศได้ ซึ่งจะทำระบบการเงินอิสลาม กลายเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจอาเซียนทันที
มีการประเมินสินทรัพย์สหกรณ์ ที่ดำเนินธุรกรรมทางการเงินตามรูปแบบการเงินอิสลามพบว่า ราว 3,000 ล้านบาทหมุนเวียนอยู่ในวงจรเศรษฐกิจอาเซียน 8 ประเทศ ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย จำนวน 6 สหกรณ์ ประเทศบรูไน ดารุสสลาม 1 สหกรณ์ ประเทศสิงคโปร์ 1 สหกรณ์ ประเทศมาเลเซีย 6 สหกรณ์ ประเทศกัมพูชา 2 สหกรณ์ ประเทศเวียดนาม 1 สหกรณ์ ประเทศลาว 1 สหกรณ์ และสหกรณ์อิสลามในประเทศไทย 20 สหกรณ์
ส่วนธุรกรรมสินเชื่อขนาดย่อม (Micro Credit) ตามหลัก Ar- Rahnu โดยใช้ทองคำเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันนั้น กำลังจะเปิดขยายฐานการเงินอิสลามให้บริการ 736 สาขาทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คิดเงินเป็นมูลค่า 5.4 พันล้านดอลลาร์ และจะเพิ่มขึ้นอีกหลังเปิดตัวประชาคมอาเซียน (Ar-Rahnu มีสำนักงานบริหารจัดการที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ก่อตั้งเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2004 / พ.ศ.2547 ปัจจุบันมีสมาชิก 7 ประเทศ คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไนดารุสซาลาม ไทย สิงคโปร์ กัมพูชา และตีมอร์เลสเต้)
ทั้งนี้ยังไม่รวมสินทรัพย์ของธนาคารอิสลาม พันธบัตรอิสลาม และกองทุนอิสลามประเภทอื่นๆในประเทศสมาชิกอาเซียน ที่กล่าวมาชี้ให้เห็นว่า ระบบการเงินอิสลามกำลังแพร่กระจายสู่ประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งมีสินทรัพย์ดำเนินธุรกรรมแบบอิสลามมากขึ้นเท่าใด ยิ่งมีบทบาทต่อเศรษฐกิจอาเซียนมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ดังนั้นประเทศที่ไม่เคยได้ยินหรือไม่รู้จักระบบการเงินข้างต้น ควรทำความเข้าใจเพื่อให้ธุรกรรมทางการเงินกับมุสลิมดำเนินไปได้ด้วยดี