การละหมาดนั้นเป็นฟัรดู
อาจารย์ อัดนาน เชื้อผู้ดี
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
ศรัทธาชนที่รักและเคารพทั้งหลาย ขอเราและท่านทั้งหลาย จงตั้งมั่นอยู่บนความยำเกรงต่อ พระองค์ อัลลอฮ์ ด้วยการประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้ ละเว้นห่างไกลในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม อัลฮัมดุลิ้ลลาห์ ขอซุโกร ต่อพระองค์ อัลลอฮ์ ที่ทรงเมตตาให้เราได้มีชีวิตยืนยาวจนกระทั่งเข้าสู่ช่วงของเดือน รอญับ ศรัทธาชนที่รักและเคารพทั้งหลาย เดือน รอญับ เป็นอีกเดือนหนึ่งที่มีความประเสริฐ เป็นที่ทราบกันดีว่า หลังจากเดือนรอยับ คือเดือนชะบาน และเดือนรอมาฏอน อันประเสริฐ
ศรัทธาชนที่รักและเคารพทั้งหลาย เคยไหมที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ที่มีความสำคัญ เรามีการเตรียมการ เตรียมพร้อม สำหรับเดือนรอมาฏอนอันประเสริฐ ทุกคนทราบดี ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาไม่ถึงสองเดือนแล้วที่จะมาถึง เราจะไม่มีการเตรียมตัวเลยหรือ? ในขณะที่เราจะไปทำฮัจย์ หรือ ทำอุมเราะห์ หรือไปต่างจังหวัดอาทิตย์สองอาทิตย์ เราเตรียมพร้อม เตรียมกระเป๋า เตรียมของกิน เตรียมทรัพย์สินเงินทอง
แต่การที่เราจะเข้าสู่รอมาฏอน เดือนอันประเสริฐ เป็นเดือนที่ อัลกุรอาน ถูกประทานลงมา เป็นเดือนที่มีลัยลาตุ้ลก้อดริ์ เราจะใช้ชีวิตไปวันๆ จนถึงวันที่สำนักจุฬาราชมนตรีประกาศเข้าเดือน รอมาฏอน เราจึงถือศีลอด ไม่ต้องกินอาหารเหมือนคนอื่นๆ หากเราทำอย่างนั้น เดือน รอมาฏอนที่จะมาถึง คงเป็นเพียงเดือนที่เราอดอาหาร ไม่ดื่มเครื่องดื่ม ในเวลาที่กำหนด จิตใจของเราอาจไม่เห็นคุณค่าของรอมาฏอน เหมือนอย่างที่เคยพูดกันอยู่เสมอๆ ว่า ช่วงแรกของการละหมาด ตารอเวียห์ มีผู้คนมาละหมาดกันจำนวนมาก แต่สักพักไม่กี่คืน จำนวนก็ร่อยหรอลงไป นั่นเป็นเพราะอะไร? ก็เป็นเพราะพี่น้องส่วนใหญ่ไม่มีการเตรียมตัวที่ดี ไม่มีการเตรียมใจที่จะกอบโกย ผลานิสงค์ต่างๆของรอมฏอน จึงเป็นโอกาสอันดีที่วันนี้ เราได้เข้าสู่เดือนรอญับ ไม่ถึงสองเดือนแล้วที่เดือนรอมาฏอนจะมาถึง
พี่น้องที่เคารพรัก หากเราจะเปรียบเทียบว่า เดือนรอยับเป็นเดือนแห่งการชำระล้างมลทินร่างกายภายนอก เดือนชะบานเป็นเดือนแห่งการชำระล้างมลทินภายในหัวใจ เดือนรอมาฎอนเป็นเดือนแห่งการชำระล้างมลทินจิตวิญญาณของเรา มันจะเป็นไปได้อย่างไร หากจิตวิญญาณจะถูกชำระล้างให้สะอาด ในเมื่อร่างกายภายนอกยังดูสกปรก เปรียบเทียบเหมือนกับคนที่ไม่ได้อาบน้ำ เสื้อผ้ายังดูสกปรก จะมาใส่น้ำหอมที่มีราคาแพงลิบลิ่ว ผลที่ออกมา เขาจะมีกลิ่นตัวที่แปลกประหลาด
ศรัทธาชนที่รักและเคารพทั้งหลาย ในช่วงของเดือนรอญับ เป็นที่ทราบกันดีว่ามีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น เมื่อครั้งท่านนบีมุฮัมมัด ยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้รับการเชื้อเชิญจากพระองค์อัลลอฮ์ ให้ขึ้นไปพบพระองค์ เพื่อรับคำบัญชาให้ละหมาด ดังนั้นการละหมาดจึงเป็นของขวัญอันล้ำค่าจากพระองค์อัลลอฮ์ ที่ประทานแด่ท่านนบี เพื่อนำมาเผยแพร่ต่อบรรดาอุมมะห์ของพระองศ์ ซึ่งได้แก่พวกเราท่านทั้งหลาย
จะเห็นได้ว่า การละหมาดนั้นเป็นฟัรดู เป็นอิบาดะห์เดียวที่พระองค์อัลลอฮ์ ประทานแด่ท่านนบี โดยไม่ผ่านสื่อจากญิบรีล จึงชี้ให้เห็นถึงความสำคัญ การถือศีลอดก็ดี การออกซากาตก็ดี การบำเพ็ญฮัจย์หรืออิบาดะห์อื่นๆล้วนแล้วผ่านสื่อจากญิบรีลนำมาบอกท่านนบีทั้งสิ้น การละหมาดนั้นเป็นฟัรดู เป็นอิบาดะห์เดียวที่พระองค์อัลลอฮ์ ประทานแด่ท่านนบีโดยไม่ผ่านสื่อ อยากให้เราท่านทั้งหลายได้ตรวจสอบการละหมาดของเราในวันนี้ ขอให้ตรวจสอบดูว่าของขวัญอันล้ำค่าที่พระองค์อัลลอฮ์ ประทานแด่ท่านนบี นั้น เราได้ทำปู้ยี่ปู้ยำ ทำกันอย่างละทิ้ง ทำกันอย่างละเลย กับของขวัญอันล้ำค่าที่พระองค์อัลลอฮ์ ประทานแด่ท่านนบี ในค่ำคืนอิซรออฺและเมียอ์รอจ อย่างไร
สิ่งง่ายๆ ที่ทำการตรวจสอบว่า วันนี้การละหมาดนั้นเป็นสิ่งที่มีค่าเหมือนกับที่พระองค์ ประทานแด่ท่านนบี หรือไม่ ดูที่พฤติกรรมการปฏิบัติตัวของเราในวันนี้ ถ้าวันนี้เราละหมาด ทำบ้าง ทิ้งบ้าง วันนี้เราละหมาดก็จริง ละหมาดครบ ร่างกายเท่านั้นที่ละหมาด วันนี้เราได้ทำในสิ่งที่เป็นข้อห้ามของอัลลอฮ์ ในบทบัญญัติต่างๆ ไม่ว่าเรื่องสุรายาเสพติด มีการเสพย์ มีการขาย มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเรื่องการพนัน การทำซินา หรือสิ่งต่างๆ ที่เป็นบทบัญญัติห้าม แม้ว่าการละหมาด จะดูว่าเป็นการละหมาด แต่ ณ ที่อัลลอฮ์ มันไม่ใช่การละหมาด มันเป็นเพียงการออกกำลังกายของคนๆหนึ่งในวันหนึ่งคืนหนึ่งจำนวนห้าครั้ง เพราะถ้าเป็นการละหมาดที่แท้จริง การละหมาดนั้นจะเป็นสิ่งยับยั้งความชั่วในตัวเขาได้ จะต้องเป็นสิ่งที่ทำให้ห่างไกลยาเสพติด สิ่งที่ชั่วช้าสามาลย์ทั้งปวง คือสิ่งที่สามารถเป็นกระจกส่องตัวของเราได้
ณ วันนี้เราอยู่ในสถานะใดในความเป็นบ่าวของพระองค์อัลลอฮ์ บ่าวที่ดีไม่ใช่ว่าทำทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ใช้ แล้วก็ทำทุกอย่างที่พระองค์ห้าม บ่าวที่ดีของอัลลอฮ์ จริงๆแล้วคือทำทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ใช้ แล้วก็ละเว้นทุกอย่างที่พระองค์ห้ามต่างหาก ดังนั้นวันนี้จึงขอให้พวกเราตรวจสอบเรื่องการฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮ์ ไม่ว่าสิ่งนั้นเป็นฮักกุ้ลลอห์(สิทธิของอัลลอฮ์) หรือฮักกุ้ลอาดัม(สิทธิของมนุษย์) เราเป็นบุคคลหนึ่งหรือไม่ที่ชีวิตของเราวันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน พรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ เดือนหน้าต้องดีกว่าเดือนนี้ ปีหน้าต้องดีกว่าปีนี้
ท่านพี่น้องที่เคารพรัก หลายๆสิ่งหลายๆอย่าง ได้มีการพัฒนาไปอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความสำคัญในเรื่องภายนอก ณ วันนี้ เวลานี้ วินาทีนี้ ชีวิตของเราใกล้กุโบร์เข้าไปทุกทีแล้ว อยากให้เราท่านทั้งหลายได้ตรวจสอบการละหมาดซึ่งเป็นฟัรดูสำคัญที่เราท่านทั้งหลายจะต้องให้เกิดความสมบูรณ์ การละหมาดนั้นจะเป็นสิ่งแรกที่มีการสอบสวนในวันกิยามะห์
ท่านพี่น้องที่เคารพรัก ท่านหะซันบาซอรี่ ได้กล่าวว่า
إذا لم تنهك صلاتك عن الفحشاء فلست بمصل وردت صلاتك
يوم القيامة على وجهك كالخرقة الثخينة المتوسخة
“เมื่อใดก็ตามที่การละหมาดของท่านนั้นไม่ได้ยับยั้งท่านจากการทำชั่ว ท่านนั้นไม่ใช่ผู้ที่ละหมาด
และการละหมาดของท่านนั้นจะถูกปฏิเสธในวันกิยามะห์ จะถูกขว้าง ถูกโยนในวันกิยามะห์บนหน้าของท่าน”
นั่นหมายถึงว่าการละหมาดในขณะที่เราทำความชั่ว ควบคู่กัน การละหมาดนั้นจะถูกขว้างใส่บนใบหน้าเรา เหมือนกับผ้าขี้ริ้วที่หยาบและสกปรก วันนี้หากมีผู้ใดขว้างผ้าขี้ริ้วที่หยาบและสกปรกใส่หน้าเรา เราจะรู้สึกอย่างไร จงระวังให้ดีในวันกิยามะห์ เราจะถูกผ้าขี้ริ้วที่เป็นการละหมาดของเราถูกขว้างใส่บนใบหน้า เราคงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปต่อกรกับพระองค์อัลลอฮ์ อย่างแน่นอน
ในค่ำคืนอิซรออฺและเมียะอ์รอจ ท่านนบี ได้เห็น ชายหญิงกลุ่มหนึ่ง นำหินมาทุบศีรษะของตนเอง จนกระทั่งมันสมองไหลออกมา
ท่านนบีสงสัยจึงถามท่านญิบรีลว่า พวกเขามีพฤติกรรมอย่างไรในขณะที่เขามีชีวิตบนโลกดุนยา
ท่านญิบรีลตอบว่า บุคคลเหล่านั้น คืออุมมะห์ของท่านที่ทิ้งละหมาด
ท่านพี่น้องที่เคารพรัก วันนี้ใครที่ชอบทิ้งละหมาด ลองเอาหินมาตีหัวดู จนกระทั่งมันสมองของเขาไหลออกมา มันจะเจ็บปวดเพียงใด หากไม่ต้องการมีสภาพอย่างนั้น ขอให้เราท่านทั้งหลาย จงตรวจสอบการละหมาดว่าวันนี้เราทำครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้ง กาย วาจา ใจ ครบถ้วนตามหลักวิชาฟิกฮ์ ครบชารัต ครบรุ่ก่น ระมัดระวังในเรื่องที่จะทำให้เสียละหมาดในทุกอิริยาบถ เพื่อที่เราท่านจะได้ไม่เป็นกลุ่มชนที่นำหินมาทุบศีรษะของตนเองตามที่ท่านนบีได้เห็นมา
ครั้งหนึ่งท่านนบีมูซาได้ถูกขอร้องจากหญิงชาวยาฮูดีให้ช่วยทำการขออภัยโทษจากอัลลอฮ์
ท่านนบีมูซาถามนางว่า มีความผิดใดหรือ ?
หญิงนั้นตอบท่านนบี มูซาว่า ฉันได้ทำซินา ฉันได้ฆ่าลูกของฉัน
จากคำพูดของหญิงผู้นี้ ท่านนบีมูซาได้ขับไล่หญิงผู้นี้ออกไปจากหมู่บ้าน เพราะพฤติกรรมเยี่ยงนี้เกรงว่าอัลลอฮ์ จะลงโทษเธอและจะทำให้ผู้อื่นได้รับบาลาร่วมด้วย นางได้เดินออกจากหมู่บ้านนี้ไปด้วยความเสียใจ ทั้งที่นางตั้งใจที่จะสารภาพผิดที่ผ่านมา
อัลลอฮ์ จึงได้ส่งท่านญิบรีลมาพบท่านนบีมูซา ทำไมถึงต้องขับไสไล่ส่งนางออกจากหมู่บ้าน ทั้งๆที่นางต้องการที่จะสารภาพผิดแล้ว
ท่านนบีมูซาตอบว่า ความชั่วของนางนั้นมันเกินที่จะให้อภัยให้มิใช่หรือ
ท่านญิบรีล บอกว่าไม่ใช่ ความผิดของนางนั้นเป็นเพียงเล็กน้อย หากจะเปรียบเทียบกับเราะห์มัตของอัลลอฮ์ นางได้ทำความชั่วยังน้อยกว่าคนบางคนในกลุ่มชนของเจ้าเสียอีก โอ้ท่านนบีมูซา
ซึ่งท่านนบีมูซามีความสงสัยว่ายังมีใครอีกหรือที่ชั่วกว่านางผู้นี้ ท่านญิบรีลตอบว่า พวกที่ทิ้งละหมาดแม้เพียงวักตูเดียว
พี่น้องที่รักทั้งหลาย ท่านญิบรีลให้คำตอบแก่ท่านนบีมูซา ว่า คนที่ทิ้งละหมาดแม้เพียงวักตูเดียว เลวกว่าหญิงผู้นี้ที่ทำซินา และได้ฆ่าลูกของตนเองเสียอีกด้วยซ้ำ หากเรานำคำกล่าวสั่งสอนของท่านญิบรี้ลมาพิจารณากับสังคมบ้านเรา คนในหมู่บ้านเราจะเหลือสักกี่คน วัยรุ่นจะเหลือสักกี่คนในมู่เก่มนี้ ดังนั้นสิ่งที่ผ่านมาก็ขอให้ผ่านไป ขอให้วันนี้เรามาเริ่มต้นใหม่ ขอเตาบัตต่ออัลลอฮ์ และให้ความสำคัญกับของขวัญอันล้ำค่าที่อัลลอฮ์ ประทานกับท่านนบีมุฮัมมัด. ในค่ำคืนอิซรออฺและเมียะอ์รอจ นั่นก็คือเรื่องของการละหมาด
ขอบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองได้โปรดตักเตือน และทบทวนบทบาทการทำหน้าที่พ่อแม่ ของตนเอง ว่า วันนี้เราเลี้ยงลูกด้วยอาหารให้ลงกระเพาะเพียงอย่างเดียวใช่หรือไม่ เราไม่เคยเลยที่จะหยิบยื่นอาหารสมองและจิตวิญญาณให้แก่พวกเขา มันจึงไม่แปลกที่เยาวชนบางคน จึงโตแต่ตัว สมองและจิตวิญญาณหาโตสมวัยไม่
ส่วนหนึ่งขอให้พ่อแม่พี่น้องพิจารณาบทบาทการทำหน้าที่ และอย่าคิดว่าได้ส่งเสียให้ลูกได้เข้าโรงเรียนเสียค่าเทอมแล้ว และหมดหน้าที่ของตัวเองแล้ว มันไม่ใช่ ! (อมานะห์)หน้าที่ ที่แท้จริงเป็นของท่าน คณะครูผู้บริหารเป็นเพียงตัวช่วยเท่านั้น มาช่วยเหลือกันเถิด ทุกๆสถาบันการศึกษาพร้อมที่จะช่วยเหลือลูกหลานของท่าน ขอท่านทั้งหลายอย่าได้ทิ้งลูกหลานของท่าน มาช่วยกันเถิด
คุตบะห์วันศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐ