จงระวังอันตรายในบั้นปลายชีวิต !

เขียนโดย : อับดุรเราะฮฺมาน บิน อับดิลลาฮฺ อัลละอฺบูน

ท่านอุษมาน บินอัฟฟาน ¹ เป็นบุคคลที่รุดหน้าก่อนใครในเรื่องการทำความดี ท่านกล่าวว่า

“ท่านรอซูล ได้กล่าวว่า…ผู้ใดขุดบ่อน้ำรูมะฮฺ เขาจะได้สวนสวรรค์ และท่านอุษมานจึงได้ขุดมัน

ท่านรอซูล กล่าวอีกว่า ผู้ใดให้เสบียงแก่กองทัพแห่งความทุกข์ยาก (ซึ่งส่งไปรบที่ตะบูก) เขาจะได้สวนสวรรค์” และท่านอุษมานก็ได้จัดการให้เสบียงกองทัพ

(บุคอรี บทอัลวะศอยา, ฮะดีษเลขที่ 2778)

ขณะเดียวกัน ท่านอุษมานเป็นบุคคลที่มีความสำรวมและยำเกรงอยู่เสมอ เช่นครั้งหนึ่ง ท่านได้กล่าวว่า

“แม้ว่าตัวฉันนี้กำลังยืนอยู่ตรงกลางระหว่างสวรรค์และนรก โดยที่ไม่ทราบว่า ตัวเองนั้นจะถูกนำไปทางใด

แน่นอน ฉันขอเลือกเป็นเถ้าถ่านเสียก่อน ดีกว่า ที่จะให้ฉันทราบว่า ฉันนี้ต้องเป็นไปยังทางใด”

       นี่คือ ตัวอย่างของผู้มีคุณธรรมทั้งหลาย ผู้ที่ไม่ประมาทหรือชะล่าใจต่อการงานของตัวเองที่กระทำไป ถึงแม้มันจะดีสักปานใดก็ตาม แต่ทว่า จิตใจของเขายังคงผูกพันอยู่กับอัลลอฮฺ พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาระดับความศรัทธา (อีหม่าน) ของตน

          ไม่มีเหตุการณ์ใดจะร้ายแรงเท่า เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลแห่งความพยายามที่กระทำมาตลอดชีวิต แต่เขากลับไม่พบสิ่งใดเลย นอกจากความว่างเปล่า บ่าวทุกคนจึงต้องขอความช่วยเหลือและคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ ให้พ้นจากสภาพที่อาจพลิกผันไปสู่ความเลวร้ายในบั้นปลายของชีวิต

ดังคำเตือนที่ท่านรอซูล  กล่าวไว้ว่า

“แท้จริง คนหนึ่งในหมู่พวกท่านได้เพียรกระทำการงาน ของชาวสวรรค์ ตราบจนกระทั่งระหว่างเขากับสวรรค์นนั้นใกล้กันแค่ศอกเดียว

 แต่การจดบันทึกเกี่ยวกับตัวเขานั้นได้ถูกกำหนดไว้ก่อนแล้ว (เมื่อใกล้สิ้นชีวิต) เขาจึงทำการงาน ของชาวนรก ในที่สุด เขาจึงตกนรก

และแท้จริง คนหนึ่งในหมู่พวกท่านได้กระทำการงาน ของชาวนรก ตราบจนกระทั่งระหว่างเขากับนรกนั้นใกล้กันแค่ศอกเดียว

แต่การจดบันทึกเกี่ยวกับตัวเขานั้นได้ถูกกำหนดไว้ก่อนแล้ว (เมื่อใกล้จบชีวิตว่า เขาจะเป็นชาวสวรรค์)

ดังนั้น เขาจึงกลับตัวมากระทำการงาน ของชาวสวรรค์ ในที่สุดเขาจึงได้เข้าสวรรค์”

(ฮะดีษมุตตะฟากุน อะลัยฮฺ, ดู อัลลุอฺลอฺ มัรญาณ)

ท่านอับดรฺเราะฮฺมาน บินมะฮฺดี เล่าว่า

“ได้พักค้างคืนอยู่ที่บ้านของฉัน (และเราได้พูดคุยกัน) ดังนั้น จนกระทั่ง เมื่อเขารู้สึกว่า เรื่องราวนั้นหนักหนามากสำหรับเขา เขาก็ร้องไห้”

ฉันถามเขาด้วยความสงสัยว่า “โอ้ อับดุลลอฮฺ ท่านทำให้ฉันรู้สึกว่า ท่านยังกับคนมีบาปหนากระนั้นแหละ?”

เขาหยิบก้อนกรวดก้อนหนึ่งจากพื้นดิน แล้วกล่าวขึ้นว่า “ขอสาบานว่า บาปของฉันนะ มันเรื่องเล็กเหลือเกินสำหรับฉัน กว่าสิ่งนี้ (ก้อนกรวด) เสียอีก

แต่สิ่งที่ฉันกลัวนัก ก็คือ กลัวว่าอีหม่านของฉันจะถูกถอดถอนออกไปก่อนวินาทีที่วิญญาณของฉันจะออกจากร่าง…”

          เพราะใครเล่าสามารถรับประกันได้ว่า บาปต่างๆ นั้นถูกอภัยหมดแล้ว หรือการกระทำความดีของเขานั้นถูกรับจากอัลลอฮฺ แล้ว?  และใครเล่าสามารถรับประกันได้ว่า ตัวเองนั้นจะตายบนการศรัทธา (อีหม่าน) อยู่ในสภาพของการเป็นมุสลิมที่สมบูรณ์ โดยไม่กลัวว่าความเลวร้ายต่างๆ อาจเกิดขึ้นได้

ท่านบิลาล บินซะอฺด เคยกล่าวเทศนาว่า

“โอ้ปวงบ่าวของพระผู้ทรงเมตตา…เคยมีผู้ใดมาบอกพวกท่านบ้างไหมว่า การกระทำของพวกท่าน สิ่งใดเป็นที่ถูกยอมรับ (จากอัลลอฮฺ) บ้าง?

หรือความผิดใดของพวกท่านบ้างที่ถูกอภัยแล้ว ? ”

ที่มา : หนังสือเมื่อผู้ศรัทธาร้องไห้

แปลโดย : นัศรุลลอฮฺ ต็อยยิบ

1 อุษมาน อิบนุอัฟฟาน เคาะลีฟะฮฺท่านที่ 3 ของอิสลาม หลังท่านอุมัรฺ ท่านเป็นคนแรกในตระกูลอุมัยยะฮฺที่รรับนับถือศาสนาอิสลาม เป็นสาวกอาวุโสท่านหนึ่งที่บันทึกถ้อยคำวะฮฺยู ก่อนเป็นคอลีฟะฮฺ ท่านเป็นพ่อค้าที่ร่ำรวยและบริจาคทานอยู่เสมอ ในสมัยของท่าน อาณาจักรอิสลามถูกขยายอย่างกว้างขวางที่สุดไปถึงแอฟริกาและเอเชียน้อย ท่านสิ้นชีวิตในปี ฮ.ศ. 35