อย่าลืมตัวเอง
โดย อ.อับดุลลอฮ์ แอนดริส
"พวกเจ้าใช้ให้ผู้คนกระทำความดี โดยที่พวกเจ้าลืมตัวของพวกเจ้าเองกระนั้นหรือ ?
และทั้ง ๆ ที่พวกเจ้าอ่านคัมภีร์กันอยู่ แล้วพวกเจ้าไม่ใช้ปัญญากระนั้นหรือ ?"
จากอายะฮ์ดังกล่าวนี้ อัลลอฮ์ ทรงตำหนิติเตียนพวกบนีอิสรออีล ที่พวกเขาประพฤติปฏิบัตินอกลู่นอกทาง และกระทำสิ่งที่ไม่ชอบด้วยปัญญา และไม่ชอบด้วยบัญญัติแห่งศาสนา นั่นคือ ใช้ให้คนอื่นกระทำความดี แต่ตัวเองไม่กระทำ พระองค์อัลลอฮ์ ทรงกล่าวติเตียนเพื่อให้พวกเขาเลิกประพฤติดังกล่าวเสีย
มีรายงานจากท่าน อิบนุอับบาส ว่าอายะฮ์นี้ถูกประทานลงมาเกี่ยวกับนักปราชญ์ชาวยิวของนครมะดีนะฮ์ เนื่องจากพวกเขาได้แนะพวกยิวบางคนเป็นการลับๆ ให้ศรัทธาต่อท่านนะบีมุฮัมมัด โดยที่พวกเขาเองไม่ยอมศรัทธา
และที่อัลลอฮ์ ตรัสถามว่า "โดยที่พวกเจ้าลืมตัวของพวกเจ้าเอง" หมายถึง ละเลยตัวเองเนื่องจากหย่อนยานการศรัทธา เพราะว่าโดยปกติแล้วนั้น มนุษย์โดยสันดานย่อมไม่ลืมตัวเองในประโยชน์ที่ตนเองจะได้รับ และในขณะเดียวกันก็ไม่ชอบที่จะเห็นใครได้ดีกว่าตน ได้รับความสำเร็จก่อนตน หรือล้ำหน้าไปสู่ความสุขก่อนตน และที่พระองค์ทรงใช้คำนี้ก็เพื่อสะกิดใจให้สำนึกในสิ่งอันเป็นหน้าที่ ที่มนุษย์จะต้องปฏิบัติ ดังที่กับพระองค์ทรงกล่าวแก่พวกเขาว่า
" ถ้าพวกเจ้าเชื่อมั่นในคำสั่งของคัมภีร์ ที่ให้กระทำความดี ละเว้นความชั่ว จนกระทั่งแนะนำคนอื่นให้ปฏิบัติแล้วไซร้ เหตุไฉนเลย พวกเจ้าเองไม่ปฏิบัติเล่า ? "
ข้อความดังกล่าวนี้เป็นการตำหนิอย่างรุนแรง เพราะผู้ที่ใช้ให้คนอื่นทำในสิ่งที่ตนเองไม่กระทำนั้น นับเป็นการสร้างหลักฐานมัดตัวเองด้วยลมปากของตนเอง และความที่ว่า " ทั้งที่พวกเจ้าอ่านคัมภีร์กันอยู่ แล้วพวกเจ้าไม่ใช้ปัญญาดอกหรือ ? " นั้นหมายถึงว่า พวกนักปราชญ์และนักบวชของพวกอิสรออีล (ถ้าจะเปรียบในสังคมปัจจุบันของเรา ก็คือ ผู้ที่มีความรู้ทั้งหลาย) ย่อมรู้ดีว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรจริง และอะไรเท็จ สิ่งไหนความปฏิบัติ และสิ่งไหนไม่ควรปฏิบัติ ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังรู้อีกว่า ถ้าพวกเขาไม่ปฏิบัติสิ่งที่เป็นหน้าที่จำเป็นแล้ว อะไรจะเกิดขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากพวกเขาอ่านคัมภีร์กันอยู่ ซึ่งสิ่งดังกล่าวได้ระบุอยู่ในคัมภีร์ทั้งสิ้น แต่แทนที่พวกเขาจะปฏิบัติในฐานะผู้รู้ กลับเฉยเมยเสีย แล้วใช้ให้ผู้อื่นปฏิบัติ การใช้ให้ผู้อื่นปฏิบัตินอกจากจะไม่เกิดประโยชน์ต่อตัวเองแล้ว ยังเป็นหลักฐานผูกมัดตัวเองโดยไม่มีทางแก้ตัวได้เลย
ส่วนข้อความที่ว่า " แล้วพวกเขาไม่ใช้ปัญญาดอกหรือ ? " เป็นคำถามเชิงปฏิเสธ ทั้งนี้เพื่อย้ำว่าการกระทำของพวกเขานั้นเป็นคำถามในเชิงปฏิเสธ และเพื่อย้ำพวกเขาว่าการกระทำของพวกเขานั้นมิใช่เนื่องจากความมุ่งหมายในคัมภีร์ หากแต่เป็นการกระทำที่จงใจฝ่าฝืนทั้งๆที่รู้อยู่ เนื่องด้วยเพราะเห็นว่าทรัพย์สิน และเกียรติยศที่บรรดาลูกน้องผู้งมงายหยิบยื่นให้นั้นสำคัญยิ่งกว่าคำสั่งของพระผู้เป็นเจ้า และมีค่าเหนือกว่าสิ่งที่พระองค์ทรงเตรียมไว้ตอบแทน หรือไม่อาจจะไม่เชื่อว่าจะมีการตอบแทนลงโทษจากพระองค์ก็เป็นได้ มิเช่นนั้นพวกเขาจะกล้าฝ่าฝืนกระนั้นหรือ ?
ข้อความของอายะฮ์ดังกล่าว แม้จะมุ่งหมายในหมู่ชาวยิว แต่ก็เป็นบทเรียน อุทาหรณ์แก่คนทั่วไปด้วย ดังนั้นประชาชาติใดก็ตาม ทั้งที่เป็นส่วนบุคคลและส่วนรวมต้องระมัดระวังอย่าให้เป็นเช่นสภาพของชาวยิว เพราะจะทำให้ตกอยู่ในฐานะเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพราะว่าการตอบแทนของอัลลอฮ์นั้นขึ้นอยู่กับผลงาน หาใช่ขึ้นอยู่กับผู้หนึ่งผู้ใดโดยเฉพาะไม่......
มูลนิธิชี้นำสู่สันติสุข