150 ประตูแห่งความดี แด่...ผู้มีชีวีตถึงรอมฎอน(2)
  จำนวนคนเข้าชม  16834

 

150 ประตูแห่งความดี แด่...ผู้มีชีวีตถึงรอมฎอน...(2)


โดย ...ยูซุฟ อบูบักร


อัลฮัมดุลิลลาฮฺ  วัศเศาะลาตุวัสลาม  อะลาคอติมิลอัมบิยาอฺ วัลมุรสะลีน  นบียินามุฮัมมัด  วะอะลาอาลิฮี  วะเศาะฮฺบิฮี อัจญมะอีน

          พวกเราจำเป็นต้องมีหุ้นส่วนในการร่วมฟื้นฟูเดือนอันยิ่งใหญ่เดือนรอมฎอน  เดือนแห่งการอภัยโทษและความพอพระทัย  ซึ่งอัลลอฮฺได้ตรัสไว้ว่า:

«شَهْرُ رَمَضَانَ الَّذِي أُنْزِلَ فِيهِ الْقُرْآَنُ هُدًى لِلنَّاسِ وَبَيِّنَاتٍ مِنَ الْهُدَى وَالْفُرْقَانِ فَمَنْ شَهِدَ مِنْكُمُ الشَّهْرَ فَلْيَصُمْهُ»

  “เดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่อัลกุรอานถูกประทานลงมาเป็นข้อแนะนำสำหรับมวลมนุษยชาติ  และเป็นหลักฐานอันชัดเจนเกี่ยวกับข้อแนะนำนั้น

 และเป็นสิ่งที่มาจำแนกระหว่างความจริงกับความเท็จ  ดังนั้นผู้ใดจากกลุ่มพวกท่านเข้าอยู่ในเดือนนั้นแล้วก็จงถือศีลอด...” 

(อัลบะกอเราะฮฺ  :185)

            ในโอกาสนี้เราเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรวบรวมบรรดาหะดีษและอาษารฺซึ่งเป็นประตูหลายบานที่จะนำไปสู่ความดีงามพร้อมทั้งเป็นการมาช่วยขัดเกลาในภารกิจอันสำคัญของเดือนอันประเสริฐนี้  พร้อมกันนี้ได้เตือนระวังถึงความจำเป็นต่อการรักษาการทำอิบาดะฮฺทั้งที่เป็นฟัรฏูและซุนนะฮฺ  และอัลลอฮฺเป็นผู้นำทางสู่เส้นทางอันเที่ยงตรง

 

ประตูที่ 1 - 20     ประตูที่ 21 - 50     ประตูที่ 51 - 80     ประตูที่ 81 - 100     ประตูที่ 101 - 120     ประตูที่ 121 - 150


21. กล่าวดุอาอฺหลังจากอะซาน

 “ผู้ใดที่กล่าวขณะที่ได้ยินเสียงอะซานว่า

อัลลอฮุมมาร็อบบาฮาซิฮิดดะวะติตตามะ  วัศศอลาติลกออิมะฮฺ  อาติมุฮัมมะดานิลวะซีละฮฺวัลฟาฏีละฮฺ  วับอัซฮูมะกอมัน  มะฮฺมูดะนิลลาซีวะอัดตะฮฺ

ในวันกิยามะฮฺการช่วยเหลือของฉันจะเป็นที่อนุญาตแก่เขา”

(อัลบุคอรียฺ)


22. การขอดุอาอฺระหว่างอะซานกับอิกอมะฮฺ 

“การขอดุอาอฺระหว่างอะซานกับอิกอมะฮฺจะไม่ถูกปฏิเสธ” 

(อะบูดาวุดและอัตติรมิซียฺ)


23. ดำรงการละหมาด  5  เวลา 

“ไม่มีมุสลิมคนใดได้ทำการละหมาดฟัรฏู  เขาอาบน้ำละหมาดอย่างดี  มีสมาธิอย่างดีและรูกัวะอย่างดี  นอกจากเขาจะถูกลบล้างความผิดเล็กๆ  ในปีที่ผ่านมาทั้งหมด”

 (มุสลิม)


24. รักษาการละหมาดให้อยู่ในเวลา 

“ท่านรอสูล  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ถูกถามว่า : การงานใดประเสริฐที่สุด ? 

ท่านรอสูลตอบว่า : การละหมาดในเวลา” 

(อัลบุคอรียฺและมุสลิม)


25. รักษาละหมาดฟัจญรีและอัศรี 

“ผู้ใดที่ได้ละหมาดบัรดัยนฺ  (ศุบฮิและอัศรี)  เขาจะได้เข้าสวนสวรรค์” 

(อัลบุคอรียฺ)


26. รักษาละหมาดญุมอะฮฺ 

“ระหว่างการละหมาดห้าเวลา  จากญุมอะฮฺถึงญุมอะฮฺ  จากรอมฎอนถึงรอมฎอน  พวกเขาจะถูกลบล้างความผิดให้  เมื่อเขาได้ออกห่างจากบาปใหญ่” 

(มุสลิม)


27. พยายามแสวงหาช่วงเวลาที่ดุอาอฺถูกตอบรับในวันศุกร์ 

“ในวันศุกร์จะมีเวลาช่วงหนึ่งไม่มีบ่าวมุสลิมคนใดตรงกับช่วงเวลานั้นในสภาพที่เขายืนละหมาดและร้องขอสิ่งใดต่ออัลลอฮฺนอกจากอัลลอฮฺจะให้สิ่งนั้นแก่เขา” 

(อัลบุคอรียฺและมุสลิม)


28. อ่านซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟีในวันศุกร์

 “ผู้ใดที่อ่านซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟีในวันศุกร์  รัศมีจะส่องประกายแก่เขาในระหว่างวันศุกร์ถึงอีกวันศุกร์” 

(อัลนะสาอียฺและอัลฮากิม)


29. การเดินไปมัสยิด 

“ผู้ใดที่เดินไปมัสยิดในตอนเช้าและตอนบ่าย  อัลลอฮฺจะเตรียมที่พักให้แก่เขาในสวนสวรรค์  ทุกครั้งที่เขาเดินไปในตอนเช้าและตอนบ่าย” 

(อัลบุคอรียฺและมุสลิม)


30. การละหมาดในมัสยิดฮะรอม

  “การละหมาดในในมัสยิดหลังนี้ประเสริฐกว่ามัสยิดอื่นๆ    1,000  ละหมาด  นอกจากมัสยิดฮะรอม  (มักกะฮฺ) 

เพราะการละหมาดในมัสยิดฮารอมประเสริฐกว่าละหมาดในมัสยิดหลังนี้  100,000  ละหมาด” 

(อะหฺมัดและอิบนิคุซัยมะฮฺ)


31. การละหมาดในมัสยิดนะบะวียฺ  (มะดีนะฮฺ) 

“การละหมาดในในมัสยิดหลังนี้ประเสริฐกว่ามัสยิดอื่นๆ    1,000  ละหมาด  นอกจากมัสยิดฮะรอม” 

(มุสลิม)


32. การละหมาดที่มัสยิดอัลอักศอ 

“อย่าได้มุ่งมั่นตั้งใจใช้ความพยายามที่จะไปเยี่ยมสถานที่ต่างๆ  นอกจากสามมัสยิด คือ  มัสยิดฮะรอม  มัสยิดรอสูล   และมัสยิดอัลอักศอ” 

(อัลบุคอรียฺ)


33. การละหมาดที่มัสยิดกุบาอฺ

 “ผู้ใดที่ได้ละหมาดในมัสยิดกุบาอฺ  ภาคผลบุญเท่ากับการทำอุมเราะฮฺ” 

(อิบนุหิบบาน)


34. รักษาการละหมาดญะมาอะฮฺ 

“การละหมาดญะมาอะฮฺประเสริฐกว่าการละหมาดคนเดียวถึง  27  เท่า” 

(อัลบุคอรียฺและมุสลิม)


35. เอาใจใส่ต่อการละหมาดแถวแรก 

“หากมนุษย์รู้คุณค่าของการอะซานและการละหมาดแถวแรก 

ต่อจากนั้นพวกเขาจะไม่พบสถานที่นั้นนอกจากพวกเขาต้องจับสลาก แน่นอนพวกเขาย่อมจะจับฉลาก” 

(อัลบุคอรียฺและมุสลิม)


36. ละหมาดฏุฮาเป็นประจำ 

“ทุกตอนเช้ากระดูกทุกข้อของพวกท่านได้ทำศอดาเกาะฮฺ  ทุกครั้งที่กล่าว

ซุบฮานัลลอฮฺ เป็นศอดาเกาะฮฺ  กล่าว อัลฮัมดุลิลลาฮฺ เป็นศอดาเกาะฮฺ กล่าว ลาฮิลาฮะอิลลัลลอฮฺ เป็นศอดาเกาะฮฺ  กล่าว อัลลอฮูอักบัร เป็นศอดาเกาะฮฺ

การใช้ให้ทำความดีเป็นศอดาเกาะฮฺ  การห้ามปรามจากความชั่วเป็นศอดาเกาะฮฺ และเป็นการเพียงพอจากสิ่งต่างๆ  ที่กล่าวมาด้วยการละหมาดฏุฮาสองร็อกอัต” 

(มุสลิม)


37. รักษาซุนนะฮฺเราะวาติบ 

“ไม่มีบ่าวมุสลิมคนใดที่ละหมาดเพื่ออัลลอฮฺในวันหนึ่ง  12  ร็อกอัต ด้วยความสมัครใจนอกเหนือจากละหมาดฟัรฏู 

ยกเว้นอัลลอฮฺจะสร้างบ้านหลังหนึ่งในสวนสวรรค์ให้แก่เขา” 

(มุสลิม)


38.  สร้างบรรยากาศในบ้านด้วยกับสิ่งที่เป็นซุนนะฮฺ 

“จงละหมาด (ซุนนะฮฺ) ในบ้านของพวกท่าน  และอย่าทำบ้านให้เสมือนกุโบรฺ” 

(อัลบุคอรียฺ)


39. สุญูดให้มากๆ

 “สภาพที่บ่าวใกล้ชิดต่อพระผู้อภิบาลของเขามากที่สุดคือ  ในสภาพที่เขาสุญูด  ดังนั้นจงขอดุอาอฺให้มาก” 

(มุสลิม)


40. การนั่งในที่ละหมาดหลังจากละหมาดศุบฮฺเพื่อรำลึกถึงอัลลอฮฺ 

“ผู้ใดที่ได้ละหมาดญามาอะฮฺศุบฮฺหลังจากนั้นเขาได้นั่งรำลึกถึงอัลลอฮฺจนกระทั่งดวงอาทิตย์ขึ้น 

 ต่อจากนั้นเขาได้ละหมาดสองร็อกอัต  เขาได้รับภาคผลบุญเท่ากับการทำฮัจญ์และอุมเราะฮฺ” 

(อัตติรมิซียฺ)


41. การละหมาดและติดตามญะนาซะฮฺ 

“ผู้ที่ได้เยี่ยมญะนาซะฮฺพร้อมทั้งละหมาดให้เขาได้รับผลบุญเท่าหนึ่งกีรอต  และผู้ที่เข้าร่วมจนกระทั่งฝังเขาจะได้รับผลบุญเท่าสองกีรอต 

มีคนกล่าวว่า : สองกีรอตนี้เท่าไหร่ ? 

ท่านรอสูลตอบว่า : เท่ากับภูเขาใหญ่สองภูเขา” 

(อัลบุคอรียฺและมุสลิม)


42.  การละหมาดที่บ้านสำหรับผู้หญิง 

“พวกท่านอย่าได้ห้ามบรรดาผู้หญิงของพวกท่านไปละหมาดที่มัสยิด  และการละหมาดที่บ้านของพวกนางย่อมประเสริฐกว่า” 

(อะบูดาวุด)


43. เอาใจใส่ต่อการละหมาดอีดในสนาม  (มุศ็อลลา) 

“ปรากฏว่าท่านรอสูลออกไปละหมาดวันอีดิลฟิตรีและอีดิลอัฏฮาที่มุศ็อลลา” 

(อัลบุคอรียฺ)


44. ฝึกฝนลูกหลานให้ละหมาด 

“จงใช้ลูกหลานของพวกท่านให้ละหมาดขณะอายุของพวกเขาได้  7  ปี  และให้ตีพวกเขา  (หากขาด)  เมื่ออายุได้  10  ปี  และจงแยกที่นอนของพวกเขา” 

(อะบูดาวุด)


45. ฝึกฝนลูกหลานให้ถือศีลอด 

จากอัรรอบีอฺ  บินติ  มุเอาวัซ  กล่าวว่า: "พวกเราได้ถือศีลอดและฝึกฝนให้ลูกหลานของเราถือศีลอด  และเราได้ให้ของเล่นแก่พวกเขาเพื่อให้ลืมความหิวโหย” 

(อัลบุคอรียฺ) 


46. ซิกรุลลอฮฺหลังจากละหมาดฟัรฏู 

“ผู้ใดที่กล่าว ”ซุบฮานัลลอฮฺ” ทุกครั้งหลังละหมาด  33  ครั้ง  “อัลฮัมดุลิลลาฮฺ”  33  ครั้ง  “อัลลอฮุอักบัร”  33  ครั้ง  รวมเป็น  99  ครั้ง 

 ต่อจากนั้นเขากล่าวว่า “ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ  วะฮฺดาฮูลาชะรีกาละฮฺ  ละฮุลมุลกุ  วะลาอุลฮัมดุ  วะฮูวาอะลากุลลีชัยอินกอดีร” 

ความผิดของเขาจะถูกลบล้างถึงแม้จะมีมากเท่าฟองน้ำในทะเล” 

(มุสลิม)


47. รักษาละหมาดตะรอเวี๊ยะ 

“ละหมาดที่ประเสริฐสุดหลังจากละหมาดฟัรฏู คือ  ละหมาดในยามกลางคืน” 

(มุสลิม)


48. ให้รีบในการละศีลอด 

“มนุษย์จะยังคงอยู่ความดีงาม  ตราบใดที่พวกเขารีบเร่งในการละศีลอด” 

(อัลบุคอรียฺ)


49. ให้ละศีลอดก่อนละหมาด 

“ปรากฏว่าท่านนบี  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ท่านจะละศีลอดก่อนที่ท่านจะละหมาด” 

(อะหฺมัด)


50. ละศีลอดด้วยอินทผลัม  

“ผู้ที่มีอินทผลัมก็จงละศีลอดกับมัน  หากไม่มีอินทผลัมก็จงละด้วยกับน้ำ  แท้จริงน้ำนั้นสะอาด” 

(อะหฺมัด , อะบูดาวุดและอัตติรมิซียฺ)

 

 

next .......... >>> click