ผลกำไรของรอมาฎอน
ที่ต้องอยู่เคียงข้างมุสลิมไปตลอดชีวิต
นิพล แสงศรี
นักเศรษฐศาสตร์และนักการเงินอิสลามมองว่า เมื่อเราได้ลงทุนหรือการค้าใดก็ตามย่อมมีผลกำไรไม่มากก็น้อย เช่นเดียวกับการลงทุนปฎิบัติตามคำสั่งใช้ในเรื่องการถือศีลอด แม้รอมาฎอนได้ถูกบัญญัติลงมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 1400 ปี แต่รอมาฎอนก็มิได้ผ่านมาและผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ ไร้ผลผลิต และไร้พลังแฝง
รอมาฎอนได้มอบสิ่งดีๆ หลายประการให้แก่พี่น้องมุสลิมทั่วโลกที่มีหัวใจศรัทธาและเชื่อมั่น ไม่ว่าจะเป็นด้านจิตใจ จิตวิญาณ และร่างกาย ทั้งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และสังคมส่วนรวม เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจเผชิญหน้ากับปัญหามากมายที่จะถาทมเข้ามาตลอดชีวิตของความเป็นมุสลิม ซึ่งอาจจะได้รับอิทธิพลมาจากความหลงผิด ความเชื่ออันงมงาย สังคมอันเสื่อมโทรม เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน และการเมืองที่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ตลอดจนกระแสโลกาภิวัฒน์ที่พยายามกลืนกินวัฒนธรรมอื่นก่อนเข้าครอบงำโลกอย่างเต็มรูปแบบ
บทเรียนที่สำคัญได้แก่
1.การเชื่อฟังคำสั่งต่ออัลลอฮฺและการยึดมั่นคำสั่งนบีมุฮัมมัด ต้องมาเป็นอันดับแรก
ซึ่งจะเห็นได้จากการเริ่มต้นถือศีลอดในเดือนรอมาฎอน พร้อมๆกับปฎิบัติตามเงื่อนไขและกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ทั้งๆที่สามารถรวมตัวกันต่อต้านหรือบิดเบือนคำสอน โดยเฉพาะในยุคดิจิตอลและไฮไฟที่เต็มไปด้วยอิสระทางการแสดงความคิดเห็น หรือในประเทศที่มิได้ปกครองด้วยกฎหมายอิสลาม ดังนั้นการเชื่อฟังและน้อมรับมาปฎิบัติอย่างเต็มใจจึงถือเป็นปัจจัยหลักของการเป็นมุสลิมที่นับถือศาสนาอิสลาม
2.การอดทน การอดกลั้นอย่างมีสติ
การซื่อสัตย์ต่อตนเอง การหยับยั้งอารมณ์ คำพูด และการกระทำที่อาจก่อให้เกิดความเดือนร้อนแก่ผู้อื่น สิ่งเหล่านี้สามารถพบได้จากการงดกินงดดื่ม ทั้งที่สามารถกระทำได้ยามอยู่เพียงลำพังคนเดียวไม่มีใครคอยควบคุม จนทำให้เราค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่เรียกว่า ความอดทนและความซื่อสัตย์ต่อตนเอง
โดยความหิวโหยจะทำให้เข้าใจชีวิตที่แท้จริงมากขึ้น ลดการเหลี่อมล้ำทางฐานะ เกียรติทางสังคม และอำนาจจอมปลอมให้น้อยลงจนทำให้ทุกคนอยู่บนมาตรฐานเดียวกันคือ ความเสมอภาคทางสังคม เช่นเดียวกับการหยับยั้งอารมณ์ คำพูด และการกระทำบางประการที่ทำให้คนอื่นเดือนร้อนล้วนบ่งบอกถึงวิถีการดำเนินชีวิตของมุสลิมควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไว้วางใจกันได้ อีกทั้งยังพยายามหลีกเลี่ยงการกระทำอันเป็นบ่อเกิดของความเสื่อมเสียและความขัดแย้งในด้านต่างๆ
3.การใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง มีระบบ มีระเบียบ มีวินัย
ใช้เวลาทุกนาทีอย่างมีคุณค่าและทุกวันอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนเคร่งครัดต่อบัญญัติศาสนาควบคู่กับใช้ชีวิตอย่างปกติหรือปฎิบัติหน้าที่การงานอย่างควบคู่กัน
สิ่งเหล่านี้ล้วนพบได้จากขั้นตอนการถือศีลอดในแต่ละวันตั้งแต่ต้นจนจบ เริ่มจากทานซูฮูร(ทานอาหารก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น) ละหมาดซุบฮิ ละเว้นข้อห้ามต่างๆ พร้อมกับทำงานและดำเนินชีวิตตามปกติอย่างระมัดระวังไปจนถึงเวลาละศีลอด ละหมาดมัฆริบ ละหมาดอิชา ตะร่อเวียฮฺ ตะฮัจยุต และวิเตร ทุกอย่างต้องดำเนินไปอย่างมีระบบระเบียบและเรียงตามลำดับหรือความสำคัญ โดยเฉพาะการปฎิบัติศาสนกิจที่มุ่งหวังโลกหน้าแต่ไม่ตัดขาดจากโลกการดำรงชีพแต่ละวัน
หากประชากรมุสลิมใช้ชีวิตอย่างมีระเบียบและมีวินัยแน่นอนย่อมจะส่งผลในทางที่ดีต่อสังคมและประชาคมโลกอย่างหลีกเลี่ยงมิได้
4.การให้ความสำคัญต่อสุขภาพ
โดยพบได้จากการสนับสนุนให้ถือศีลอดเพื่อสุขภาพดี การเป็นมุอฺมินที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงย่อมดีกว่ามุอฺมินที่อ่อนแอ ตลอดจนการยอมรับในวงการแพทย์ เกี่ยวกับคุณค่าของการถือศีลอดที่สามารถเยียวยาโรคภัยและขจัดความความอ่อนแอทางร่างกายออกไป
5.การใส่ใจในศึกษา เรียนรู้ และค้นคว้า
ซึ่งเห็นได้จากการส่งเสริมให้อ่านอัลกุรอานและศึกษาเนื้อหาตลอดเดือน เนื่องจากอัลกุรอานเป็นที่มาของอัลอิสลามและเป็นคลังของศาสตร์และความรู้แขนงต่างๆ และยังประกอบด้วยบทเรียนทางประวัติศาสตร์อีกมากมายที่มีประโยชน์ต่อสังคมยุคไร้พรมแดน รวมทั้งรวมข้อคิดคำแนะนำดีๆ เพื่อการพัฒนาสังคมและก้าวสู่โลกแห่งอนาคต
6.การเห็นอกเห็นใจต่อกัน เสียสละ ค้ำจุน ลดความเห็นแก่ตัว
ช่วยกันดูแลสังคมรอบข้าง และสามารถเรียนรู้ได้จากการทำเศาะดาเกะฮฺ (ทำทาน) แก่คนยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส และการจ่ายกัฟฟาร่อฮฺ (ค่าปรับ) แก่กลุ่มคนตามที่ศาสนากำหนด ตลอดจนการสนับสนุนให้บริจาคช่วยเหลือสังคม จนทำให้รู้จักคำว่า เสียสละ เกื้อกูล และแบ่งปัน ซึ่งถือเป็นเครื่องมือสร้างคน สร้างสังคมใหม่บนพื้นฐานอิสลามได้ดี
7.การประหยัดและมัถยัสถ์ในการกินอยู่และการใช้จ่าย
ซึ่งสามารถพบได้ตลอด 29-30 วัน เนื่องจากเงินเก็บในกระเป๋าหรือออมกับธนาคาร แต่ไม่สามารถหยิบมาตอบสนองความต้องการของตนเองได้ทุกเวลา ดังนั้นการประหยัด มัถยัสถ์ และไม่ฟุ่มเฟื่อยจึงถือเป็นพลังแฝงด้านเศรษฐกิจที่ถูกสอดแทรกมาโดยตลอดแม้รอมาฏอนจะผ่านไปก็ตาม และเป็นตัวค้ำจุนให้มุสลิมดำเนินชีวิตไปด้วยดีมีความสุขพร้อมกับปฎิบัติตนตามคำสอนของศาสนา
8.การประกอบอิบาดะฮฺอย่างพร้อมเพรียงกัน
แม้จะเริ่มต้นและสิ้นสุดแตกต่างกันก็ตาม แต่ภาพรวมของรอมาฎอนสำหรับโลกมุสลิมกว่า 1600 ล้านคนที่ปรากฎต่อสายตาชาวโลกคือ ความเป็นหนึ่งของโลกมุสลิมแม้จะอยู่ห่างไกลกันคนละขั้วโลก คนละเชื้อชาติ และสีผิว ซึ่งพบได้จากการประกอบอิบาดะฮฺตลอดเดือน ทั้งถือศีลอด ละหมาด เอี๊ยะตกาฟ และอื่นๆ เอกภาพของการประกอบอิบาดะฮฺอย่างเอาจริงเอาจังก่อให้เกิดผลประโยชน์มากมายตามมาต่อโลกมุสลิม
ที่กล่าวมาคือ ผลกำไรบางประการที่ค้นพบจากรอมาฎอนอันประเสริฐที่ฝังรากอยู่ในตัวมุสลิมหลังผ่านสนามการถือศีลอดมาตลอดเดือน ซึ่งถือเป็นตัววัดการเป็นมุสลิมอย่างมีคุณภาพ และหากเรานำผลกำไรดังกล่าวออกมาใช้ต่อยอดในช่วงวันเวลาที่เหลือ แน่นอนย่อมก่อให้เกิดประโยชน์อย่างใหญ่หลวง ทั้งในระดับส่วนตัว ครอบครัว และสังคมทั่วไป และนั้นคือเหตุผลว่า ทำไมผลกำไรดังกล่าวจะต้องอยู่คู่กับความมุสลิมไปตลอดชีวิต !!!