หนทางเยียวยาผู้มองโลกในแง่ร้าย
  จำนวนคนเข้าชม  11005

 

 หนทางเยียวยาผู้มองโลกในแง่ร้าย

แปลและเรียบเรียงโดย  ซาฮาร์


         หนทางเยียวยาผู้ที่หลงอยู่ในการมองโลกในแง่ร้าย ควรเริ่มต้นจากการหยุดนิ่งสักพักและหันมามองดูที่หัวใจตนเองว่าเขาคู่ควรกับสิ่งใด นั่งเงียบๆให้เวลากับตัวเอง อยู่กับตัวเอง ให้โอกาสกับตัวเอง ได้เข้าใจตัวเอง โดยปกติคนที่มองโลกในแง่ร้ายจะทนนั่งอยู่กับตัวเองได้ไม่นานนัก เหตุเพราะเขาไม่สามารถทนรับฟังแม้กระทั่งความคิดของตนเองได้ แต่หากผู้ใดที่มีจิตใจปรารถนาจะเยียวยารักษาตนเองโดยแท้จริงเพื่ออัลลอฮ์ มิใช่เพื่อตนเอง อินชาอัลลอฮ์ นี่อาจเป็นหนทางแก้ไขแรกเริ่มที่จะเปิดหัวใจของมนุษย์ให้กลับมาเป็นผู้ศรัทธาดังเช่นที่ควรเป็น


        ต้นเหตุของการมองโลกในแง่ร้ายที่ผู้เผลอเลอเปิดทางให้ชัยฏอนเข้ามาสู่พื้นที่ภายในใจด้วยความลืมตัว รู้ไม่ทัน หรือเพราะคนรอบข้างสร้างมันขึ้นมาให้แก่เขาโดยไร้หนทางต่อสู้ ต้นเหตุโดยแท้จริงของการมองโลกในแง่ร้ายคือ การที่มองเห็นค่าของตนเองต่ำกว่าผู้อื่น และตีค่าตนเองด้อยกว่าผู้อื่น ย้ำบอกตนเองอยู่ลึกๆเสมอๆว่าตนเองไม่คู่ควร สิ่งที่ดีงามมักจะเป็นของคนอื่น หรือควรค่าแก่ผู้อื่น แต่ไม่ใช่ตัวเราอย่างแน่นอน เพราะเราไม่มีค่าคู่ควร ไม่ดีพอที่จะได้รับสิ่งที่ดีๆนี้ นี่คือรากของความคิดที่คนมองโลกในแง่ร้ายใช้โต้ตอบสถานการณ์รอบตัวที่เข้ามาแบบไร้สติยั้งคิด  มันกลายเป็นธรรมชาติแห่งความคิดร้ายที่ขับเคลื่อนไปโดยที่เขาเองก็ไม่ได้ต้องการเช่นนั้น


        ในทางตรงข้ามการดำเนินชีวิตของคนกลุ่มนี้จะพยายามเสาะแสวงหาความมากกว่า สิ่งที่ดีกว่าโดยไม่หยุดยั้ง และเมื่อได้มันมาแล้วตัวเขาเองก็ปล่อยมือจากสิ่งที่ได้โดยง่าย เพราะความคิดขับเคลื่อนภายในบอกเขาว่าเขาไม่คู่ควร ตีค่าตัวเองต่ำและยินยอมที่จะปล่อยสิ่งนั้นไปจากชีวิต หรือไม่ก็แสดงออกด้วยการดึงสถานการณ์ให้เขาต้องพลาดที่จะได้รับสิ่งนั้น เพื่อย้ำให้หัวใจของเขาเชื่อว่าเขาไม่คู่ควรจนต้องสูญเสียมันไปในที่สุด สุดท้ายมิใช่ผู้ใดที่ทำให้เขาสูญเสียหรือแย่งเขาไป หากแต่ตัวเขาเอง ที่ดึงสิ่งเหล่านี้เข้ามาทำร้ายตนเอง

         อัลลอฮ์ ทรงสร้างมนุษย์มาจากพระเมตตาของพระองค์ แก่นวิญญาณของมนุษย์คือพระเมตตาของอัลลอฮ์ ผู้ศรัทธาจะรับรู้ถึงพลานุภาพแห่งพระเมตตาด้วยหัวใจที่ยำเกรง ด้วยหัวใจที่รักในอัลลอฮ์ และรอซูลของพระองค์ ด้วยจิตวิญญาณที่แท้จริง

        เหตุใดผู้มองโลกในแง่ร้ายเสมอจึงคิดว่า สิ่งสูงค่าที่มีอยู่ในวิญญาณที่มาจากอัลลอฮ์ผู้สูงส่ง ถึงไม่คู่ควรกับสิ่งที่งดงามในโลกที่อัลลอฮ์ทรงสร้างมาให้เป็นริซกีแก่เรา วิญญาณจากอัลลอฮ์คู่ควรกับทุกสิ่งที่สร้างมาเพื่อหล่อเลี้ยงมนุษย์ทุกคนและมีพอล้นเหลือบนหน้าแผ่นดิน เพราะอัลลอฮ์คือผู้ที่ให้ริซกีอันกว้างขวาง อย่างนับไม่ถ้วน และมีเพียงพระองค์เท่านั้นที่เป็นเจ้าของริซกีนี้ และพระองค์ให้มันกับเหล่าวิญญาณของผู้ศรัทธา บ่าวของอัลลอฮ์ และเหลือเผื่อแผ่ไปสู่ผู้ปฏิเสธศรัทธาด้วยซ้ำไป


         สิ่งเดียวที่กั้นเราจากอัลลอฮ์ คือร่างกายและมลทินแห่งจิตใจที่ไม่สะอาด และเครื่องกั้นสองอย่างนี้แข็งแรงทนทานมากพอที่ชัยฏอนจะใช้เป็นเครื่องมือในการขวางกั้นหัวใจที่อ่อนแอของผู้ศรัทธา แต่อัลลอฮ์ทรงเมตตาให้รอซูล มาบอกทางแก่พวกเรา ให้อัลอิสลามกว้างขวางเป็นที่รู้จักแก่มนุษย์  เชื่อได้ว่าไม่มีผู้ใดบนโลกนี้เมื่อเอ่ยคำว่า อิสลาม แล้วเขาเหล่านั้นจะตอบว่าไม่รู้จัก และด้วยเหตุนี้ก็เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะนำทางให้พวกเขาสู่ญะฮันนัม(นรก) เนื่องด้วยเขารู้ว่ามีอิสลามแต่เขาเลือกที่จะเพิกเฉย

          แล้วเหล่าศรัทธาชนรู้จักอิสลามหรือไม่? รู้จักอิสลามว่าอย่างไร? ประตูสววรค์ประตูใดที่เราเลือกที่จะเข้าแม้เพียงหนึ่งประตู ริซกีอันกว้างขวางของอัลลอฮ์ จะทำลายการมองโลกในแง่ร้ายที่ชัยฏอนบ่มเพาะในหัวใจ พระเมตตาของพระองค์จะปัดเป่าออกไปอย่างง่ายดายประดุจปุยนุ่นถูกพายุทะเลทรายพัดผ่าน  เพียงเสี้ยวอึดใจความชั่วร้ายทั้งปวงจะถูกถอดถอน หากอัลลอฮ์จะทรงเมตตาตอบรับ อินชาอัลลอฮ์

         จงเตาบัต(สำนึกผิดและกลับตัว)กลับตัวคืนสู่อัลลอฮ์  มอบหมายชีวิตไว้เพื่อพระองค์ มอบหมายร่างกายและหัวใจไว้ในความดูแลของอัลลอฮ์ พระองค์คือผู้ที่ทรงพลังที่สุดที่เราควรมอบหมาย และเป็นผู้ที่ให้ความไว้วางใจและประกันความอบอุ่นใจได้มากที่สุดแก่ผู้ศรัทธา อัลฮัมดุลิลลา


         ชีวิต ร่างกาย และหัวใจของมนุษย์มีสิทธิทางศาสนาที่สมควรได้รับการดูแลปกป้อง และเอาใจใส่ สำหรับผู้ศรัทธาควรให้สิทธิทางศาสนาอย่างเต็มเปี่ยมที่จะรักษาชีวิต รักษาหัวใจ รักษาร่างกายไว้เพื่ออิบาดะห์ต่ออัลลอฮ์ เหนือกว่าการตกเป็นทาสของชัยฏอนซึ่งไร้สิทธิใดๆในชีวิตของผู้ศรัทธาโดยสิ้นเชิง

          หากผู้ศรัทธาไม่สามารถที่จะทำเพื่อตนเองได้เนื่องด้วยถูกบดบังจากธรรมชาติขับเคลื่อนภายใน จงตั้งใจทำเพื่ออัลลอฮ์ โดยไม่คิดว่าตนเองจะได้หรือไม่ ?  ทำอิบาดะห์เพื่ออัลลอฮ์ เพราะวิญญาณนี้คู่ควรกับการเคารพอัลลอฮ์ เพราะมันเป็นของอัลลอฮ์ การที่วิญญาณกลับคืนสู่ที่มาย่อมไม่มีสิ่งใดแปลกที่จะยอมรับ


         อุปมาเช่นน้ำระเหยกลายเป็นไอ ขึ้นไปเป็นเมฆและกลับคืนสู่ความเป็นน้ำเช่นนั้น น้ำคือสิ่งเดียวกันเพียงแต่เปลี่ยนสภาพ  เช่นเดียวกับวิญญาณที่เป็นของอัลลอฮ์  เพียงเปลี่ยนสภาพมาอยู่ในร่างกายมนุษย์เหมือนกลายเป็นก้อนเมฆ ซึ่งกำลังถูกควบกลั่น ดังชีวิตมนุษย์ที่ถูกบททดสอบควบแน่น อึดอัดเหมือนตอนที่เรารู้สึกว่าฝนกำลังจะตก เราจะรู้สึกเหมือนถูกกดดัน ไม่สบายตัว เหนี่ยวเหนอะหนะ จนถึงที่สุดแล้วฝนก็ตกลงมา หากแต่การตกของฝนปรียบเหมือนการใช้ชีวิตบนดุนยาและความตาย วิญญาณของเราถูกควบแน่นด้วยดุนยาและกลายเป็นฝนที่ตกขึ้นไปสู่ฟากฟ้า เช่นเดียวกันกับฝนที่ตกลงมาสู่พื้นดิน กลับคืนสู่แม่น้ำ   ธรรมชาติของวิญญาณของผู้ศรัทธาก็เช่นกันที่ต้องกลับคืนสู่แม่น้ำ ท้องทะเล สู่พระเมตตาที่กว้างใหญ่ในอาคิเราะห์ ฉันใดก็ฉันนั้น


          หากทำเพื่อตนเองมันยากนักจงยกชีวิตให้อัลลอฮ์และทำเพื่อพระองค์ ไม่มีผู้ใดอดตายเนื่องด้วยริซกีของอัลลอฮ์ ไม่เคยมีและจะไม่มี อัลฮัมดุลิลลา จงอย่าได้ถกเถียงภายในใจให้เกิดเป็นข้อโต้แย้งสงสัย เพราะนี่คือบททดสอบอีกประการหนึ่งว่าเรายังมีความสงสัย ในการมองโลกแง่ร้ายหลงเหลือในหัวใจหรือไม่ ไม่มีสิ่งใดที่เราคิด พูดหรือกระทำจะทำร้ายผู้ใดได้นอกจากคนแรกที่จะถูกทำร้ายคือตนเองเท่านั้น

        เมื่อท่านให้เกียรติอัลลอฮ์  อัลลอฮ์  จะยกเกียรติให้แก่ท่าน เมื่อท่านเชื่ออย่างเต็มหัวใจถึงริซกีอันกว้างขวางของอัลลอฮ์  ท่านจะเป็นผู้หนึ่งที่คู่ควรแก่การได้รับเกียรตินั้นแห่งการเป็นผู้มีหัวใจพอเพียงและสุขสันติในการดำรงชีวิต

         ชีวิตของผู้ศรัทธาเป็นของอัลลอฮ์ เรามีชีวิตอยู่เพื่อตระหนักรู้อย่างเต็มเปี่ยมถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ผู้ซึ่งชีวิตของเราอยู่ในพระเมตตาของพระองค์ ไม่มีมุสลิมคนใดอดตายในพระเมตตาของอัลลอฮ์ ไม่เคยมีและจะไม่มี อัลฮัมดุลิลลา คำกล่าวนี้ไม่เกินความจริง เพราะผู้ศรัทธาที่เชื่อมั่นจะรับรู้ได้ถึงความเมตตาที่ยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์  เสมอ และรู้ว่ามันคือความจริง และไม่มีวันสูญสลายตามกาลเวลา

          ด้วยการบ่มเพาะความยิ่งใหญ่แห่งพระเมตตาของอัลลอฮ์ เช่นนี้ ท่านจะไม่ถูกทอดทิ้ง และจะไม่มีวันถูกทอดทิ้งเมื่อท่านมอบชีวิตตะวักกัล(มอบหมาย) จงรักตนเองเพราะท่านคู่ควรแก่การถูกรัก จงให้เกียรติตนเองเพราะท่านมีวิญญาณที่สูงส่งเป็นรากฐานก่อกำเนิด จงอ่อนโยนและอ่อนน้อมต่อสิ่งรอบข้าง เพราะที่ที่ต่ำที่สุดจะรองรับน้ำไว้ได้มากที่สุดและทำประโยชน์ได้มากที่สุด จุดที่ล้ำค่าที่สุดของชีวิต มิใช่ใครไปสู่ที่สูงที่สุดเหนือกว่าใคร หากแต่เป็นจุดที่เท้าและศรีษะอยู่ในระนาบเดียวกันที่ต่ำที่สุด ยามท่านสูญูด ณ ที่นั้นคือที่ที่มีเกียรติที่สุดที่บ่าวผู้หนึ่งจะสามารถได้ใกล้ชิดผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล พระผู้สร้างสรรพสิ่ง จะใฝ่หาความสูงส่งมากไปกว่านี้ที่ใดอีก ในยามที่ท่านนอบน้อมทั้งวิญญาณและร่างกายไว้เพียงเพื่อพระองค์ และท่านเป็นผู้ที่คู่ควรที่จะได้รับสิ่งที่ดีงาม ความสุขสันติในหัวใจและการดำรงชีวิตที่อบอุ่นในพระเมตตาของอัลลอฮ์ โดยแท้จริง อินชาอัลลอฮ์(อัลลอฮ์จะทรงนำหนทางที่ดีที่สุดให้เราเสมอ)


          ผู้ศรัทธาควรหลีกเลี่ยงจากการมองโลกในแง่ร้าย ภรรยาควรคิดในทางที่ดีงามกับสามีของพวกเธอเสมอ ในทำนองเดียวกัน สามีไม่ควรให้สิ่งบกพร่องในตัวนางมาครอบงำความคิดของเขา จงมองข้ามข้อบกพร่องบางประการ อย่าได้หลงตามสิ่งอันเป็นมลทินของหัวใจ ดั่งแมลงวันที่มองหาแต่สิ่งสกปรก ในทางกลับกันเขาควรที่จะเสาะหาความดีงามในตัวเธอดั่งนกไนติงเกลเสาะหาน้ำหวาน และความชื่นตาชื่นใจในตัวนาง และแสวงหาสิ่งอันดีงามที่มีอยู่ในตัวนาง และจงวางใจในความบกพร่องของมนุษย์ที่สามารถหลงลืมและทำผิดได้ทุกเมื่อ จงให้พื้นที่กับความหลงผิด หากภรรยาของผู้ศรัทธาจะหลงผิด

          ถึงแม้ผู้ศรัทธาจะดูแลให้ความรักแก่ภรรยาของเขาอย่างสม่ำเสมอ แต่เมื่อประพฤติสิ่งผิดพลาดแม้เพียงครั้งเดียว ก็อาจเพียงพอที่จะเป็นเหตุให้นางลืมความดีงามทั้งหมดที่เขาทำมา เช่นเดียวกันกับผู้ศรัทธาหญิง แม้ภรรยาที่แสนดีทำสิ่งประพฤติผิดแม้เพียงครั้ง ก็สามารถทำให้สามีของนางลืมความดีงามของนางที่ผ่านมาเช่นกัน


          หนทางที่ดีงามคือการให้พื้นที่ในความผิดพลาด เพราะมนุษย์สามารถทำผิดพลาดได้ทุกเมื่อ และควรปรับความเข้าใจแก่กัน ให้เกียรติกันและกัน และจงรักกันเพื่ออัลลอฮ์  จงให้ความซื่อสัตย์และความอบอุ่นทั้งกายใจแก่สามีและภรรยาของท่าน เพราะเขาและเธอคือของขวัญอันล้ำค่าจากอัลลอฮ์ที่ให้ผู้ศรัทธาได้ดูแลเพียงชั่วเวลาหนึ่งเท่านั้น จงทำในสิ่งที่ดีที่สุด ให้ความไว้วางใจในความรัก ความอบอุ่นใจแก่กันทุกเวลานาที เสมือนท่านคือของล้ำค่าของกันและกัน ถึงแม้บางคราวที่หัวใจจะหลงผิด มันก้อเป็นเพียงสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของมนุษย์ที่หลงทางไปจากคำสอนของอัลลอฮ์  อัลกรุอานได้บ่งชี้ถึงความบกพร่องด้านนี้ของมนุษย์ไว้ว่า

 

 قُتِلَ الْإِنْسانُ ما أَكْفَرَه


“Perish man! How ungrateful is he?!”

(Sura 'Abasa, 80: 17)

“มนุษย์นั้นถูกสังหารเสียก็ดี เขาช่างเนรคุณเสียนี่กระไร”

 


         หากแต่ผู้ศรัทธาจะกลับใจและประพฤติสิ่งดีงามใหม่ เพื่อกลับคืนสู่พระเมตตาของอัลลอฮ์ ด้วยการเตาบัต พื้นที่ไกลสุดลูกหู ลูกตา ย่อมถูกวางไว้ให้ผู้ศรัทธาได้กลับคืนสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นของอัลลอฮ์  เสมอ อินชาอัลลอฮ์