حلق الرأس การโกนหัว
จากความเห็นของนักวิชาการนั้นการโกนหัวแบ่งออกเป็น 6 ประเภท
ประเภทที่ 1 : ส่งเสริมให้โกน
เพื่อแสดงตนว่าเป็นผู้ที่เชื่อฟังและต้องการความใกล้ชิดกับอัลลอฮ ประเภทนี้มี4 โอกาสเท่านั้น
1. ในพิธีฮัจย์
2. ในพิธีอุมเราะห์ อัลลอฮ ทรงตรัสว่า
"โดยแน่นอนอัลลอฮ์ได้ทรงทำให้ความฝันนั้นสมจริงแก่ร่อซูลของพระองค์ด้วยความจริง
แน่นอนพวกเจ้าจะได้เข้าสู่มัสยิดอัลฮะรอมอย่างปลอดภัยหากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ โดย(บางคน)โกนผมของพวกเจ้าและ(อีกบางคน) ตัดผม"
(อัลฟัตฮ 27)
3. โกนหัวเด็กเกิดไหม่ในวันที่7 ของการคลอด ท่านอาลีอิบนุอาบีตอลิบรายงานว่า
" ท่านรอซูลได้ทำอากีเกาะห์ไห้ท่านฮาซันด้วยแกะหนึ่งตัว และบอกท่านหญิงฟาติมะห์ว่า จงโกนหัวให้ฮาซัน
และให้ทำการบริจาคแร่เงินเท่าน้ำหนักผมของเขา"
4. ผู้ปฏิเสธเมื่อเข้ารับอิสลาม
ท่านนบี เคยบอกกาเฟรคนหนึ่งเมื่อเข้ารับอิสลามว่า " จงโกนผมของการปฏิเสธออกและจงขลิบ"
นักวิชาการลงมติเอกฉันท์ว่า ไม่มีการส่งเสริมไห้โกนหัว นอกจาก4โอกาสดังกล่าวนี้เท่านั้น
ประเภทที่ 2 : เป็นชิริก การตั้งภาคี
การโกนหัวเพื่อแสดงว่าเป็นการยอมรับสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮ คือคนๆหนึ่งโกนหัวของเขาเพื่อแสดงความต่ำต้อยของเขาต่อสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮ
ท่านอินุกอยยิมบอกว่า
“เหมือนกับพวกมุรีดูน(ตอรีกัต)แสดงต่อบรรดาผู้อาวุโสของพวกเขา โดยกล่าวว่า ฉันโกนหัวของฉันเพื่อคนนั้น หรือเจ้าจงโกนหัวของเจ้าเพื่อคนนั้นการพูดแบบนี้เหมือนพูดว่า ฉันสุญุดเพื่อคนนั้น เพื่อคนนี้
เพราะการโกนหัวนั้นเป็นการนอบน้อมเป็นการเคารพภักดีในความยิ่งใหญ่ของเขา และยอมต่ำต้อยด้วยความสูงส่งของเขา ดังเช่นมุสลิมจะโกนผมเมื่อเสร็จพิธีฮัจย์และมุสลิมจะก้มกราบเพราะยอมรับในความยิ่งไหญ่และความสูงส่งของอัลลอฮ ดังกล่าวนี้จึงทำไห้การโกนหัวถือว่าเป็นประเภทหนึ่งของการทำอิบาดะห์
และการโกนผมนั้นคนอาหรับเมื่อต้องการจะปล่อยทาส พวกเขาจะโกนหัวทาสแล้วปล่อยไป "
ประเภทที่ 3 : เป็นอุตริกรรม
เป็นอุตริกรรมที่น่ารังเกียจ และมีหลายรูปแบบ ส่วนหนึ่ง คือ โกนหัวเพื่อเป็นการการแสดงว่าเขาเป็นผู้เคร่งครัดในการทำอีบาดะห์และแสดงถึงความเคร่งครัดในศาสนา (โดยไม่ใช่1ใน4ประการที่กล่าวมาแล้ว) ดังเช่นหากถือเอาว่าการโกนหัวเป็นสัญลักษณ์ของคนดี หรือโกนหัวเมื่อเสร็จสิ้นการฝึกตนบำเพ็ญตะบะ(แบบกลุ่มดะห์วะห์) การกระทำดังกล่าวพวกคอวาริจชอบทำ
มีรายงานจากท่านนบี พูดถึงลักษณะของพวกคอวาริจว่า" สัญลักษณ์ของพวกเขาคือการโกนหัว"
ท่านกุรตูบี้ อธิบายว่า พวกเขาทำแบบนี้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าพวกเขาว่าไม่สนใจความเพลิดแพร้วของดุนยาและเพื่อแสดงตนว่านี่คือสัญลักษณ์ของคอวาริจ นี่คือการกระทำที่โง่เขลาของพวกเขา เพราะพวกเขาได้กระทำอุตริกรรมในศาสนาของอัลลอฮ ที่รอซู้ลและบรรดาคอลีฟะห์ไม่เคยทำ
อีกอย่างหนึ่งก็คือบางคนใช้ให้คนที่เตาบะห์ตัวโกนหัวของเขา นั่นเป็นอุตริกรรมที่บรรดาซอฮาบะห์และตาบีอีนไม่เคยทำ
ประเภทที่ 4 : ฮารอม
สิ่งต้องห้าม(ฮารอม)มีหลายรูปแบบด้วยกัน
1.โกนหัวเมื่อประสบกับสิ่งไม่ดีคือเมื่อมีญาติหรือคนที่รักเสียชีวิต จากท่านอบูมูซาอัลอัชอารี ท่านบีบอกว่า
"รอซูลนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพวกที่ส่งเสียงดังโวยวายเมื่อเกิดหายนะ และพวกที่โกนหัวเมื่อประสบกับความทุกข์และพวกที่ชอบฉีกเสื้อผ้า"
ท่านอิบนุฮะยัรบอกและอธิบายว่า คนที่โกนหัวเมื่อเกิดความทุกข์นั้นเป็นบาปไหญ่และเป็นการแสดงความไม่พอใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนและไม่ยอมรับในการกำหนดของอัลลอฮ
2. โกนหัวเพื่อเลียนแบบกาเฟรและบรรดาฟาสิคซึ่งพวกเขาเป็นที่รูจักของคนทั่วไปด้วยการโกนหัวหรือบางทีก็เพื่อใส่น้ำมันบางชนิดเพื่อไห้เหมือนพวกเขาหรือบางทีอาจจะตัดผมข้างไห้สั้นมากๆและปล่อยตรงกลางศรีษะไว้ยาวๆ ดังกล่าวนั้นเป็นเลียนแบบที่ต้องห้าม
ท่านนบีกล่าวว่า "ใครเลียนแบบใครเขาก็เป็นพวกนั้น"(คือใครเลียนแบบกาเฟรหรือคนชั่วเขาก็เป็นพวกนั้น)
ประเภทที่ 5 : อนุญาติ
อนุญาตไห้ทำได้คือการโกนหัวเพราะจำเป็นเช่นโกนเพื่อใส่ยารักษาหรือป้องกันเหา
ประเภทที่ 6 : อยากโกน
อยากโกนหัวโดยไม่มึความจำเป็นหรือไม่มีสาเหตุดังที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด ถ้าแบบนี้นักวิชาการมีความเห็นขัดแย้งกันบ้าง บางคนบอกว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรปฏิบัติ เช่น อีหม่ามมาลิกโดยยกหลักฐานว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของพวกอุตริชน คือพวกคอวาริจดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
นักวิชาการที่บอกว่าทำได้ยกหลักฐานจากฮาดิษของอบูดาวูดว่า ท่านนบีไปเยี่ยมครอบครัวของยะฟัรหลังจากเขาตายได้สามวันและได้เรียกช่างตัดผมมาและท่านใช้ไห้โกนหัวลูกชายเขา
มีรายงานจากท่านอบูดาวูดว่าท่านนบีได้เห็นเด็กคนหนึ่งโกนหัวบางส่วนไม่โกนบางส่วน
ท่านนบีบอกว่า "ถ้าโกนก็โกนให้หมด ถ้าไม่โกนก็ไม่ต้องโกนเลย"
ท่านนาวาวีบอกว่าฮะดิษนี้ชี้ชัดว่าอนุญาติไห้โกนหัวได้โดยไม่มีความจำเป็นการจะกระทำตามฮะดิษสองบทนี้ที่อนุญาติให้โกนหัวโดยไม่มีความจำเป็นนั้นต้องพิจารณาว่า
1- การโกนหัวนั้นจะอนุญาติไห้โกนได้เมื่อจำเป็น และความจำเป็นก็คือเด็กๆส่วนมากจะเป็นเหาเพราะผมเปียกชื้นและสกปรก
2- การโกนหัวนั้นเป็นสิทธิของเด็กๆและเด็กๆนั้นจะถูกยกเว้นในสิ่งที่ผู้ไหญ่ไม่ถูกยกเว้น
และดังกล่าวคือการมีความเห็นแย้งกันในประเภทที่ 5 ว่าการโกนหัวจะเป็นมักโรฮหรือเป็นที่อนุญาติทางที่ดีที่สุดคืออย่าโกนหัวดีกว่า
ท่านฟาวีกล่าวว่า ดีที่สุดคืออย่าโกนหัวนอกจากในพิธีฮัจย์และอุมเราะห์เท่านั้นเหมือนกับที่ท่านนบีและบรรดาซอฮาบะห์ได้ทำมา
الإسلام سؤال وجواب
الشيخ محمد صالح المنجد
ตอบโดย เชคมุนยิด มูฮัมมัด ซอและห์ จาก เวปไซด์ อิสลามถามตอบ
الله أعلم
แปลโดย : شريف الريس