เมืองมายา…ป่าคอนกรีต
  จำนวนคนเข้าชม  7768

 

เมืองมายา…ป่าคอนกรีต


โดย... ยูซุฟ อบูบักรฺ


ท่ามกลางความศิวิไลซ์...จะใช้ชีวิตอย่างไรให้ใกล้ชิดอัลลอฮฺ ?

          ลมเอื่อยพัดมาผ่านมากระทบต้นไทรหน้าบ้านแรงพอที่จะทำให้ยอดใบปลิวไหวไปมา  นกกรงดอกแตงวิ่งกระโดดไล่จิกแมลงอยู่ตรงลานหญ้าเจ้าชู้ข้างบ้าน...สักพักก็โผบินไปอย่างไม่ใส่ใจต่ออะไรทั้งปวง...ฉันพร่ำอยู่ในห้วงคิดคำนึงคงเป็นเรื่องที่ชี้บ่งว่า “ความอิสรภาพของโลกใบนี้เป็นของมันแต่เพียงผู้เดียว...”

          สภาพอากาศตอนสายของวันอาทิตย์...แดดแสงอ่อน...สายลมเอื่อย...พอจะนำพาให้รู้สึกผ่อนคลายปลดปล่อยจากอารมณ์เคร่งเครียดของอะไรบางอย่างภายใน 2-3 เดือนที่ผ่านมาไปได้บ้าง


          สัปดาห์ที่เลยผ่านกับการเดินทาง...ได้พบเจอสิ่งต่างๆ มากมาย เมืองมนุษย์แห่งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์...กับป่าคอนกรีตในเมืองดูไบ  ความศิวิไลซ์ได้ตีปีกเหล็ก แผ่ลงมาปกคลุมชาวโลกเกือบทั่วอาณาแคว้นแดนดิน  ทุกอณูอากาศถูกอัดแน่นด้วยความก้าวหน้าของมายาวัตถุสิ่งแปลกใหม่รูปแบบต่างๆ นาๆ ที่มนุษย์สรรหาผลิตขึ้นมา

          การใช้ชีวิตของมนุษย์ในเมืองแห่งสวนป่าเทคโนโลยี โลดโผน เร่งรีบกันเหลือเกิน ต่างเบียดเสียดแก่งแย่งแข่งขัน  ต้องเอาตัวเองให้รอด  ความปรารถนา  ความต้องการไร้ขีดจำกัด  รถราวิ่งไปมากันขวักไขว่ดูแล้วให้ความสับสนวุ่นวายในอารมณ์คิด  การที่จะหันกลับไปสู่การใช้ชีวิตให้ใกล้เคียงวิถีชีวิตของบรรพชนผู้สร้างประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์แห่งอิสลามนั้นดูเหมือนจะยากลำบากอยู่มิน้อยเลย...นั่นคือปัจจุบันที่เป็นไปในแนวทางการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิต ที่มีสติปัญญามาอาศัยอยู่บนพื้นดาวเคราะห์ที่มีทรงกลมซึ่งผิวของมันขรุขระดวงนี้...

          ท่ามกลางปัญหาที่รายล้อม  กับสังคมที่เราจำเป็นต้องอาศัยอยู่ปะปนไปกับกระแสธารของความป่าเถื่อนโหดร้าย  กระแสความขัดแย้งแบ่งแยกกันเกือบจะทุกหัวระแหง  ความแปลกแยกในสังคม ถูกแบ่งเป็นฝักฝ่าย  แบ่งขั้วเลือกข้าง  เราในฐานะผู้ศรัทธาจะนำพา (ใช้) ชีวิตอย่างไรให้ใกล้ชิดกับอัลลอฮฺได้มากที่สุด ?


          ต่อไปนี้คือข้อเสนอแนะเพียงบางประการที่จะช่วยเสริมแต่งให้ชีวิตของผู้ศรัทธาได้ใกล้ชิดและมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีขึ้น  ระหว่างผู้สร้างมหาสากลจักรวาลกับผู้ที่ถูกสร้างที่แสนจะอ่อนแอ และต่ำต้อย


     1. นำอิสลามมาปฏิบัติทุกแง่มุมของการดำเนินชีวิต  โดยไม่ยึดติดประเพณีนิยมและความเชื่อเก่า ๆ ทุกอักขระของอัลกุรอาน  และทุกอริยบทจากจริยวัตรของท่านรอสูลุลลอฮฺ ต้องนำมาพิจารณาใคร่ครวญ  แล้วพยายามกลั่นออกมาเป็นการกระทำอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง  ไม่ยึดถือปฏิบัติแค่เพียงบางส่วนแล้วทิ้งอีกบางส่วน  หรือทำตามอารมณ์ความพึงพอใจแห่งตน และให้ตระหนักอยู่เสมอว่าศาสนาที่ได้รับการยอมรับจากพระผู้สร้างคือ อิสลาม  อัลลอฮฺได้ตรัสไว้ในซูเราะฮฺอาลาอิมรอน อายะฮฺที่ 19  ความว่า

  “แท้จริงศาสนา ณ ที่อัลลอฮฺ  คือ  ศาสนาอิสลาม”

 

     2. ศึกษาหาความรู้ที่เกี่ยวกับหลักคำสอนแห่งอิสลาม  ทำความเข้าใจให้รู้อย่างถ่องแท้  ไม่หวั่นไหวต่อกระแสของอารยธรรมอันจอมปลอมที่กำลังโหมกระหน่ำสังคมอยู่ทุกวี่วัน  อัลลอฮฺ ได้ตรัสไว้ในซูเราะฮฺอันอาม  อายะฮฺที่ 125  ความว่า

 “ผู้ใดที่อัลลอฮฺทรงต้องการจะแนะนำเขา  พระองค์ก็จะทรงให้หัวอกของเขาเบิกบานเพื่ออิสลาม”

  และยังมีหลักฐานอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นคำดำรัสของอัลลอฮฺ หรือพจนารถของท่านนบีมุฮัมมัด ที่บ่งบอกถึงเรื่องนี้

 

     3. เชื่อมั่นต่อเจตนารมณ์และอุดมการณ์อิสลามอย่างแน่วแน่  ว่าเป็นวิถีเดียวเท่านั้นที่สามารถสานฝันให้ประชาคมโลกได้ เป็นครรลองเดียวที่สามารถนำสันติภาพมาสู่โลกอันแสนวุ่นวายโหดร้ายใบนี้  ดังที่อัลลอฮฺได้ตรัสไว้ในซูเราะฮฺอัฏเฏาะลาค อายะฮฺที่ 3  ความว่า

  “และผู้ใดที่ได้มอบหมายกิจการงานต่ออัลลอฮฺ  เป็นการเพียงพอแล้วสำหรับเขา”

 

     4. รวมตัวเป็นกลุ่ม (ญามาอะฮฺ)  ไม่นำเอาปัญหาปลีกย่อยมาเป็นกำแพงเพื่อขวางกั้นความเป็นพี่น้อง  เพราะการรวมตัวจะนำไปสู่ความเป็นภราดรภาพ  และเป็นเหตุทำให้ศัตรูมิกล้ามากล้ำกราย  ทำร้าย  ในเมื่อเราอยู่อย่างสุขสบาย  โอกาสที่เราจะเป็นบ่าวที่ใกล้ชิดต่ออัลลอฮฺก็มีทางเป็นไปได้มาก  ความสำเร็จต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นได้โดยพลังมวลชน (ญามาอะฮฺ)  และอนาคตอันใกล้รัฐอิสลามก็จะถูกสถาปนาขึ้นอีกครั้ง (อินชาอัลลอฮฺ)  ดังปรากฏในพจนารถของท่านศาสดามุฮัมมัด   ความว่า

  “แท้จริงพระหัตถ์ของอัลลอฮฺจะอยู่พร้อมกับบรรดาผู้อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม (ญามาอะฮฺ)”

 

     5. อดทน  อดกลั้นต่อภัยพิบัติ  และการทดสอบในรูปแบบต่าง ๆ ไม่มีใครถูกพันธนาการไปกับความทุกข์ระทมไปตลอดชีวิตและไม่มีใครจะสมหวังตลอดไป  หลังจากกระแสลมพายุพัดโหมกระหน่ำ  ในอีกไม่นานวันที่ท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพก็จะมาเยือน  อัลลอฮฺ ได้ตรัสไว้ในซูเราะฮฺ อะละอิมรอน  อายะฮฺที่ 139  ความว่า

 “สูเจ้าจงอย่าได้ท้อ  อย่าได้ระทม  แท้จริงเจ้าย่อมเป็นผู้ที่เหนือกว่า  หากสูเจ้าเป็นผู้ที่ศรัทธา”

 

ที่กล่าวผ่านมาทั้งหมดเป็นเพียงบางส่วนของข้อเสนอแนะในการดำเนินชีวิตเพื่อให้ใกล้ชิดต่ออัลลอฮฺสำหรับมวลมนุษยชาติ  ซึ่งยังมีอีกหลายปัจจัย

 

ถนนแห่งชีวิตบนโลกดุนยาอันแสนสั้นและโหดร้ายมีแค่สองเส้นทางให้เลือก 

หนึ่ง...ทางที่สว่างเที่ยงตรงของหลักธรรมคำสอนแห่งอิสลาม 

สอง...ทางที่มืดมิดลุ่มหลงแห่งชัยฏอนมารร้าย 

          แน่นอน...สำหรับผู้ที่ใคร่ครวญด้วยสติปัญญา  เขาย่อมที่จะเลือกก้าวเดินให้กับชีวิตในเส้นทางที่หนึ่ง  เพราะเส้นทางที่สว่างย่อมปลอดภัย  และเดินได้อย่างสะดวกสบายกว่าทางที่มืดมิดที่คลาคล่ำไปด้วยสิ่งล่อลวง  นำพาชีวิตไปสู่การลุ่มหลง...และใครที่เลือกหนทางสายที่สอง...เราเพียงขอบอกว่า 

 “มันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลยที่เกิดมาพร้อมกับสติปัญญา  แต่..กลับไม่ได้ใช้มันเพื่อการใคร่ครวญ”