ผู้ศรัทธา คือ ผู้ที่พบกับความสุขอันแท้จริง
อัลลอฮ์ ตรัสไว้มีความว่า
“ และสิ่งใดที่พวกเจ้าได้รับนั้นเป็นเพียงการสนุกสนานเพลิดเพลินแห่งชีวิตของโลกนี้เท่านั้น
แต่สิ่งที่มีอยู่ ณ ที่อัลลอฮฺนั้น ดีกว่าและจีรังกว่า สำหรับบรรดาผู้ศรัทธา
และพวกเขามอบหมายไว้วางใจแด่พระเจ้าของพวกเขา
และบรรดาผู้ที่หลีกเลี่ยงการทำบาปใหญ่และการทำลามก และเมื่อพวกเขาโกรธพวกเขาก็อภัยให้”
ซูเราะฮ์ อัซซูรอ: 36-37
จากความหมายของโองการของพระองค์อัลลอฮ์ ดังกล่าวคือ อันความกรุณาปราณีในรูปแบบของวัตถุที่พระเจ้าได้มอบให้มนุษย์นั้นมากมาย ไม่เป็นการประหลาดอะไรที่คนที่ร่ำรวยอยู่แล้วยิ่งร่ำรวยเพิ่มขึ้นอีก คนที่อุดมสมบูรณ์อยู่แล้วก็ยิ่งเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ขึ้นอีก คนที่ยากจนก็กลายเป็นคนร่ำรวย คนที่ลำบากก็ได้รับความสุขสบาย เพราะมีโอกาสใหม่ๆที่จะสร้างความร่ำรวยได้ การแข่งขันกันในการหาผลประโยชน์ สร้างความร่ำรวย กอบโกยและตักตวง เอาความสุขสบายด้านวัตถุนั้น นับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น จนกระทั่งมีการทุ่มเทพลังทั้งหมดเพื่อสิ่งดังกล่าว แต่อย่างไรก็ดี สิ่งที่เราควรจะสำนึกอยู่เสมอนั้นก็คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราได้รับอยู่นั้น ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทอง ความสุขสบาย ล้วนเป็นความกรุณาปราณีของพระองค์อัลลอฮ์ ทั้งสิ้น
มนุษย์ถูกเตือนให้ทราบว่า ความกรุณาปราณีของอัลลอฮ์ ในรูปแบบของความร่ำรวย ความสุขสบายและเกียรติยศเหล่านั้นเป็นความสุขสบายชั่วระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น สำหรับชีวิตในโลกอันชั่วคราวนี้จะหาความจีรังยั่งยืนไม่ได้ทั้งหมดนั้นอยู่ในลักษณะชั่วคราวเท่านั้น
ชีวิตในโลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งทดสอบนานาชนิด และเป็นช่วงเวลาที่แสนสั้น ทุกคนจะต้องกลับไปหาพระเจ้า ทิ้งทรัพย์สมบัติและความร่ำรวยตลอดจนตำแหน่งหน้าที่และเกียรติยศต่างๆไว้เบื้องหลัง
ด้วยเหตุดังกล่าวมนุษย์ได้ถูกเตือนให้ทราบว่า สิ่งตอบแทนของพระองค์อัลลอฮ์ ในรูปแบบของความสุขอันนิรันดรนั้นกำลังรอท่านอยู่ ณ วันอาคิเราะฮ์หรือวันปรโลก ซึงเป็นความสุขที่ถาวรกว่า เป็นความสุขที่มั่นคง และนิรันดรไม่มีวันสิ้นสุด การที่มนุษย์ได้สูญเสียผลประโยชน์ต่างๆในโลกนี้อันเป็นสิ่งชั่วคราวนั้น ย่อมเป็นของธรรมดา ไม่ควรจะไปเสียใจ หน้าที่ของมนุษย์ก็คือการแสวงหาความสุขวันอาคิเราะฮ์
ส่วนความสุขแห่งอาคิเราะฮ์นั้นถูกเตรียมไว้สำหรับตอบแทนผู้ศรัทธา มีอีมาน มอบกายใจแด่พระบัญชาของพระองค์อัลลอฮ์ พร้อมกับปฏิบัติตามข้อใช้ และหลีกห่างจากข้อห้ามของศาสนาอย่างเด็ดขาด และพร้อมที่จะให้อภัยเสมอหากมีอะไรทำให้เขาบันดาลโทสะขึ้น
สรุปแล้วผู้ที่จะลิ้มรสแห่งความสุขนิรันดรดังกล่าวนั้น ได้แก่กลุ่มชนที่รักพระเจ้า ปฏิบัติตามคำบัญชาของพระองค์ทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจและซื่อสัตย์ ยึดเอาสัจธรรมคำสอนของอิสลามเป็นธรรมนูญแห่งชีวิต ด้วยเหตุดังกล่าว ความภาคภูมิใจในความร่ำรวย ความสุขสบาย เกียรติยศในโลกนี้นั้น เป็นภาพลวงตาที่หาแก่นสารอะไรไม่ได้เลย เพราะทุกอย่างนั้นเราจะต้องทิ้งมันไว้เบื้องหลังไม่วันใดก็วันหนึ่งเป็นแน่
โอ้ ! อัลลอฮ์ ผู้เป็นที่รักยิ่ง โปรดให้เรามีชีวิตอยู่ และกลับสู่พระองค์ในฐานะมุสลิมด้วยเถิด อามีน......
คัดจากวารสารสายสัมพันธ์ (อัร-รอบิเฏาะฮ์)