การทำอุฏฮิยะห์ให้กับคนตาย
  จำนวนคนเข้าชม  6486

 

การทำอุฏฮิยะห์ให้กับคนตาย


โดย.....อิสมาอีล บินกอเซ็ม


ฉันสามารถที่จะทำอุฏฮิยะห์ให้แก่พ่อแม่ของฉันที่ตายไปแล้วได้หรือไม่ ?

 

          การทำอุฏฮิยะห์นั้น มีบทบัญญัติทำให้กับผู้ที่มีชีวิตอยู่ เหมือนที่ท่านนบีศอลลัลลอฮู อะลัยอิวะซัลลัม และบรรดาศอหาบะห์ของท่าน ที่พวกเขาได้ทำให้แก่ตัวของพวกเขาและครอบครัวของพวกเขา แต่สำหรับประเด็นที่คนทั่วไปเข้าใจว่า การทำอุฏฮิยะห์ที่เป็นการเจาะจงให้แก่บรรดาผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ไม่มีหลักฐานใดๆ ยืนยัน


การทำอุฏฮิยะห์ให้แก่บรรดาผู้ที่ตายไปแล้วมีอยู่ สามประเภทด้วยกัน


ประเภทที่หนึ่ง

          การทำอุฏฮิยะห์ให้แก่ผู้ที่ตายไปแล้วรวมกับการทำให้กับผู้ที่มีชีวิตอยู่ ตัวอย่างเช่น การที่คนหนึ่งได้ทำอุฏฮิยะห์(กุรบาน)ให้กับตัวเอง และให้กับครอบครัวของเขา โดยที่เขาเจตนาให้กับผู้ที่มีชีวิต และผู้ที่ตายไปแล้ว (การกระทำนี้เป็นที่อนุญาต) เดิมทีแล้วท่านนบี ศอลลัลลอฮู อะลัยอิวะซัลลัม ได้ทำอุฏฮิยะห์ให้กับตัวเอง และให้แก่ครอบครัวของท่าน ซึ่งในบรรดาครอบครัวของท่านนั้นมีทั้งผู้ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว


ประเภทที่สอง

          การทำให้แก่ผู้ตาย เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งเสียของผู้ตาย (สำหรับการทำเนื่องจากคำสั่งเสียนั้นถือว่า เป็น วาญิบจำเป็นต้องทำ นอกจากไม่มีความสามารถที่จะทำ ) หลักฐานในเรื่องนี้ดังดำรัสของอัลลอฮฺ ตาอาลา ความว่า

“แล้วผู้ใดเปลี่ยนแปลงพินัยกรรม หลังจากที่เขาได้ยินมันแล้ว โทษแห่งการเปลี่ยนแปลงพินัยกรรมนั้น

ก็ตกอยู่แก่บรรดาผู้เปลี่ยนแปลง พินัยกรรมนั้นเท่านั้น แท้จริงอัลลอฮ์ทรงได้ยิน ทรงรอบรู้”


ประเภทที่สาม

          การทำอุฏฮิยะห์ให้แก่บรรดาผู้ที่ตาย เป็นการบริจาคทานเป็นการเฉพาะจากผู้ที่มีชีวิตอยู่ (หมายถึงทำการเชือดให้แก่บิดาของเขา เป็นการทำอุฏฮิยะห์เป็นการเฉพาะ หรือทำให้มารดาของเขาเป็นการเฉพาะ ) ก็เป็นที่อนุญาต โดยที่บรรดานักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านฟิกฮ์ของ มัสอับ อัมบาลีย์ได้ระบุว่า ผลบุญของการทำอุฏฮิยะห์นั้นถึงไปยังผู้ที่ตาย และยังประโยชน์ให้แก่ผู้ตายไปแล้ว เป็นการเปรียบเทียบจากการซอดาเกาะห์ให้แก่ผู้ที่ตายไปแล้ว.

وأهله شمل أهله الأحياء والأموات لما عدلوا عنه إلى عملهم ذلك ."


          แต่ว่าเราไม่เห็นด้วยกับการเจาะจงการทำอุฏฮิยะห์ให้แก่ผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว มาจากซุนนะห์  เนื่องจากท่านนบี ศอลลัลลอฮู อะลัยอิวะซัลลัม ไม่ได้ทำอุฏฮิยะห์ให้แก่ผู้ใด ให้แก่ผู้ที่เสียชีวิตเป็นการเฉพาะ โดยที่ท่านไม่ได้ทำอุฏฮิยะห์ให้แก่ลุงของท่าน คือท่านฮัมซะห์ ซึ่งท่านเป็นหนึ่งจากผู้ที่มีเกียติรจากบรรดาเครือญาติของท่าน  และท่านนบีก็ไม่ได้ทำเป็นการเจาะจงให้กับบรรดาลูกๆ ของท่านที่เสียชีวิตในยุคของท่าน  ซึ่งลูกสาวที่แต่งงานแล้ว 3 คน และลูกชายเล็กๆ อีกสามคน และไม่ได้ทำให้กับภรรยาของท่าน คือ ท่านหญิง คอดียะห์ ซึ่งเป็นภรรยาที่ท่านรักที่สุด

          และไม่มีปรากฏว่า บรรดาศอหาบะห์ของท่าน ในยุคของท่าน จะทำการเชือดกุรบาน ให้คนหนึ่งคนใดจากบรรดาผู้ที่เสียชีวิต และเห็นว่ามันเป็นความผิดพลาด ที่มีบางคนได้ทำการทำอุฏฮิยะห์ให้แก่ผู้ที่เสียชีวิต ในปีแรกที่เสียชีวิต  ซึ่งพวกเขาเรียกว่า (อัลฮุฏฮิยะห์ อัลอัฟเราะห์) พวกเขานั้นมีความเชื่อว่า ไม่อนุญาตให้ใครมาหุ้นส่วนในผลบุญของอุฏฮิยะห์(นอกจากผู้ตาย) หรือ พวกเขาทำอุฏฮิยะห์ ให้แก่บรรดาผู้ที่เสียชีวิตของพวกเขาเป็นการบริจาค หรือ กระทำเนื่องจากคำสั่งเสียของพวกเขา โดยที่เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้กับตัวของพวกเขาเอง และเครือญาติของพวกเขา และหากพวกเขารู้ ว่าชายคนหนึ่งเมื่อเขาได้ทำอุฏฮิยะห์จากทรัพย์ของเขาให้กับตัวของเขาเอง และครอบครัวของเขาทั้งที่มีชีวิต และเสียชีวิตไปแล้ว แล้วทำไมเขาจึงไปทำอุฏฮิยะห์เป็นการเจาะจงให้แก่ผู้ที่ตาย

 


จากหนังสือ รีซาลาตูอะกามิล อุฏฮิยะห์ วัซซากาฮฺ

رسالة أحكام الأضحية والذكاة