ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ภรรยาที่รักยิ่ง
  จำนวนคนเข้าชม  58801

ท่านหญิงอาอิชะฮ์ มารดาของบรรดาผู้ศรัทธา (3)


โดย...One Muslimah.


ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ภรรยาที่รักยิ่งของท่านนบีมุฮัมมัด


ท่านอัมร อิบนุอาศ ได้กล่าวว่า “แท้จริงฉันได้ถามท่านรอซูลว่า “ผู้ใดในมวลมนุษย์ที่เป็นที่รักยิ่งแก่ท่านมากที่สุด”

ท่านรอซูล กล่าวว่า “อาอิชะฮฺ”

ท่านอัมร จึงถามต่อไปอีกว่า “และจากบรรดาผู้ชายเล่า ใครเป็นที่รักยิ่งแก่ท่าน”

ท่านรอซูล ตอบว่า “บิดาของนาง”

(รายงานโดยบุคอรีมุสลิม และติรมีซีย์)

     ท่านหญิงอาอิชะฮฺเป็นภรรยาที่ท่านนบี  รักมากที่สุดในบรรดาภรรยาทั้งหมด เนื่องจากนางมีคุณลักษณะสำคัญที่มีความประเสริฐเหนือกว่าบรรดาภรรยาทั้งหลาย


ความประเสริฐ 10 ประการ ที่นางได้รับเหนือกว่าบรรดาภรรยาท่านอื่นๆของท่านนบี  ได้แก่

1) อัลลอฮฺได้ให้มลาอิกะฮฺญิบรีล นำภาพของท่านหญิงอาอิชะฮ์จากฟากฟ้าซึ่งบรรจุในห่อผ้าไหมมาให้ท่านนบี  แล้วกล่าวแก่ท่านนบี ว่า จงแต่งงานกับเธอ แท้จริงเธอคือภรรยาของท่าน

2) ท่านหญิงอาอิชะฮ์เป็นภรรยาคนเดียวที่แต่งงานกับท่านนบี  ในขณะที่นางเป็นสาวบริสุทธิ์

3) อัลลอฮฺได้ประทานวะฮีย์ (กุรอาน) ลงมาให้แก่ท่านนบี  ในขณะที่ท่านอยู่กับนางซึ่งไม่มีการประทานอายะห์อัลกุรอานให้แก่ท่าน ในขณะที่ท่านอยู่กับภรรยาท่านอื่นๆ นอกจากท่านหญิงอาอิชะฮ์

4) อัลลอฮฺ  ได้ทรงประทานอัลกุรอานแก่ท่านนบี  เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของนาง

5) นางเป็นภรรยาคนเดียวที่ได้อาบนํ้าในภาชนะเดียวกันกับท่านนบี ซึ่งท่านนบีไม่ได้ทำเช่นนี้กับภริยาท่านอื่น

6) ท่านนบีเสียชีวิตในขณะที่นอนอยู่บนตักของท่านหญิงอาอิชะฮ์ และในคืนที่เป็นสิทธิ์ของนาง

7) ศพของท่านนบี ถูกฝังไว้ในบ้านของอาอิชะฮ์  (บันทึกโดยอะหมัด)

8) ท่านหญิงอาอิชะฮ์เป็นภรรยาคนเดียวของท่านนบี  ที่มีทั้งพ่อและแม่เป็นผู้อพยพ (จากมักกะฮฺไปมะดีนะห์)

9) ท่านหญิงอาอิชะฮ์เป็นบุตรีของชายคนแรก (ท่านอบูบักร) ที่เข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม

10) ท่านหญิงอาอิชะฮ์เป็นผู้ที่ท่านนบี รักมาก และท่านนบี  ก็ได้ยืนยันว่านางเป็นภริยาของท่านทั้งโลกนี้และโลกหน้า (บันทึกโดยติรมีซีย์)


         นอกจากคุณลักษณะพิเศษ 10 ประการดังกล่าวข้างต้นแล้ว ในฐานะศรีภรรยาของท่านนบี ผู้ที่มีความใกล้ชิดกับท่านนบีมากกว่าภรรยาท่านอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมในการสร้างความสุขให้กับชีวิตของท่านนบี อาทิเช่น รักและเคารพเชื่อฟังท่านนบี ด้วยความเต็มใจและบริสุทธิ์ใจ ปลอบประโลมและให้กำลังใจแก่ท่านนบี การช่วยงานท่านนบี การเป็นที่ปรึกษาท่านนบี ตลอดจนคอยปรนนิบัติรับใช้ท่านนบีอย่างใกล้ชิดทุกขณะ

          โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามสงคราม นางจะทำหน้าที่ในการปรุงอาหาร บริการนํ้าดื่ม และเยียวยาให้แก่ท่านนบี ส่วนในภาวะที่บ้านเมืองสงบสุข นางจะเป็นภริยาที่คอยเอาอกเอาใจ และให้กำลังใจแก่ท่านนบีอยู่ตลอดเวลา นางเป็นผู้ที่มีอารมณ์ดี จิตใจร่าเริง


           ดังที่ท่านหญิงอาอิชะฮฺ ได้เล่าให้ฟังว่า ท่านนบี  ได้วิ่งแข่งกับนางและนางได้วิ่งชนะท่านนบี  จนเมื่อนางอ้วนขึ้น ท่านก็วิ่งชนะนาง และกล่าวแก่นางว่า

“นี่อาอิชะฮฺ ชนะครั้งนี้แทนที่แพ้ครั้งก่อนไงล่ะ”

(อะหฺมัด, อบู ดาวูด, อัน-นะซาอีย์, อิบนุ มาญะฮฺ ดู อัซซะฮะบีย์ 2:174)


         ท่านนบี เคยนอนหนุนตักท่านหญิงอาอิชะฮ์ ในขณะที่นางมีรอบเดือน และได้อ่านอัลกุรอานให้นางฟัง ท่านนบี เคยจูบท่านหญิงอาอิชะฮ์ในขณะที่นางถือศีลอด และยังให้หวีผมให้ เมื่อตอนที่ท่านนบีเอื๊ยะติกาฟในมัสยิด โดยยื่นศีรษะให้นางซึ่งอยู่นอกมัสยิด

 (บุคอรีย์และมุสลิม)


        ท่านหญิงอาอิชะฮ์เคยอาบนํ้าญะนาบะฮฺร่วมกับท่านนบีจากถังใบเดียวกัน ท่านนบีได้รีบอาบนํ้าแข่งกับนาง  จนนางกล่าวว่า "ปล่อยบ้าง ปล่อยให้ฉันอาบบ้าง"

 (มุสลิม)


และครั้งหนึ่ง ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ได้เล่าว่า “ท่านรอซูลุลลอฮฺได้บอกฉันว่า ฉันรู้ว่าเมื่อใดเธอพอใจฉันหรือว่าเธอโกรธฉัน"
 
นางได้กล่าวว่า “ท่านรู้ได้อย่างไร”

ท่านนบีได้กล่าวว่า “เพราะเมื่อเธอพอใจฉัน เธอก็กล่าวว่า ไม่เลยขอสาบานด้วยพระเจ้าของมุฮัมหมัด”

และเมื่อเธอไม่พอใจฉัน เธอจะกล่าวว่า “ไม่เลยขอสาบานด้วยพระเจ้าของอิบรอฮีม”


         และด้วยบุคลิกของอาอิชะฮ์ ที่ไม่เหมือนใคร เพราะนางเป็นผู้ที่สุภาพอ่อนโยน มีความจงรักภักดีและเกรงกลัวต่อเอกองค์อัลลอฮฺด้วยการละหมาด การอ่านกุรอานเป็นประจำ แปรงฟันก่อนนอน และละหมาดสุนัตในตอนกลางคืนมาก รวมทั้งการขอดุอาร์ด้วยความถ่อมตน และจะถือศีลอดเป็นประจำแม้ว่าจะอยู่ในช่วงฤดูร้อนที่ต้องทนทุกข์กับความกระหาย และเผชิญกับความเหน็ดเหนื่อยก็ตาม


ครั้งหนึ่ง ขณะที่ท่านหญิงอาอิชะฮ์ถือศีลอดในวันอะเราะฟะห์ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ อับดุรเราะห์มาน พี่ชายของนางได้ไปเห็นนางกำลังเอานํ้าพรมตัวอยู่

เขาจึงขอร้องนางด้วยความเป็นห่วงว่า “ละศีลอดเสียเถอะ”

แต่ท่านหญิงอาอิชะฮ์ตอบว่า “จะให้ฉันละศีลอดได้อย่างไร ในเมื่อฉันได้ยินท่านรอซูลกล่าวว่า การถือศีอดในวันอาเราะฟะห์จะช่วยลบล้างการกระทำที่ไม่ดีก่อนหน้านี้เป็นเวลาหลายปี ”


         นอกจากนี้ท่านหญิงอาอิชะฮ์ยังเป็นผู้ที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ให้ความสำคัญและสร้างสัมพันธ์กับเครือญาติทั้งฝ่ ายของท่านนบี และฝ่ายภรรยาของท่านบี ทุกคน ไม่มีความอิจฉาริษยาหรือบาดหมางต่อใคร นางได้ให้ความเคารพยกย่องบรรดาภริยาท่านอื่นๆด้วยความบริสุทธิ์ใจและจริงใจ  นางไม่ชอบการนินทาลับหลังและไม่ชอบการยกย่องตนเอง


          ท่านหญิงอาอิชะฮ์เป็นผู้ที่มีความอดทนสูง พร้อมที่จะรับความทุกข์ของผู้อื่นเสมอ โดยเฉพาะในเรื่องของการมีจิตใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้ยากไร้ การเสียสละ และบริจาคทรัพย์สินทุกอย่างจนลืมเก็บไว้เพื่อตัวท่านเอง นางเป็นคนมีเมตตาสงสารทาส บางครั้งนางจะซื้อทาสเพื่อปล่อยให้เป็นอิสระ ซึ่งทาสที่นางปล่อยให้เป็นอิสระนั้น มีจำนวนถึง 67 คนด้วยกัน


          ท่านหญิงอาอิชะฮ์เป็นผู้ที่มีความเป็นอยู่อย่างสมถะ โดยเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับชีวิตในโลกดุนยานี้น้อยมาก และชอบที่จะใช้ชีวิตอยู่กับท่านนบี ทั้งในยามทุกข์และสุข ซึ่งท่านหญิงอาอิชะฮ์ได้ให้ความเคารพและปรนนิบัติต่อท่านนบี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติตามคำสั่งเสียของท่านนบีทุกอย่าง

          ตัวอย่างเช่น ในเรื่องของการแต่งกาย ตั้งแต่มีอายะห์กุรอานลงมาให้แก่ท่านนบี เพื่อให้ท่านกำชับใช้บรรดาภริยาและลูกสาวให้แต่งกายปกปิดเอาเราะห์ ตามกุรอานซูเราะห์อัลอะฮฺซาบ (กุรอาน 33: 59) ท่านหญิงอาอิชะฮ์จะปฏิบัติตามอย่างเข้มแข็ง

และท่านนบีได้สั่งเสียกับท่านหญิงอาอิชะฮ์ไว้ว่า

 “ถ้าเธอต้องการที่จะพบกับฉันอีกในวันอาคิเราะฮฺ เธอจงอยู่บนโลกนี้เสมือนเป็นผู้เดินทาง เธออย่าคลุกคลีกับคนร่ำรวย

และจงอย่าเปลี่ยนเสื้อผ้าจนกว่ามันจะขาดและเย็บปะใหม่ให้มันดีขึ้น”

(บันทึกโดยติรมีซีย์)


         ท่านหญิงอาอิชะฮฺรักท่านนบีผู้เป็นสามีของนางมาก และเป็นความรักที่มิอาจประเมินค่าได้ ถึงแม้ว่านางจะเป็นภรรยาคนโปรดของท่านนบี และมีหญิงรับใช้อยู่แล้ว แต่นางก็ทำงาน และปรนนิบัติท่านนบีด้วยตัวเอง  มากกว่าที่จะใช้หญิงรับใช้

          อาทิเช่น การโม่แป้งนวดแป้ง การซักผ้า การจัดที่นอนให้แก่ท่าน การจัดเตรียมแปรงสีฟันและเหยือกนํ้าไว้ข้างๆเตียง  นางจะใส่นํ้าหอมให้ตามที่ท่านชอบ บางครั้งท่านนบีจะนอนหลับบนตักของนาง โดยที่ท่านหญิงอาอิชะฮ์จะนั่งอย่างสงบ เพื่อมิให้เป็นการรบกวนการนอนของท่านนบี

          และบ่อยครั้งเมื่อนางตื่นขึ้นมาตอนกลางคืนแล้วพบว่าท่านนบีไม่อยู่ในห้อง นางจะรู้สึกเป็นห่วงอย่างมากและจะออกเดินหาท่านนบีไปทั่ว เมื่อพบว่าท่านนบีกำลังนมาซอยู่ นางจึงได้สบายใจ


          ด้วยคุณธรรมความดีงาม ลักษณะที่ดีเลิศ และความประเสริฐของท่านหญิงอาอิชะฮ์ จึงทำให้ท่านนบีให้ความนับถือและให้ความรักแก่นางเป็นอย่างมาก และมากกว่าภริยาท่านอื่นๆ ความรักของท่านนบีที่มีต่อนางนั้น จะเห็นได้จากคำวิงวอนของท่านต่ออัลลอฮฺ ซึ่งท่านนบีได้กล่าวว่า

“ข้าแต่พระผู้อภิบาล ข้าพระองค์รักษาความเสมอภาคและความยุติธรรมต่อภรรยาของข้าพระองค์มาโดยตลอดซึ่งข้าพระองค์ทำได้และมีอำนาจ

แต่ข้าพระองค์จะต้องขออภัยสำหรับสิ่งที่ข้าพระองค์ไม่สามารถควบคุมได้ นั่นคือ ความรักในตัวของข้าพระองค์ที่มีต่ออาอิชะฮฺ”

(อบูดาวูด)


          และแม้ในตอนที่ท่านนบีเสียชีวิต ท่านนบีก็ได้อยู่กับท่านหญิงอาอิชะฮฺภรรยาผู้เป็นที่รักยิ่ง บรรดาภริยาท่านอื่นๆ รู้ว่าท่านนบีต้องการที่จะอยู่กับท่านหญิงอาอิชะฮฺ และทุกคนก็ยินยอมให้ไปอยู่กับท่านหญิงอาอิชะฮ์

          เมื่อท่านนบีใกล้จะเสียชีวิตนั้น อับดุรเราะฮฺมาน อิบนุ อบูบักรฺ ได้เข้ามาหาท่านนบีพร้อมไม้สีฟันที่ยังสดอยู่ ท่านนบีได้มองดูมัน จนท่านหญิงอาอิชะฮฺสังเกตเห็นและเข้าใจว่าท่านนบีต้องการมัน ท่านหญิงอาอิชะฮ์เล่าว่า

“ฉันจึงเอาไม้สีฟันนั้นมากัดให้นุ่มและส่งให้ท่าน ท่านนบีได้ใช้ไม้นั้นสีฟันและส่งมันคืนแก่ฉัน แต่มือของท่านตกลงไปด้วยไม่มีแรง ฉันได้ขอดุอาร์ให้ท่านด้วยดุอาร์ที่ญิบรีลได้ขอให้ท่านทุกครั้ง เป็นดุอาร์ที่ท่านนบี ขอให้ตัวเองเมื่อท่านป่วย แต่ครั้งนี้ท่านไม่ได้อ่านมัน

 จากนั้นท่านได้มองไปยังเบื้องบนและกล่าวว่า "สู่การเป็นสหายกับผู้สูงส่งยิ่ง" แล้วลมหายใจของท่านก็หมดลง ขอสรรเสริญอัลลอฮฺที่ได้รวมนํ้าลายของฉันกับของท่านในห้วงสุดท้ายแห่งชีวิตของท่านรอซูลในโลกดุนยา

(อะหฺมัด, อัลฮากิม ดู อัซซะฮะบีย์ 2:189)

 

และทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คือ การทำหน้าที่ในฐานะภรรยาผู้เป็นที่รักยิ่งของท่านศาสดาอย่างดีเยี่ยม

และเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่บรรดาศรัทธาชนทั้งหลายที่ควรน้อมนำไปปฏิบัติตาม