สัญญาณที่เกิดขึ้น
อาจารย์ ฮาซัน เพชรทองคำ
بسم الله الرحمن الرحيم
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลายจงยำเกรงอัลลอฮ์อย่างจริงจังเพราะการยำเกรงต่ออัลลอฮ์ นั้นเป็นเสบียงที่ดียิ่งสำหรับพวกท่านทั้งในโลกดุนยาและอาคิเราะห์ ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลายจงยำเกรงต่ออัลลอฮ์ และท่านทั้งหลายจงอย่าได้ตายนอกเสียจากว่าจะเป็นมุสลิมที่สมบูรณ์
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลายครับ เมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาเราทุกท่านคงจะได้ยินได้เห็นข่าวเรื่องของแผ่นดินไหวทางตอนใต้ของประเทศไทย ซึ่งในตอนแรกๆ มีแรงสั่นสะเทือนสูงถึง 8 ริกเตอร์ และยังมีการแจ้งเตือนภัยการเกิดคลื่นสึนามิด้วย แต่ด้วยความเมตตาของอัลลอฮ์ จึงทำให้พวกเราปลอดภัยจากคลื่นสึนามิ แม้ว่าหลังจากนั้นจะเกิดการสั่นสะเทือนหรือที่เรียกว่าอาฟเตอร์ช๊อคอีกหลายครั้งหลายหนก็ตาม แต่อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะไม่เกิดคลื่นสึนามิแต่การสั่นสะเทือนแต่ละครั้งก็สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนที่อยู่ในละแวกนั้นและละแวกใกล้เคียงเป็นอย่างมาก เพราะการสั่นสะเทือนแต่ละครั้งที่เกิดขึ้น ก็สร้างความเสียหายแก่สิ่งปลูกสร้าง ที่อยู่อาศัย หากมีการสั่นสะเทือนบ่อยครั้งก็อาจเกิดโอกาสให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาครับหลังจากข่าวการเกิดแผ่นดินไหวไม่นาน ผมมีโอกาสได้ฟังรายการวิทยุรายการหนึ่ง ซึ่งนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องของการสั่นไหวของแผ่นดินทั่วทั้งโลก สำหรับผู้ที่ไม่เคยรับรู้ข้อมูลดังกล่าวมาก่อนก็คงตกใจในข้อมูลที่ได้รับรู้เช่นเดียวกับผม ในรายการได้นำเสนอการรายงานผลการสั่นไหวของแผ่นดินทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเป็นสถิติการเกิดแผ่นดินไหวจากการวัดและเก็บข้อมูลจริงของกรมอุตุโลกว่า จริงๆแล้วในแต่ละวันแผ่นเปลือกโลกจะมีการสั่นไหวอยู่ตลอดเวลาในแต่ละประเทศแต่ละทวีป มากบ้างน้อยบ้าง และการสั่นแต่ละแห่งจะมีระยะเวลาห่างกันประมาณ ครึ่งชั่วโมง นั่นหมายความว่าในโลกของเรานั้นมีการสั่นไหวอยู่ตลอดเวลา บางครั้งมันเคลื่อนไหวเล็กน้อยหรืออยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดินหรือทะเลจนเราไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนแต่บางครั้งก็รุนแรงจนเราสามารถรับรู้ได้เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านเราอย่างที่ผ่าน
เมื่อ 2 วันก่อนผมได้ลองเข้าเว็ปไซด์ของกรมอุตุนิยมวิทยาของไทย ก็ได้เห็นรายงานการเกิดแผ่นดินไหวในบ้านเราและประเทศใกล้เคียง ซึ่งก็ปรากฏว่าจริงๆแล้วประเทศในแถบเอเชียก็มีการเกิดแผ่นดินไหวทุกวัน แต่มากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราคงไม่มีทางรู้เลยว่าพื้นดินที่เรากำลังอาศัยอยู่นี้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยแค่ไหน แต่ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยก็ทำให้เราได้รู้ แต่ที่จริงแล้วข่าวการเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งคงไม่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับบรรดามุสลิมและมุมิน เพราะพวกเราได้ทราบมาก่อนหน้านี้กว่า 1400 ปีแล้ว จากท่านนบีมูฮำหมัด แล้วว่าจะมีการสั่นของแผ่นดินมากขึ้นบ่อยครั้งขึ้น ดังที่ท่านที่ได้กล่าวไว้ในฮะดีษว่า
لا تقوم الساعة حتى تكثر الزلازل
“วันสิ้นโลกจะยังไม่เกิดขึ้น จนกว่าจะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง”
บันทึกโดยท่านบุคอรีย์
ดังนั้นการเกิดแผ่นดินไหวที่เกิดมากขึ้นและบ่อยครั้งขึ้นนั้นก็มิใช่อื่นใดนอกจากว่าเป็นหนึ่งในสัญญานวันกิยามะห์ที่อัลลอฮ์ได้ส่งมา เพื่อเป็นการเตือนให้พวกเราได้ทราบว่าวันกิยามะห์กำลังจะมาถึง ดังมีรายงานจากท่านหญิงอาอีชะห์ แจ้งว่า ท่านร่อซูล ได้กล่าวว่า
يكون في آخر هذه الأمة خسف ، و مسخ ، و قذف ، قيل : يا رسول الله أنهلك و فينا الصالحون ؟ قال : نعم ، إذا ظهر الخبث
“ยุคสุดท้ายของประชาชาตินี้ จะเกิดธรณีสูบ แผ่นดินถล่ม และแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง”
ท่านหญิงอาอีชะห์ กล่าวว่า : ฉันถามท่านร่อซูลว่า :โอ้ท่านร่อซูล! พวกเราจะล่มจมกันทั้งๆ ที่มีบรรดาคนดีๆ (ซอและฮฺ) อยู่ด้วยกระนั้นหรือ?
ท่านนบี ตอบว่า : ใช่แล้ว เมื่อความชั่วปรากฏขึ้นเต็มไปหมด”
บันทึกโดยท่านติรมีซีย์
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลายครับ การเกิดแผ่นดินถล่ม และแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในปัจจุบันเป็นแค่สัญญาณที่มาบ่งบอกว่าใกล้วันกิยามะห์เข้ามาทุกทีแล้ว แต่ทว่าวันกิยามะห์จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่? วันไหน? เดือนอะไร? ปีอะไร? พวกเราคงไม่สามารถที่จะรู้ได้ เพราะแม้กระทั่งท่านนบีมูฮำหมัด เองก็ไม่อาจทราบถึงวันที่จะเกิดวันกิยามะห์ขึ้น เพราะการเกิดขึ้นของวันกิยามะห์นั้นจะไม่มีผู้ใดสามารถล่วงรู้ได้นอกจากอัลลอฮ์เท่านั้น ดังที่พระองค์ได้ตรัสในอัล-กุรอานซูเราะห์อัล-อะหฺซาบ อายะห์ที่ 63 ว่า
يَسْأَلُكَ النَّاسُ عَنِ السَّاعَةِ قُلْ إِنَّمَا عِلْمُهَا عِنْدَ اللَّهِ وَمَا يُدْرِيكَ لَعَلَّ السَّاعَةَ تَكُونُ قَرِيبًا
“มีผู้คนถามเจ้าเกี่ยวกับยามอวสาน จงกล่าวเถิด (มูฮำหมัด) แท้จริงความรู้ในเรื่องนั้น อยู่ ณ ที่อัลลอฮ์
และอะไรเล่าจะทำให้เจ้ารู้ได้ บางทียามอวสานนั้นอยู่ใกล้นี่เอง”
ท่านนบี ได้ชี้แจงให้ราได้ทราบถึงสัญญาณ ที่จะมาบ่งบอกว่าวันกิยามะห์นั้นใกล้เข้ามาถึงแล้ว โดยสัญญาณดังกล่าวจะแบ่งออกเป็นสองประเภทด้วยกัน คือ สัญญาณเล็กและสัญญาณใหญ่
สัญญาณเล็กของวันกิยามะห์
สัญญาณเล็กของวันกิยามะห์แบ่งออกเป็นอีกสามประการ
1 สัญญาณที่ได้ปรากฏขึ้นและสิ้นสุด เช่น การบังเกิดของท่านนบีมูฮำหมัด ตลอดจนการสิ้นชีวิตของท่าน , การพิชิตบัยตุลมักดิส(เมืองเยรูซาเล็ม ได้ถูกพิชิตในยุคของท่านอุมัร บิน คอตตอบ ในปีที่ 16 ของฮิจญเราะฮ์ศักราช)
จากท่านเอาฟ์ บินมาลิก รอฎิยัลลอฮุอันฮุมา ได้เล่าว่า ฉันได้ยินท่านรอซูล กล่าวว่า
اعْدُدْ سِتًّا بَيْنَ يَدَيْ السَّاعَةِ مَوْتِي ثُمَّ فَتْحُ بَيْتِ الْمَقْدِسِ
“ท่านจงนับสัญญาณหกประการ ก่อนการบังเกิดขึ้นของวันกิยามะห์ คือ การสิ้นชีวิตของฉัน จากนั้น การพิชิตบัยตุลมักดิส”
บันทึกโดยท่านบุคอรีย์
2 สัญญาณที่ได้ปรากฏขึ้นและยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น เกิดความวุ่นวายระส่ำระสาย (ฟิตนะฮฺ) มีการแอบอ้างตัวว่าเป็นนบี, ความฟุ้งเฟ้อจะแพร่หลาย, ความรู้ด้านศาสนาจะเลือนหายไป ความโง่เขลาจะมาแทนที่, จะเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง, ความชั่วช้าจะแพร่หลาย, การตัดญาติขาดมิตรจะมีมาก, มีเพื่อนบ้านที่ไม่ดี ดังกล่าวนี้คือสิ่งที่พวกเรากำลังประสบกันอยู่ซึ่งยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ และมากขึ้นตามลำดับด้วย ท่านร่อซู้ล ได้กล่าวว่า
إِنَّ مِنْ أَشرَاطِ السَّاعةِ أَنْ يُرفَعَ الْعِلمُ وَيَطْهَرَ الْجَهْلُ وَيَفْشُوَ الزِّنَا وَيُشْرَبَ الْخَمْرُ وَيَذْهَبَ الرِّجَالُ وتَبقَى النساءُحَتىَّ يَكونَ لِخَمْسِيْنَ امْرَأةً قَيِّمٌ وَاحدٌ
“ส่วนหนึ่งของเครื่องหมายวันกิยามะห์คือ วิชาความรู้ จะถูกยกออกไป, ความความโง่เขลาจะปรากฏ,
ซินาจะแพร่หลาย, เหล้าจะถูกดื่มกิน,
ผู้ชายจะจากไปเหลือแต่ผู้หญิง ถึงขนาดที่มีผู้หญิงห้าสิบคนต่อผู้ชายที่จะดูแลหนึ่งคน”
บันทึกโดยท่านมุสลิม
มีรายงานจากท่านอบีฮุรอยรอฮ์ว่า ท่านร่อซู้ล ได้กล่าวว่า
لا تقوم الساعة حتى يقبض العلم وتكثر الزلازل ويتقارب الزمان وتظهر الفتن ويكثر الهرج وهو القتل القتل حتى يكثر فيكم المال فيفيض
“วันกิยามะห์จะไม่เกิดขึ้น จนกว่าความรู้จะถูกถอดถอนออกไป, แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง, วันเวลานั้นจะเร็วขึ้น,
ความวุ่นวายจะแผ่กระจาย, การฆ่ากันจะมีให้เห็นมากขึ้น, และทรัพย์สินในหมู่พวกท่านจะเพิ่มค่ามากขึ้น”
บันทึกโดยท่านบุคอรีย์
3 สัญญาณที่ยังไม่ปรากฏ แต่จะปรากฏขึ้นอย่างแน่นอน ดังที่ท่านนบี ได้บอกกล่าวไว้ เช่น แม่น้ำฟุรอต (แม่น้ำยูเฟรติสในอิรัก) จะแห้ง ภูเขาทองคำจะโผล่ออกมา จะเกิดสงครามกับชาวเติร์ก จะเกิดสงครามระหว่างชาวยิวกับมุสลิม แต่มุสลิมเป็นฝ่ายมีชัย อิหมามมะฮฺดีย์จะปรากฏตัว และเมื่อนั้นแหละคือวาระสุดท้ายของโลก
สำหรับ 2 ประการแรกนั้น จะเป็นสัญญาณเล็กๆ ส่วนประการที่ 3 นั้น ครอบคลุมทั้งสัญญาณเล็กและสัญญาณใหญ่
สัญญาณใหญ่ของวันกิยามะห์
จากท่านฮุซัยฟะห์ บิน อะซีด อัล-ฆิฟารีย์ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า ท่านนบี ได้เข้ามายังพวกเราในขณะที่พวกเรากำลังคุยกันอยู่
ท่านนบี ถามว่า “พวกท่านกำลังพูดคุยเรื่องอะไรอยู่?”
พวกเราตอบว่า “กำลังพูดถึงเรื่องวันกิยามะห์”
ท่านนบี กล่าวว่า “วันกิยามะห์จะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าพวกท่านจะได้เห็นสัญญาณก่อนหน้านั้นสิบประการ
โดยท่านนบีกล่าวถึง ควันออกจากพื้นดิน การปรากฏตัวของดัจญาล จะมีสัตว์ (พูดกับมนุษย์) ดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตก ท่านนบีอีซา อะลัยฮิสสลาม จะลงมาจากฟ้า ยะอ์ญูจญ์และมะอ์ญูจญ์จะปรากฏตัว จะมีเหตุการณ์ธรณีสูบสามแห่ง เกิดทางทิศตะวันออก เกิดทางทิศตะวันตก และเกิดบริเวณคาบสมุทรอาหรับ และประการสุดท้ายจะมีไฟพุ่งออกมาจากประเทศยะมัน(เยเมน)ไล่ต้อนมวลมนุษย์ให้ไปที่แหล่งรวม (มะห์ชัร)ของพวกเขา”
บันทึกโดยท่านมุสลิม
จากท่านอบีฮุรอยรอฮ์ ร่อฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าจากท่านรอซูล ว่า
بَادِرُوا بِالْأَعْمَالِ سِتًّاطُلُوعَ الشَّمْسِ مِنْ مَغْرِبِهَا ، أَو الدُّخَانَ ، أَوِ الدَّجَّالَ ، أَوِ الدَّابَّةَ ، أَوْ خَاصَّةَ أَحَدِكُمْ أَوْأَمْرَ الْعَامَّة
“พวกท่านจงรีบเร่งทำอะมัลต่างๆ ก่อนที่หกประการนี้จะเกิดขึ้น คือ การที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตก
หรือควัน หรือการออกมาของดัจญาล หรือด๊าบบะฮฺ (สัตว์พูดกับมนุษย์ได้)
หรือสิ่งที่จะเกิดกับตัวท่านเป็นการเฉพาะ (คือความตาย) หรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับผู้คนทั่วไป(คือกิยามะฮฺ)”
บันทึกโดยท่านมุสลิม
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลายครับ พวกเราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า เรากำลังอยู่ในยุคสุดท้ายของโลกดุนยานี้แล้ว นั่นก็หมายความว่าวันกิยามะห์หรือวันแห่งการสอบสวนกำลังเดินทางเข้ามาใกล้พวกเราทุกทีทุกขณะ แต่ในขณะเดียวกันพวกเราส่วนใหญ่ยังคงวุ่นวายกับการใช้ชีวิตที่ไร้จุดหมาย หมกมุ่นในการแสวงหาความสุขบนโลกดุนยาเพียงอย่างเดียว และยังเพิกเฉยไม่สนใจที่จะแสวงหาทางนำเพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์
ดังนั้นจำเป็นสำหรับพวกเราทั้งหลายที่จะต้องหมั่นตรวจสอบตัวของเราเองให้อยู่ในคำสอนของพระองค์ เพื่อเป็นการเตือนสติเราว่า เรามีความพร้อมหรือเราได้เตรียมเสบียงไว้พร้อมหรือยัง? สำหรับวันแห่งการสอบสวน หรือวันแห่งการกลับไปยังพระองค์ก่อนที่วันกิยามะห์จะมาถึง ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์นั้นเป็นสิ่งที่เราไม่มีวันรู้ล่วงหน้าได้เลย หากเรามีเสบียงแห่งความดีคือการเชื่อฟังต่ออัลลอฮ์ ตุนอยุ่ในมือของเราแล้ว คงไม่มีอะไรที่จะมาขัดขวางเราให้เรานั้นไม่ได้รับการตอบแทนที่ดีงามจากพระองค์ และจะทำให้เรานั้นมีความมั่นใจในตัวของเราเองและไม่หวั่นไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบกายของเราอย่างแน่นอน อินชาอัลลอฮ์
أقول قولي هذا، وأستغفِر الله العظيم الجليل لي ولكم ولسائر المسلمين من كلِّ ذنب فاستغفروه، إنه هو الغفورالرحيم
คุตบะฮฺวันศุกร์ มัสยิด ดารุ้ลอิห์ซาน