สิทธิที่ต้องได้รับ
สิทธิที่อัลลอฮฺ ต้องได้รับจากบ่าวของพระองค์ และสิทธิที่บ่าวจะได้รับจากอัลลอฮฺ
عَنْ مُعَاذٍ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ قَالَ : كُنْتُ رِدْفَ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ عَلَى حِمَارٍ يُقَالُ لَهُ : عُفَيْرٌ ، فَقَالَ : يَا مُعَاذُ ؛ هَلْ تَدْرِي حَقَّ اللَّهِ عَلَى عِبَادِهِ وَمَا حَقُّ الْعِبَادِ عَلَى اللَّهِ ؟ قُلْتُ : اللَّهُ وَرَسُولُهُ أَعْلَمُ . قَالَ : فَإِنَّ حَقَّ اللَّهِ عَلَى الْعِبَادِ أَنْ يَعْبُدُوهُ ، وَلَا يُشْرِكُوا بِهِ شَيْئًا ، وَحَقَّ الْعِبَادِ عَلَى اللَّهِ أَنْ لَا يُعَذِّبَ مَنْ لَا يُشْرِكُ بِهِ شَيْئًا فَقُلْتُ : يَا رَسُولَ اللَّهِ ؛ أَفَلَا أُبَشِّرُ بِهِ النَّاسَ قَالَ : لَا تُبَشِّرْهُمْ فَيَتَّكِلُوا
(أخرجه البخاري ومسلم)
จาก มุอาซ อิบบิยะบัล รอฎิยัลลอฮุอันฮู เล่าว่า ฉันได้ขี่ลาซ้อนหลังท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
ท่านได้กล่าวกับฉันว่า "โอ้มุอาซ ท่านทราบหรือไม่ว่าอะไรคือสิทธิที่อัลลอฮฺต้องได้รับจากบ่าวของพระองค์ และอะไรคือสิทธิที่บ่าวจะได้รับจากอัลลอฮฺ "
ฉันกล่าวว่า "อัลลอฮฺและรอซูลของพระองค์ทรงรู้ดีที่สุด"
ท่านจึงกล่าวว่า
" สิทธิที่อัลลอฮฺต้องได้รับจากบ่าว ก็คือพวกเขาต้องสักการะต่อพระองค์เพียงพระองค์เดียว และไม่นำสิ่งใดมาเป็นภาคีกับพระองค์
และสิทธิที่บ่าวจะได้รับจากอัลลอฮฺก็คือการที่พระองค์ไม่ลงโทษผู้ที่ไม่ตั้งภาคีต่อพระองค์ด้วยสิ่งใดๆ "
แล้วมุอาซได้กล่าวว่า "โอ้ท่านรอซูลุลลออฺ จะให้ฉันเรื่องนี้แก่ผู้คนไหม เพื่อเขาจะได้ดีใจกับมัน? "
ท่านตอบว่า “ท่านอย่าได้บอกพวกเขา (หากบอกไปแล้ว) พวกเขาจะพึงพาสิ่งนั้น (จนไม่ปฏิบัติการงานที่เป็นซุนนะ) "
(รายงานโดย บุคอรีย์ และมุสลิม)
คำอธิบาย
มุอาซ บิน ญะบัล ได้ขี่ลาซ้อนท้ายนบี ท่านนบี ต้องการชี้แจ้งให้มุอาซทราบถึงสิทธิที่อัลลอฮฺได้รับจากบ่าว และเมื่อเขาปฏับัติสิทธิดังกล่าวเขาจะได้รับรางวัล
โดยท่านนบี ได้ตั้งคำถามให้กับท่านมุอาซ เพื่อจะให้เกิดโยชน์ในการเรียนรู้และความเข้าใจ เมื่อมุอาซไม่รู้สิ่งใดเลย มุอาซตอบด้วยคำว่า อัลลอฮฺและรอซูลของพระองค์รู้ดียิ่ง
ท่านนบี ได้ชี้แจ้งให้มุอาซทราบว่า แท้จริงสิทธิที่อัลลอฮฺ ได้รับจากบ่าวของพระองค์ คือ บ่าวจะต้องมีเจตนาที่บริสุทธ์ในการอีบาดะต่อพระองค์ และไม่ตั้งภาคีใดๆต่ออัลลอฮฺ และเมื่อบ่าวกระทำสิ่งดังกล่าวแล้ว อัลลอฮฺ จะได้รับรางวัลแก่เขา โดยการให้เข้าสวรรค์ และไม่ลงโทษเขาในไฟนรก
มุอาซได้ดีใจกับเรื่องดังกล่าว เขาจึงขออนุญาตจากท่านนบี ให้บอกข่าวดีกับผู้คนในเรื่องนี้ เพื่อพวกเขาจะได้ดีใจ แต่ท่านนบี ไม่อนุญาตแก่มุอาซ เนื่องจากว่า ถ้าบอกไปแล้ว มนุษย์จะพึ่งพากระทำแต่สิ่งที่อัลลอฮฺได้วายิบให้เขาเท่านั้น แล้วทิ้งการแข่งขันกันในการทำคุณงามความดีต่างๆและซุนนะที่ส่งเสริม มุอาซได้เข้าใจว่าการห้ามของท่านนบี ไม่ใช่เป็นการห้ามเชิง หะรอม มุอาซจึงได้บอกเรื่องดังกล่าวแก่ผู้คนหลังที่ท่านนบี เสียชีวิต เพื่อเป็นการรักษาการเผยแพร่หะดิษของท่านบี แก่ผู้คน
สิ่งที่ได้รับจากหะดิษ
1- การถ่อมตัวของท่านบี โดยท่านได้ขี่ลา แล้วให้มุอาซขี่ซ้อนท้าย
2- บอกถึงเรื่องการให้เอกภาพแด่อัลลอฮฺ การอีบาดะต่อพระองค์เพียงพระองค์เดียว และจำเป็นต้องห่างไกลจากการตั้งภาคีไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม
3- การออกห่างจากการตั้งภาคีเป็นสิ่งที่จำเป็นในการทำอีบาดะ แต่ถือว่ายังไม่พอในการห่างไกลจากการตั้งภาคีเพียงอย่างเดียวแล้วจะทำให้เข้าสวรรค์และปลอดภัยจากนรก
4- บอกถึงรางวัลของบ่าวเมื่อเขาทำอีบาดะด้วยความบริสุทธิ์ใจ เข้าจะได้เข้าสวรรค์ และปลอดภัยจากไฟนรก
5- ผู้ใดที่ตั้งภาคีใดๆต่ออัลลอฮฺ ในการอีบาดะเขาสมควรได้รับการลงโทษ
6- อนุญาตให้ปกปิดปัญหาความรู้บางอย่าง แก่ผู้ที่กลัวว่า หากบอกความรู้ไปแล้วจะมีผู้ที่ทำเล่นๆในสิ่งที่อัลลอฮฺ ได้วายิบแก่เขาหรือสิ่งที่อัลลอฮ์ ได้ทรงห้ามไว้
โดย : ฟารีซี
จาก سلسلة تعليم اللغة العربية الحديث