การงานแต่ละอย่างมีคุณค่าแตกต่างกัน
  จำนวนคนเข้าชม  7924

การงานแต่ละอย่าง มีคุณค่าที่แตกต่างกัน


  อ. อับดุลเราะมัน เจะอารง


          การงาน ค่านิยม ข้อชี้ขาด และภาระหน้าที่ทางศาสนามีค่าแตกต่างกันในด้านศาสนา หาใช่ว่าทุกอย่างอยู่ในระดับเดียวกันหมด มีบางเรื่องศาสนาถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเล็ก บางเรื่องเป็นเรื่องหลัก ไม่ใช่เรื่องปลีกย่อย บางเรื่องเป็นเรื่องอุดมการณ์ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น บางเรื่องเป็นเรื่องสำคัญไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย
 
         ที่กล่าวมานี้เราได้สรุปจากอายะฮ์อัลกุรอาน และหะดีษของท่านเราะสูล และจากการปฏิบัติของบรรดาเศาะหาบะฮ์ ผู้ร่วมสมัยกับท่านเราะสูล และผู้สังเกตการประทานอัลกุรอาน

ส่วนอายะฮ์อัลกุรอานนั้น คืออายะฮ์ที่กล่าวไว้ความว่า


 “พวกเจ้าได้ถือเอาการให้น้ำดื่มแก่ผู้ประกอบพิธีฮัจญและการบูรณมัสยิด อัลหะรอม ดั่งผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลลฮ์และวันปรโลกและต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์กระนั้นหรือ

เขาเหล่านั้นย่อมไม่เท่าเทียมกัน ณ ที่อัลลอฮ์ และอัลลอฮ์นั้นจะไม่ทรงแนะนำกลุ่มชนที่เป็นผู้อธรรม

บรรดาผู้ที่ศรัทธาและอพยพและต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์  ทั้งด้วยทรัพย์สมบัติของพวกเขาและชีวิตของพวกเขานั้น ย่อมเป็นผู้มีระดับชั้นยิ่งใหญ่กว่า ณ ที่อัลลอฮ์

และชนเหล่านี้แหละพวกเขาคือผู้มีชัยชนะ” 


ส่วนหะดีษของท่านเราะสูล นั้น ท่านเราะสูลได้กล่าวไว้ในตอนหนึ่งว่า

“อีมานนั้นมี 70 กว่าระดับ ระดับที่สูงสุด คือ คำว่า   " لا إله إلا الله "  (ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากพระองค์อัลลอฮ์) 

และระดับที่ต่ำสุด คือ การเก็บกวาดสิ่งให้โทษจากท้องถนน และความละอายเป็นส่วนหนึ่งของการศรัทธา ”


         ส่วนการปฏิบัติของท่านเศาะหาบะฮ์ ผู้ร่วมสมัยกับท่านเราะสูล ผู้สังเกตการประทานอัลกุรอานและผู้ที่เข้าใจความหมายอัลกุรอานดีที่สุด พวกเขามีความกระตือรือร้นที่จะรู้ภาระงานที่มีคุณค่ามากที่สุด พวกเขาได้ถามท่านเราะสูล ด้วยคำถามหลายรูปแบบและหลาย ๆ สถานที่ ขอยกตัวอย่างมาหนึ่งหะดีษเพื่อพิจารณาดู คือหะดีษที่กล่าวว่า


“มีชายคนหนึ่งมาถามท่านเราะสูล ว่า : โอ้ท่านเราะสูล อิสลาม คือ อะไร ?

ท่านตอบว่า : คุณมอบหัวใจคุณให้แก่พระองค์อัลลอฮ์ และบรรดามุสลิมอื่นปลอดภัยจากลิ้นและน้ำมือของคุณ

ชายคนนั้นถามว่า : แล้วอิสลามไหนที่ประเสริฐสุด ?

ท่านตอบว่า : อีมาน (การศรัทธา)

ชายคนนั้นถามต่อไปอีกว่าแล้ว อีมาน คือ อะไร ?

ท่านตอบว่า : อีมาน คือการศรัทธาต่อพระองค์อัลลอฮ์    ต่อบรรดา มะลาอิกะฮ์ ต่อคัมภีร์ของพระองค์ ต่อบรรดาศาสนฑูตของพระองค์

                    ต่อการฟื้นคืนชีพหลังจากการเสียชีวิตของมนุษย์

ชายคนนั้นถามต่อว่า : แล้วอีมานใดประเสริฐกว่า ?

ท่านตอบว่า : การฮิจญเราะฮ์ (การอพยพ)

ชายคนนั้นถามต่อว่า : ฮิจญเราะฮ์ คือ อะไร ?

ท่านตอบว่า : ฮิจญเราะฮ์ คือ การละทิ้งความชั่วร้าย

ชายคนนั้นถามต่อไปอีกว่า : แล้วฮิจญเราะฮ์ใดที่ประเสริฐสุด ?

ท่านตอบว่า : การญิฮาด (การต่อสู้ในหนทางของอัลลฮ์)

ชายคนนั้นถามต่ออีกว่า : แล้วญิฮาด คือ อะไร ?

ท่านตอบว่า : ญิฮาด คือการต่อสู้กับผู้ปฏิเสธศรัทธา

ชายคนนั้นถามต่อไปอีกว่า : แล้วญิฮาดใดที่ประเสริฐสุด ๆ ?

ท่านตอบว่า  : ผู้ที่ม้าของเขาถูกฆ่าและชีวิตเขาถูกสังหาร”


         ผู้ที่ติดตามคำสอนที่ปรากฏในอัลกุรอาน และอัสสุนนะฮ์จะเห็นได้ว่า อิสลามได้กำหนดมาตรฐานว่า ภาระการงานใดถือว่าประเสริฐ และภาระการงานใดถือว่าประเสริฐกว่า  เช่นตัวอย่างหะดีษต่อไปนี้


“การละหมาดญะมาอะฮ์ประเสริฐกว่าการละหมาดคนเดียวถึง 27 เท่า”

 

 
 “การเฝ้าชายแดนของรัฐอิสลาม 1 วัน และ 1 คืน ประเสริฐกว่าโลกนี้และสรรพสิ่งที่มีอยู่บนโลกนี้

และที่วางไม้เท้าของคนใดคนหนึ่งในหมู่พวกเจ้า ประเสริฐกว่าโลกนี้และสิ่งที่มีอยู่บนโลกนี้

และการเฝ้าชายแดนของรัฐอิสลาม 1 วัน  และ 1 คืนประเสริฐกว่าการถือศีลอดพร้อมกับการละหมาดค่ำคืน 1 เดือน”

 


 “การยืนอยู่บนหนทางของอัลลอฮ์ของชายคนหนึ่งประเสริฐกว่าการละหมาดของเขาที่บ้าน 70 ปี”

 


 “ดอกเบี้ย 1 ดิรฮัมที่ชายคนหนึ่งได้กินในขณะที่เขารู้ว่าเป็นเงินดอกเบี้ยมันรุรนแรง ณ พระองค์อัลลอฮ์มากกว่าการกระทำซินา  36 ครั้ง”

 

เช่นเดียวกับคำเตือนที่อิสลามได้เตือนไว้ มีบางอย่างที่อิสลามถือว่ารุนแรง และบางอย่างรุนแรงกว่า ดังหะดีษ


 “สิ่งเลวที่สุดที่พบในตัวผู้ชาย คือ ความตระหนี่ที่สุด ๆ และความกลัวที่สุด ๆ”

 


 “ชายที่เลวที่สุด คือ ผู้ที่ขอด้วยพระนามของอัลลอฮ์    เมื่อได้แล้วเขาไม่ยอมให้(แก่ผู้อื่น)”

 


“ผู้ที่ฉันรักเขามากที่สุดและใกล้ชิดกับฉันมากที่สุดในวันโลกหน้า คือ ผู้ที่มีกริยามารยาทดีที่สุด

และผู้ที่เกลียดที่สุดและห่างจากฉันมากที่สุดในวันโลกหน้า คือ ผู้ที่พูดมาก โอ้อวด และ  หยิ่งยะโส”

 


 “ มนุษย์ที่ขโมยเก่งที่สุด คือ ผู้ที่ขโมยการละหมาดของเขา โดยที่เขาก้ม(ในการละหมาด)ไม่เต็ม

และกราบ(สุญูดในการละหมาด) ไม่เต็ม และมนุษย์ที่ตระหนี่ที่สุด คือ ผู้ที่ไม่ชอบให้สะลาม(แก่ผู้อื่น)”

 

          จากหะดีษที่กล่าวมาสรุปได้ว่า การงานทุกอย่างมีฐานะที่แตกต่างกัน ไม่ใช่อยู่ในระดับเดียวกันหมด มีบางหะดีษท่านเราะสูล  ได้กำหนดความประเสริฐของมันออกมาเป็นตัวเลข แต่มีอีกหลายหะดีษที่ท่านเราะสูล  ได้กล่าวโดยทั่ว ๆไป ไม่ระบุเป็นตัวเลข ฉะนั้นการงานทุกอย่างย่อมมีผลบุญที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีเจตนา(เนี๊ยต)เพื่ออัลลอฮ์เพียงผู้เดียวในทุกๆการงาน