คำพูดที่ดี

เรียบเรียงโดย : มูฮำหมัดกามัล  อัลฟัจรีย์

          การพูดในสิ่งที่ดี ถือเป็นมารยาทอันสูงส่งยิ่งในอิสลาม เพราะการพูดนั้น ย่อมสามารถบ่งบอกถึงระดับความเข็มแข็งของอิม่านของแต่ละคน เพราะทั้งนบี  ได้กล่าวว่า

“ผู้ใดศรัทธาต่ออัลลอฮฺและศรัทธาต่อวันสุดท้าย เขาก็จงพูดในสิ่งที่ดี  หรือไม่ก็เงียบเสีย”

(หะดีษ ศอหี้ห บันทึกโดย บุคอรีย์ และมุสลิม)

        อัลลอฮฺ ได้ทรงสั่งใช้ แก่ผู้ศรัทธาว่า

“และจงพูดจาแก่เพื่อนมนุษย์อย่างดี”

(อัลบากอเราะฮฺ : 83)

            และพระองค์ ทรงเปรียบเทียบคำพูดที่ดี ว่า

“อุปมาคำพูดที่ดีดั่งต้นไม้ที่ดี รากของมันฝังแน่นลึกมั่นคงและกิ่งก้านของมันชูขึ้นไปในท้องฟ้า ผลของมันจะออกมาทุกกาลเวลา”

(อิบรอฮีม : 24-25)

        และทรงเปรียบเทียบคำพูดที่เลวว่า

“และอุปมาคำพูดที่เลว ดั่งต้นไม้ที่อับเฉาถูกถอนราออกจากพื้นดิน มันไม่มีความมั่นคงเลย”

(อิบรอฮีม : 26)

          ดังนั้นการพูดในสิ่งที่ดีนั้น ถือเป็นหน้าที่ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ศรัทธาต่ออิสลาม เพราะทุกๆคำพูดที่มนุษย์กล่าวออกไปนั้น ย่อมต้องได้รับการตอบแทนจากอัลลอฮฺ ฉะนั้นเมื่อผู้ศรัทธาประสงค์ที่จะพูดสิ่งหนึ่งสิ่งในแล้ว เขาจึงจำเป็นต้องมั่นใจว่าเขาจะได้รับการตอบแทนความดีจากอัลลอฮฺ  ท่านอิมามนาวาวีย์  ได้กล่าวว่า

“เมื่อเขาต้องการพูด เขาจะต้องพูดในสิ่งที่ดี และเขาก็มั่นใจว่าเขาจะได้รับการตอบแทนจากคำพูดเหล่านั้น หรือพูดในสิ่งที่จำเป็นต้องพูดเท่านั้น”

             เนื่องจากทุกๆคำพูดที่พูดออกมานั้น ย่อมมีผู้จดบันทึกคอยบันทึกอยู่ อัลลอฮ  ทรงตรัสว่า

“ไม่มีคำพูดคำใดที่เขากล่าวออกมา เว้นแต่ใกล้ ๆ เขานั้นมี (มะลัก) ผู้เฝ้าติดตาม ผู้เตรียมพร้อม (ที่จะบันทึก)”

(ก็อฟ : 18)

สู่การพูดในสิ่งที่ดี

1.การพูดเพื่อการเรียกร้องไปสู่อัลลอฮฺ

          คือ การเรียกร้องมนุษย์สู่การเคารพภัคดีต่ออัลลอฮฺ เพียงผู้เดียว และพูดในเรื่องศาสนาของพระองค์ อัลลอฮฺ ทรงตรัสว่า

“และผู้ใดเล่าจะมีคำพูดที่ดีเลิศยิ่งไปกว่าผู้เชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺ”

(อัลฟุศศิลัต : 33)

2.ให้สลามซึ่งกันและกัน

          การให้สลามซึ่งกันและกัน ถือว่าเป็นสิ่งที่สมควรกระทำอย่างยิ่งระหว่างพี่น้องมุสลิม เพราะเป็นการอวยพรให้ได้รับความสันติซึ่งกันและกัน ท่านนบี  ได้กล่าวว่า

“ขอสาบานกับผู้ที่ชีวิตฉันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ว่า พวกท่านจะไม่เข้าสวรรค์จนกว่าพวกท่านจะศรัทธา

 และพวกท่านจะไม่ศรัทธาจนกว่าพวกท่านจะรักกัน

พวกท่านจะเอาไหม หากฉันจะบอกวิธีหนึ่งที่เมื่อพวกท่านปฏิบัติแล้ว พวกท่านก็จะรักใคร่ซึ่งกันและกัน ?

จงแพร่สลามในหมู่พวกท่าน”

 (หะดีษศอหี้ห บันทึกโดยมุสลิม )

3.พูดในเรื่องของอัลกุรอาน และอ่านอัลกุรอาน

          อัลกุรอาน เป็นรัฐธรรมนูญจากอัลลอฮฺ แก่มวลมนุษยชาติ ซึ่งการพูดในเรื่องของอัลกุรอาน และอ่านอัลกุรอาน นั้น เป็นหน้าที่สำคัญของมุสลิม เพราะอัลกุรอานนั้นจะเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยผู้ที่อ่านมัน ท่านนบี  ได้กล่าวว่า

 “พวกท่านทั้งหลายจงอ่านอัลกุรอานเถิด เพราะแท้จริงในวันกิยามะฮ์มันจะคอยให้ความช่วยเหลือแก่มิตรสหาย(คือผู้ที่อ่านมัน)”

(หะดีษศอหี้ห บันทึกโดยมุสลิม)

4.พูดในเรื่องของอัลหะดีษ

           หะดีษ ถือเป็นมรดกชิ้นสำคัญของท่านนบี  ซึ่งท่านนั้นเป็นแบบอย่างที่ดียิ่งสำหรับมวลมนุษยชาติ ดังนั้นมุสลิมจึงจำเป็นที่จะต้องเผยแผ่หะดีษของท่านนบี ไม่จะเป็นด้วยคำพูด หรือการกระทำก็ตาม ท่านนบี  ได้กล่าวว่า

“จงเอาจากฉันไปเผยแผ่ แม้เป็นเพียงแค่หนึ่งอายะฮฺก็ตามที”

(หะดีษศอหี้ห บันทึกโดยบุคอรีย์)

5.ตักเตือนซึ่งกันและกันในเรื่องของความดีงาม

           การตักเตือนซึ่งกันและกันนั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งจากคุณธรรมอันสูงส่งของอิสลาม เพราะอิสลามนั้น ตั้งบนการตักเตือนซึ่งกันและกัน ท่านนบี  ได้กล่าวว่า

“ศาสนาคือการตักเตือนซึ่งกันและกัน”

(หะดีษ ศอหี้ห บันทึกโดยมุสลิม)

6.ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

          มุสลิมนั้น ตั้งอยู่หลักของความเป็นพี่น้องในอิสลาม ซึ่งเมื่อมีมุสลิมคนหนึ่งคนใดเศร้าโศกเสียใจ จำเป็นเหนือพี่น้องของเขาที่จะต้องให้กำลังใจและอวยพร เพราะมุสลิมนั้นเป็นพี่น้องกัน ท่านนบี  ได้กล่าวว่า

“เปรียบเทียบบรรดาผู้ศรัทธาในด้านความรัก ความเอ็นดูเมตตา และการให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลของพวกเราที่มีต่อกันนั้นเหมือนกับร่างกาย

คือ เมื่ออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งเจ็บปวด อวัยวะส่วนอื่นๆของร่างกายก็จะเจ็บปวดไปด้วย”

(หะดีษศอหี้ห บันทึกโดยบุคอรีย์ และมุสลิม)

นักเรียนโรงเรียนอัตตัรกียะห์ อิสลามียะห์