แต่ละชีวิต จะได้ลิ้มรสแห่งความตาย
  จำนวนคนเข้าชม  25645

 

แต่ละชีวิต จะได้ลิ้มรสแห่งความตาย


คอเต็บ อับดุสสลาม  เพชรทองคำ


          ท่านพี่น้องทุกท่านพึงยำเกรงอัลลอฮฺ  เถิด  เพราะการเกรงกลัวอัลลอฮฺ นั้นเป็นเสบียงที่ดียิ่งสำหรับเราทั้งในโลกนี้และในโลกอาคิเราะฮฺ  
  
          ท่านพี่น้องที่รัก     ในเรื่องของความตายและสิ่งที่เราจะได้รับหลังจากความตาย     ตลอดจนสภาพของคนที่ตายแล้วเป็นอย่างไร ทุกวันนี้ผู้ที่รู้จักอัลลอฮฺ ยังไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควรกับอาคิเราะฮฺ  เพราะอาจจะเข้าใจเอาเองว่าเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในโลกนี้ แล้วก็อีกนานกว่าที่คนๆนั้นจะได้เจอ  เขาจึงสนใจกับโลกนี้ซึ่งไม่ใช่บ้านที่เราจะอยู่โดยตลอดไป  โลกนี้ก็เหมือนกับบ้านชั่วคราวซึ่งเปรียบเสมือนการเดินทาง การเดินทางนั้นไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่ใช้เวลามากหรือใช้เวลาน้อย  ก็แน่นอนว่าเราจะต้องอยากกลับไปบ้านเหลือเกิน 


        เราอยู่ในโลกนี้ก็เช่นเดียวกัน เราอยู่ในฃ่วงเวลาของการเดินทางซึ่งจะต้องกลับบ้าน  ภูมิลำเนาของเราไม่ใช่โลกนี้ แต่คือโลกหน้า อิสลามถือว่าความเป็นและความตายนั้นล้วนเป็นบทเรียนแก่มนุษย์ทั้งสิ้น  ดังที่อัลลอฮฺได้ตรัสไว้ในซูเราะฮฺที่ 67อายะฮฺที่ 2 ว่า


الَّذِي خَلَقَ الْمَوْتَ وَالْحَيَاةَ لِيَبْلُوَكُمْ أَيُّكُمْ أَحْسَنُ عَمَلًا ۚ وَهُوَ الْعَزِيزُ الْغَفُورُ ﴿٢﴾سورة الملك

“พระองค์ผู้ได้ทรงบังเกิดความตายและความเป็น เพื่อจะได้ทดสอบสูเจ้าว่าใครในหมู่สูเจ้าที่ทำงานได้ดียิ่ง

และพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงเดชานุภาพ  และเป็นผู้ทรงอภัยเสมอ” 

           การมีชีวิตในโลกนี้ อยู่ในการทดสอบ ดุนยาเป็นโลกแห่งการเพาะปลูกส่วนอาคิเราะฮฺเป็นบ้านแห่งเดียวที่เราจะเก็บเกี่ยว  เราปลูกสิ่งที่ดีๆไว้เราก็เก็บเกี่ยวสิ่งที่ดีๆ  ถ้าเราปลูกสิ่งที่ไม่ดีไว้เราก็เก็บเกี่ยวผลในสิ่งที่ไม่ดี ในโลกนี้เราจึงมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติ  อัลลอฮฺ ได้ชี้แจงความดีในปรโลก ดังที่พระองค์ตรัสความว่า


بَلْ تُؤْثِرُونَ الْحَيَاةَ الدُّنْيَا ﴿١٦﴾ وَالْآخِرَةُ خَيْرٌ وَأَبْقَىٰ ﴿١٧﴾سورة الأعلى

"  ไม่ใช่หรอก เขาเลือกเอาชีวิตความเป็นอยู่ในโลกนี้เท่านั้นทั้งๆที่อาคิเราะฮฺนั้นเป็นสิ่งที่ดีกว่าและยั่งยืนกว่า" 

         ท่านพี่น้องที่เคารพครับถ้าเราคำนึงถึงดุนยานี้และไม่ลืมอาคิเราะฮฺด้วยก็นับว่าเป็นชัยชนะทั้งในโลกนี้และโลกอาคิเราะฮฺ  อัลกุรอ่านได้ส่งเสริมไว้ดังที่มีใจความว่า

 
وَابْتَغِ فِيمَا آتَاكَ اللَّـهُ الدَّارَ الْآخِرَةَ ۖ وَلَا تَنسَ نَصِيبَكَ مِنَ الدُّنْيَا ۖ وَأَحْسِن كَمَا أَحْسَنَ اللَّـهُ إِلَيْكَ ۖ
 وَلَا تَبْغِ الْفَسَادَ فِي الْأَرْضِ ۖ إِنَّ اللَّـهَ لَا يُحِبُّ الْمُفْسِدِينَ ﴿٧٧﴾سورة القصص

“เจ้าจงแสวงหาสิ่งที่อัลลอฮฺ  ได้ให้แก่เจ้าไว้ในอาคิเราะฮฺและจงอย่าได้ลืมส่วนของเจ้าในโลกดุนยา

 

          คือให้เรามีฐานะในโลกดุนยานี้  โดยไม่ได้ให้เราเป็นประชาชาติชั้นสองในโลกนี้  ไม่ได้ต้องการให้เราตกต่ำ  สำหรับคนที่รู้ผิดรู้ถูกแต่เขาก็ยังฝ่าฝืน  ก็มีคำเตือนไว้ในโอการของอัลลอฮฺ  มีใจความว่า


بَلْ تُؤْثِرُونَ الْحَيَاةَ الدُّنْيَا ﴿١٦﴾ وَالْآخِرَةُ خَيْرٌ وَأَبْقَىٰ ﴿١٧﴾سورة الأعلى

“ ไม่ใช่หรอกเขาเลือกเอาชีวิตความเป็นอยู่ในโลกนี้เท่านั้นทั้งๆที่อาคิเราะฮฺนั้นเป็นสิ่งที่ดีกว่าและยั่งยืนกว่า”


          ท่านพี่น้องครับส่วนผู้ที่มีความเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าของเขา  เขาจะยับยั้งจิตใจไม่ให้เป็นไปตามอำนาจฝ่ายต่ำ  แท้จริงสวรรค์นั้นเป็นที่อยู่ของเขา  นี่ก็เป็นการเตือนให้รู้ว่าอาคิเราะฮฺนั้นมีการตอบแทนทั้งความดีและความไม่ดี  ความดีคือสิ่งที่อิสลามได้ระบุไว้ว่าความดีนั้นคืออะไร  ในทัศนะของอัลลอฮฺ  

 ท่านร่อซูล  ได้สอนเราไว้ว่า

 
 “คนหนึ่งคนใดในพวกท่านอย่าได้ปรารถนาความตายเมื่อได้ประสบกับความเดือดร้อน แต่จงพูดว่า

ข้าแต่อัลลอฮฺ หากการมีชีวิตอยู่ของข้าพระองค์เป็นการดีกับข้าพระองค์ ก็โปรดทรงให้ข้าพระองค์มีชีวิตอยู่ต่อไป 

แต่ถ้าหากว่าพระองค์ทรงเห็นว่าการจากไปของข้าพระองค์เป็นการดีแก่ข้าพระองค์  ก็ขอให้พระองค์ให้ข้าพระองค์ได้สิ้นชีวิตด้วยเถิด” 


          เป็นการขอต่ออัลลอฮฺในการให้พระองค์ทรงเลือกให้เรา  จะให้เราตายหรือให้เรามีชีวิตอยู่  ฮะดีษนี้รายงานโดยอิหม่ามมุสลิม  และยังมีอีกฮะดีษหนึ่งที่ให้เราขอต่ออัลลอฮฺ  

 
“ ขอให้อัลลอฮฺ ให้การมีชีวิตของเรานั้นเป็นการเพิ่มพูนความดีให้แก่เรา 

และโปรดให้ความตายของเรานั้นเป็นความสะดวกสบายและเป็นความสงบแก่เรา”


          ส่วนการตายสบายที่เราพูดถึงก็หมายความว่าตายแล้วไปอยู่ในความโปรดปรานของอัลลอฮฺ  คนที่ฆ่าตัวตายก็เท่ากับเป็นการตายในสภาพที่เขาไม่ได้เป็นมุสลิม และต้องเข้านรกไม่ใช่เป็นการตายที่สบาย       การฆ่าตัวตายไม่ว่าจะเป็นการกระทำด้วยวิธีไหนก็ตามจะทำให้เขาต้องไปถูกทรมานในนรกด้วยวิธีนั้นตลอดไป  ทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในระดับใดก็ตามจะต้องประสบกับความตายอันนี้เป็นเรื่องที่แน่นอนเหลือเกิน    อัลลอฮฺ ได้ตรัสไว้ในซูเราะฮฺที่สามอายะฮฺที่185ว่า


كُلُّ نَفْسٍ ذَائِقَةُ الْمَوْتِ ۗ وَإِنَّمَا تُوَفَّوْنَ أُجُورَكُمْ يَوْمَ الْقِيَامَةِ ۖ فَمَن زُحْزِحَ عَنِ النَّارِ وَأُدْخِلَ الْجَنَّةَ فَقَدْ فَازَ ۗ
وَمَا الْحَيَاةُ الدُّنْيَا إِلَّا مَتَاعُ الْغُرُورِ﴿١٨٥﴾سورة آل عمران

แต่ละชีวิตนั้น จะได้ลิ้มรสแห่งความตาย และแท้จริงที่พวกเจ้าจะได้รับรางวัลของพวกเจ้าโดยครบถ้วนนั้น คือวันปรโลก

แล้วผู้ใดที่ถูกให้ห่างไกลจากไฟนรก และถูกให้เข้าสวรรค์แล้วไซร้ แน่นอน เขาก็ชนะแล้ว

และชีวิตความเป็นอยู่แห่งโลกนี้นั้น มิใช่อะไรอื่นนอกจากสิ่งอำนวยประโยชน์แห่งการหลอกลวง เท่านั้น”


 อัลลอฮฺตรัสว่า


قُلْ مَتَاعُ الدُّنْيَا قَلِيلٌ وَالْآخِرَةُ خَيْرٌ لِّمَنِ اتَّقَىٰ وَلَا تُظْلَمُونَ فَتِيلًا﴿٧٧﴾سورة النساء

“สิ่งที่อำนวยประโยชน์ใดดุนยานี้มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  และอาคิเราะฮฺนั้นเป็นสิ่งที่ดียิ่งสำหรับผู้ที่ยำเกรงแล้วเขาจะไม่ถูกอธรรมแม้แต่น้อย”
 

ท่านนบี   ยังได้สอนเราไว้อีกว่า

“จงหาโอกาสที่มีสภาพห้าอย่างก่อนที่จะมีสภาพห้าอย่างดังต่อไปนี้  

ท่านทั้งหลายจงหาโอกาสทำความดีขณะที่ท่านทั้งหลายกำลังมีเงินทองก่อนที่จะยากจน

ท่านทั้งหลายจงหาโอกาสทำความดีขณะที่ท่านทั้งหลายยังเป็นหนุ่มมีกำลังวังชาอย่างดีก่อนที่จะแก่ชราลง  

ท่านทั้งหลายจงหาโอกาสทำความดีขณะที่ท่านทั้งหลายยังมีสุขภาพที่ดีอยู่  แข็งแรง   ก่อนที่จะเจ็บไข้ได้ป่วยลง 

ท่านทั้งหลายจงหาโอกาสทำความดีในขณะที่ท่านยังมีเวลาว่างก่อนที่จะไม่ว่าง 

ท่านทั้งหลายจงหาโอกาสทำความดีในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่ก่อนที่ท่านทั้งหลายจะจากโลกนี้ไป”


          ท่านพี่น้องครับเมื่อท่านได้ทราบดังนี้แล้วควรเตรียมพร้อมไม่มีการผัดวันประกันพรุ่ง เป็นการเพิ่มพลังให้เรามุ่งหน้า ไม่ให้เราถอยหลัง  พึงสังวรและเตือนตัวเองไว้ว่าลูกหลานของอาดัมนั้นจะต้องกลับไปและถูกสอบสวน  ฮะดีษที่กล่าวมาทั้งหมดนี้รายงานโดยติรมีซีย์  แล้วท่านนบีมุฮัมมัด ยังสอนเราไว้อีกว่า 

 

“สองเท้าของลูกหลานของอาดัมจะไม่เคลื่อนย้ายไปจากที่    นอกจากเขาจะถูกสอบสวนถึงสี่ประการด้วยกัน 

นั่นก็คือการถามถึงอายุว่าที่เขามีอายุยืนยาวอยู่นั้นได้ใช้อายุนั้นไปอย่างไร  และถามถึงตอนหนุ่มสาวของเขาว่าได้ใช้ไปในหนทางใด 

และจะถูกสอบถามถึงทรัพย์สมบัติของเขาว่าได้มาจากไหนและใช้ไปในทางใดบ้าง  แล้วเขาได้ทำอะไรบ้างในความรู้ที่เขาได้ไปเรียนรู้มา” 

 
          ฮะดีษนี้เตือนให้เรารู้ว่าแม้แต่การอนุมัติเงินทองที่หามาได้เองซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของเราแต่ก็ต้องรับผิดชอบด้วย ต้องหามาด้วยวิธีที่ฮะล้าล  และใช้ไปในหนทางที่ถูกต้อง  จะปฏิเสธว่าไม่ได้เรียนรู้แล้วก็ไม่ต้องรับผิดชอบไม่ได้  ไม่เรียนรู้ก็เป็นความผิด    รู้แล้วไม่ทำตามวิชาที่ร่ำเรียนมาก็เป็นความผิดอีกเช่นเดียวกัน  อิสลามให้เราเรียนรู้เพื่อปฏิบัติ  เป็นการตระเตรียมเพื่อโลกหน้า 

อัลลอฮฺ   ตรัสความว่า


زُيِّنَ لِلَّذِينَ كَفَرُوا الْحَيَاةُ الدُّنْيَا وَيَسْخَرُونَ مِنَ الَّذِينَ آمَنُوا ۘ
وَالَّذِينَ اتَّقَوْا فَوْقَهُمْ يَوْمَ الْقِيَامَةِ ۗ وَاللَّـهُ يَرْزُقُ مَن يَشَاءُ بِغَيْرِ حِسَابٍ﴿٢١٢﴾سورة البقرة

“ชีวิตความเป็นอยู่ในดุนยาได้ถูกประดับประดาให้สวยงาม แต่บรรดาผู้ที่ปฏิเสธการศรัทธาและเขาเหล่านั้นจะเย้ยหยันบรรดาผู้ที่ศรัทธา

และบรรดาผู้ที่ยำเกรงอัลลอฮฺ นั้นจะมีฐานะเหนือพวกเขาในวันกิยามะฮฺ

 และอัลลอฮฺ นั้นจะประทานปัจจัยยังชีพแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์โดยมิอาจที่จะคำนวนได้”  

(อัลบะกอเราะฮฺ: 212)

ในวันอาคิเราะฮฺมนุษย์จะพบกับทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีการหลอกลวง  อัลลอฮฺได้แจ้งกับท่าน นบี  ว่า

“เจ้าจะได้เห็นบรรดาผู้ที่ทำความผิดก้มศีรษะลงไปยังพระเจ้าของพวกเขาพลางกล่าวว่า โอ้พระเจ้าของเรา เราเห็นแล้ว เราได้ยินแล้ว โปรดให้เรากลับไปมีชีวิตใหม่ได้ไหม

เพื่อเราจะได้กระทำในสิ่งที่ดีๆ  แท้จริงเราศรัทธาแล้ว เราแน่ใจในสิ่งนั้นแล้วว่าถูกต้องแต่ก็หมดโอกาสที่จะแก้ตัวได้  เพราะหมดโอกาสที่จะแก้ไขได้  ”

 
อัลลอฮฺ  ได้ทรงแจ้งล่วงหน้าไว้ให้เราทราบถึงบุคคลประเภทต่างๆ คนตายจะรู้ฐานะของเขาแต่พูดและเล่าให้ใครฟังไม่ได้  ดังฮะดีษที่ว่า

“คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่าน จะรู้ ฐานะ ของตนว่าเป็นชาวสวรรค์หรือว่าเป็นชาวนรก”

 อัลลอฮฺตรัสไว้ในซูเราะฮฺอัลวากิอะฮฺ  อายะฮฺที่83-85ว่า


فَلَوْلَا إِذَا بَلَغَتِ الْحُلْقُومَ ﴿٨٣﴾ وَأَنتُمْ حِينَئِذٍ تَنظُرُونَ﴿٨٤﴾ وَنَحْنُ أَقْرَبُ إِلَيْهِ مِنكُمْ وَلَـٰكِن لَّا تُبْصِرُونَ ﴿٨٥﴾
سورة الواقعة

“เมื่อชีวิตมาถึงลำคอจะออกจากร่างกาย  ขณะที่พวกเจ้ากำลังมองดูคนกำลังจะตายและมลาอีกะฮฺอยู่ใกล้เขายิ่งกว่าพวกเขาแต่พวกเจ้ามองไม่เห็นมลาอีกะฮฺ”

(ซูเราะฮฺอัลอันอามอายะฮฺที่  93)


 وَلَوْ تَرَىٰ إِذِ الظَّالِمُونَ فِي غَمَرَاتِ الْمَوْتِ وَالْمَلَائِكَةُ بَاسِطُو أَيْدِيهِمْ أَخْرِجُوا أَنفُسَكُمُ ۖ
 الْيَوْمَ تُجْزَوْنَ عَذَابَ الْهُونِ ...﴿٩٣﴾ سورة الأنعام

“หากพวกเจ้าจะได้เห็นขณะที่ผู้อธรรมจะสิ้นใจและมลาอีกะฮฺยื่นมือพวกเขาออกมาแล้วก็ได้พูดว่าจงเอาชีวิตของพวกเจ้าออกมาซิ

วันนี้พวกเจ้าจะได้รับการตอบแทนด้วยการลงโทษอันต่ำช้า” 

 

ข่าวดีสำหรับผู้ที่ศรัทธาและมีความมั่นคง  คืออัลลอฮฺ ได้ทรงแจ้งให้รู้ว่า  วันกิยามะฮฺนั้นเป็นวันแห่งชัยชนะของผู้ที่ศรัทธาดังที่พระองค์ได้บอกไว้ในซูเราะฮฺอัลฟัจริอายะฮฺที่  27-30


يَقُول يَا أَيَّتُهَا النَّفْسُ الْمُطْمَئِنَّةُ ﴿٢٧﴾ ارْجِعِي إِلَىٰ رَبِّكِ رَاضِيَةً مَّرْضِيَّةً ﴿٢٨﴾
فَادْخُلِي فِي عِبَادِي ﴿٢٩﴾ وَادْخُلِي جَنَّتِي ﴿٣٠﴾سورة الفجر

"โอ้ชีวิตที่สงบมั่นคงในศรัทธาเอ๋ยจงกลับไปหาพระเจ้าของเจ้าในฐานะของผู้ที่มีความยินดี เป็นที่ปิติยินดีเถิด

และจงเข้าไปอยู่ในบรรดาปวงบ่าวที่มีความศรัทธาของข้า และจงเข้าไปอยู่ในบรรดาสวนสวรรค์ของข้าเถิด" 

 

         อัลลอฮฺ ประทานอายะฮฺนี้ขณะที่ท่านร่อซูล  นั่งอยู่กับท่านอุมัร  ท่านอบูบักร  เวลาท่านร่อซูล อ่านอายะฮฺนี้ท่านอบูบักรพูดว่า สิ่งเหล่านี้ช่างสวยงดงามเสียเหลือเกิน 

         ท่านร่อซูลได้กล่าวว่า จะมีเสียงกล่าวแก่ท่านเช่นนี้เหมือนกันและทุกชีวิตที่ศรัทธามั่นคงยืนหยัดในหนทางของอัลลอฮฺด้วย 

เรื่องชีวิตที่มีความสงบนั้นอัลกุรอ่านได้แจ้งให้รู้ว่าผู้ใดที่ชีวิตของเขามีความสงบดังที่ได้กล่าวไว้ใน  ซูเราะฮฺอัรเราะดุอายะฮฺที่  28-29 ว่า


الَّذِينَ آمَنُوا وَتَطْمَئِنُّ قُلُوبُهُم بِذِكْرِ اللَّـهِ ۗ أَلَا بِذِكْرِ اللَّـهِ تَطْمَئِنُّ الْقُلُوبُ ﴿٢٨﴾ سورة الرعد

“บรรดาผู้ที่ศรัทธาและจิตใจของเขาสงบด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮฺ  พึงรู้ไว้เถิดว่าด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮฺ  นั้นจะทำให้จิตใจของเขาสงบลง” 


           เมื่อท่านนบีมุฮัมมัด  มีปัญหายุ่งยากใจท่านจะละหมาดเพื่อให้จิตใจสงบด้วยการรำลึกถึง   อัลลอฮฺ ในซูเราะฮฺอัรรออฺดุอายะฮฺที่  29 อัลลอฮฺ ตรัสว่า

 
الَّذِينَ آمَنُوا وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ طُوبَىٰ لَهُمْ وَحُسْنُ مَآبٍ ﴿٢٩﴾ سورة الرعد

“บรรดาผู้ศรัทธาและประกอบการดีนั้นความสุขย่อมเป็นของเขาและเป็นการกลับไปหาอัลลอฮฺที่ดียิ่ง”

และในซูเราะฮฺอันนะฮฺลุอายะฮฺที่  32 อัลลอฮฺ  ตรัสว่า


الَّذِينَ تَتَوَفَّاهُمُ الْمَلَائِكَةُ طَيِّبِينَ ۙ يَقُولُونَ سَلَامٌ عَلَيْكُمُ ادْخُلُوا الْجَنَّةَ بِمَا كُنتُمْ تَعْمَلُونَ ﴿٣٢﴾سورة النحل

“แท้จริงบรรดาผู้ที่มลาอีกะฮฺได้รับชีวิตเขาไปในฐานะที่เขาเป็นคนดีนั้นบรรดามลาอีกะฮฺจะกล่าวกับเขาว่า

ขอความปลอดภัยจงมีแด่ท่านเถิด จงเข้าสวรรค์เนื่องมาจากความดีของพวกท่านที่แล้วมา” 

          วันแรกแห่งการตายและถูกฝังนั้นถือว่าอยู่ในอาลัมบัรซัค  รอการฟื้นจนกระทั่งถึงวันฟื้นคืนชีพ  ฮะดีษนี้มีรายงานโดยท่านอุซมานอิบนุอัฟฟานว่ากุโบรนั้นจะเป็นสถานที่แรกแห่งวันปรโลกและเป็นเขตที่เราก้าวไปสู่โลกอาคิเราะฮฺ  ในซูเราะฮฺอัลบะกอเราะฮฺอายะฮฺที่254 อัลลอฮฺ ตรัสว่า


 يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا أَنفِقُوا مِمَّا رَزَقْنَاكُم مِّن قَبْلِ أَن يَأْتِيَ يَوْمٌ لَّا بَيْعٌ فِيهِ وَلَا خُلَّةٌ وَلَا شَفَاعَةٌ ۗ
وَالْكَافِرُونَ هُمُ الظَّالِمُونَ ﴿٢٥٤﴾ سورة البقرة

ผู้ศรัทธาทั้งหลายจงบริจาคส่วนหนึ่งจากที่เราได้ประทานปัจจัยยังชีพให้แก่พวกเจ้า ก่อนที่วันหนึ่งจะมายังพวกเจ้า

ซึ่งเป็นวันที่ไม่มีการแลกเปลี่ยน  ไม่มีมิตรภาพต่อกัน  ไม่มีการขอความช่วยเหลือจากผู้ใด และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธการศรัทธาก็คือผู้ที่อธรรมต่อตัวเองนั่นเอง”

ในซูเราะฮฺยูนุสอายะฮฺที่ 49 อัลลอฮฺ ตรัสว่า


إِذَا جَاءَ أَجَلُهُمْ فَلَا يَسْتَأْخِرُونَ سَاعَةً ۖ وَلَا يَسْتَقْدِمُونَ ﴿٤٩﴾ سورة يونس

เมื่อความตายมาถึงเขาไม่สามารถที่จะขอเลื่อนออกไปได้  หรือว่าเลื่อนให้เร็วขึ้นมาได้  พระดำรัสของอัลลอฮฺ ได้กล่าวว่า

เมื่อกำหนดวาระแห่งความตายของพวกเขาได้มาถึง พวกเขาไม่สามารถเลื่อนเวลาออกไปให้ช้าแม้เพียงสักชั่วโมงเดียว  หรือจะรีบเร่งให้ถึงก่อนก็ไม่ได้”


           ท่านพี่น้องที่เคารพ เรื่องความตายและเรื่องปรโลกเป็นสิ่งที่เร้นลับ  เราไม่สามารถนำมาพูดได้ถ้าไม่มีหลักฐานจากอัลกุรอ่านและวจนะของท่านร่อซูล เราจะรู้เรื่องนี้ก็จากหลักฐานของอัลกุรอ่านและหลักฐานจากฮะดีษของท่านนบีมุฮัมมัด ได้กล่าวไว้  ขอให้เราศรัทธาว่าที่ท่านร่อซูล ได้บอกเรามานั้นเป็นความจริง   ในซูเราะฮฺที่ 41 อายะฮฺที่30-31 อัลลอฮฺ ตรัสไว้ว่า


إِنَّ الَّذِينَ قَالُوا رَبُّنَا اللَّـهُ ثُمَّ اسْتَقَامُوا تَتَنَزَّلُ عَلَيْهِمُ الْمَلَائِكَةُ أَلَّا تَخَافُوا وَلَا تَحْزَنُوا وَأَبْشِرُوا بِالْجَنَّةِ الَّتِي كُنتُمْ تُوعَدُونَ ﴿٣٠﴾ نَحْنُ أَوْلِيَاؤُكُمْ فِي الْحَيَاةِ الدُّنْيَا وَفِي الْآخِرَةِ ۖ وَلَكُمْ فِيهَا مَا تَشْتَهِي أَنفُسُكُمْ
وَلَكُمْ فِيهَا مَا تَدَّعُونَ ﴿٣١﴾ سورة فصلت

“แท้จริงบรรดาผู้ที่กล่าวว่าพระเจ้าของเรานั้นคืออัลลอฮฺ และเขาได้ดำรงไว้ซึ่งการกล่าวของเขาในขณะที่เขาตาย

บรรดามลาอีกะฮฺจะลงมาแล้วบอกพวกเขาว่า พวกท่านทั้งหลายอย่ากลัว  อย่าได้เสียใจ  และจงภูมิใจกับสวรรค์ที่ได้ถูกเตรียมไว้สำหรับพวกท่าน

และเรานั้นเป็นมิตรของพวกท่านทั้งในดุนยาและ   อาคิเราะฮฺ  และในวันปรโลกนั้นพวกท่านจะได้รับสิ่งทั้งหลายที่ท่านปรารถนา

และในสวนสวรรค์ท่านจะได้รับตามที่ท่านทั้งหลายได้เรียกร้อง

  
            ท่านพี่น้องที่เคารพครับมีหลายฮะดีษรายงานว่ามีอยู่สามประการที่มลาอีกะฮฺจะกล่าวคำข้างต้นนี้คือ

1. เมื่อมลาอีกะฮฺจะมารับวิญญาณขณะที่พวกเราจะตาย

2.  เมื่อมลาอีกะฮฺสอบถามเราในกุโบร

3. วันกิยามะฮฺ  เมื่อวันฟื้นคืนชีพมาถึงก็นับเป็นรางวัลให้เรามั่นใจว่า  ถ้าเราทำความดีไม่ต้องกลัวอะไรต่างๆทั้งหมด

 

           ฮะดีษศ่อเฮี้ยะหลายรายงานทั้งหมดเช่นดาวูด  อะฮฺหมัด  อันนะซาอีย์ได้แจ้งไว้ว่า  ผู้ตายเป็นคนดีหรือไม่ก็ตาม  มัยยัตจะอยู่ที่บ้านนานหรือไม่ก็ตาม  มลาอีกะฮฺได้เอาวิญญาณเขาไปสู่ชั้นฟ้าแล้ว  ขณะที่มัยยิตยังไม่ได้ไปถึงกุโบรด้วยซ้ำไป  เพราะฉะนั้นจะรีบเอาไปหรือว่าจะอยู่ที่บ้านนานๆก็ไม่ต้องห่วง เพราะว่ามลาอีกะฮฺได้เอารูฮฺไปแล้ว 

“ท่านนบีมุฮัมมัด อนุญาติให้เยี่ยมกุโบรได้เพื่อให้รำลึกถึงความตาย  ห้ามนั่งในกุโบรหรือยืนทับหลุมฝังศพ”

 

คุตบะฮ์วันศุกร์  มีสยิดดารุลอิห์ซาน