10 วิธีปฏิบัติเพื่อเป็นผู้ภักดีของพระองค์อัลลอฮฺ
คำถาม
มีข้อปฏิบัติออย่างไรบ้าง ?
- เพื่อที่ผมจะได้ควบคุมอารมณ์ใฝ่ต่ำได้
- เพื่อที่ผมจะได้จูบมือของแม่ทุกวัน
- เพื่อที่ผมจะได้ห่างไกลจากการถูกล่อลวงของชัยฏอน
- เพื่อที่ผมจะได้รักบรรดาพี่น้องของผม
- เพื่อที่ความศรัทธาของผมจะเพิ่มขึ้น
- เพื่อที่ผมจะได้เข้าไปพำนักในสวนสวรรค์
- เพื่อที่พระองค์อัลลอฮฺ จะทรงเรียกผมว่าเป็น “บ่าวผู้ภักดีของฉัน” ในวันแห่งการตอบแทน (อินชาอัลลอฮฺ)
บรรดาการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์แด่พระองค์อัลลอฮฺ
คำตอบ
เราขอวิงวอนต่อพระองค์อัลลอฮฺ ได้โปรดประทานความมั่นคงในความศรัทธาที่ถูกต้องและโปรดให้ความหวังของคุณเป็นความจริง และโปรดให้คุณได้เป็นคนหนึ่งในบรรดาผู้ศรัทธาที่ได้คืนกลับไปสู่พระองค์ในสภาพของการมีความมั่นคง ผู้ที่ต่อสู้อยู่ในหนทางของอิสลาม และมีความศรัทธาที่ถูกต้อง
สิ่งที่คุณได้กล่าวมาในคำถามนั้น ได้แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนที่มีสติปัญญาและมีจิตใจที่ดี และมีความหวังดีต่อผู้อื่นในสิทธิที่เขาควรจะได้รับ ซึ่งความศรัทธานั้นจะทำให้คุณประสบกับสิ่งที่หวังเอาไว้ ดังรายงานจากท่านซุฟยาน อัล-ตะฮฺรี ได้กล่าวเอาไว้ว่า
“ความศรัทธานั้นไม่ใช่ความปรารถนาหรือการปฏิบัติที่เสแสร้ง หากแต่เป็นสิ่งที่อยู่ในหัวใจและสัมผัสได้จากการกระทำ”
ดังนั้นในหัวข้อนี้ เราจะทำการพิจารณาถึงรูปแบบของความศรัทธา และความสำคัญของความศรัทธาที่จะนำมาซึ่งการเป็นบ่าวที่ดีของอัลลอฮฺ การกระทำที่ดีและให้เกียรติต่อบิดามารดา และหนทางที่จะทำให้เราได้เข้าสู่สวนสวรรค์ของพระองค์ สิ่งหนึ่งที่เราจะกล่าวถึงคือ
“บุคคลใดก็ตาม ที่แสวงหาความสำเร็จในสิ่งที่ดีงามแล้ว เขาจะต้องทำการเคารพภักดีต่อพระองค์อัลลอฮฺ ในเวลาค่ำคืน”
ซึ่งท่าน อัล-ฟุดดาล ได้กล่าวเอาไว้ว่า
“หัวใจของผู้คนนั้น จะไม่เคยได้ลิ้มรสกับความหอมหวานของศรัทธา จนกว่าพวกเขาจะเลิกหลงกับความสุขของโลกนี้”
และท่านก็ได้กล่าวเอาไว้ว่า
“ถ้าคุณไม่สามารถที่จะทำการยืนละหมาดในเวลาค่ำคืน (กิยามุลลัย) และไม่ทำการถือศีลอดในเวลากลางวันแล้ว
คุณก็จะไม่ได้สัมผัสกับความหอมหวานของความศรัทธา”
ผู้ศรัทธาที่มีความบริสุทธิ์ใจนั้นจะมีหัวใจที่คล้ายกับถ่านที่กำลังเผาไหม้ ซึ่งรายงานโดยท่าน อัล-ฮากีม (ในMustadrak และ al-Tabaraani ใน Mu’jam) ซึ่งเป็นซอเฮี้ยะอีสนาด ว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ได้กล่าวเอาไว้ว่า
“ความศรัทธาในหัวใจนั้นคล้ายกับเสื้อผ้าที่ท่านสวมใส่ ดังนั้นท่านจงวิงวอนขอต่อพระองค์อัลลอฮฺ ให้ทรงเปลี่ยนหัวใจที่มีศรัทธาที่ดีแก่ท่านเถิด”
ท่านนบี ได้ยกตัวอย่างของหัวใจว่า บางครั้งหัวใจของผู้ศรัทธานั้นอาจถูกปกคลุมไปด้วยความชั่ว ซึ่งท่านได้กล่าวเอาไว้ว่า
“ไม่มีหัวใจดวงใดที่จะปราศจากการปกคลุมด้วยความชั่ว เสมือนกับดวงจันทร์ที่มักจะมีเมฆมาบดบังเสมอ
ซึ่งเมื่อมีเมฆมาบดบังดวงจันทร์แล้ว ความมืดก็จะเกิดขึ้น แต่เมื่อก้อนเมฆได้เคลื่อนตัวออกไปแล้ว ความสว่างก็จะเข้ามาแทนที่ความมืด”
(รายงานโดยอัล-ต็อบบะรอนี ในอัล-อัสวัต และคณะรายงานฮะดีซอเฮียะ โดยอัล-อัลบานี)
ดังนั้นหัวใจของผู้ศรัทธานั้น ในบางเวลาก็จะมีความชั่วซึ่งจะบดบังความดีงามอยู่ และความชั่วนั้นก็จะยังคงอยู่ จนกว่าผู้ศรัทธาจะต่อสู้กับความชั่วนั้นด้วยกับการเพิ่มพูนของความศรัทธาที่มี พร้อมทั้งวิงวอนขอความช่วยเหลือจากพระองค์อัลลอฮฺ ซึ่งจะส่งผลให้ช่วยขจัดความชั่วที่ปกคลุมอยู่ในหัวใจออกไปได้ และหัวใจนั้นก็จะมีแสงสว่างกลับคืนมาอีกครั้ง
ดังคำกล่าวของชาวสลัฟคนหนึ่งที่ได้บอกว่า
“รูปแบบหนึ่งของคนที่ฉลาดนั้นก็คือ การที่เขาคอยตรวจสอบความศรัทธาของเขาและเขาระวังสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับหัวใจของเขา”
และอีกรูปแบบหนึ่งของคนที่ฉลาดก็คือ
“เขาจะต้องรู้ว่าสิ่งใด คือ การกระทำที่เกิดขึ้นมาจากการถูกล่อลวงของชัยฏอน”
ดังนั้นคุณจะต้องกลับมาตรวจสอบความศรัทธา ถ้าคุณทำในสิ่งที่ความศรัทธานั้นใช้ให้ทำ แน่แท้คุณก็จะประสบกับความสำเร็จเป็นบ่าวผู้ภักดีดังที่ต้องการ
เราจะขอบอกคุณเกี่ยวกับหลักการขั้นพื้นฐานซึ่งจะเป็นสิ่งที่แยกระหว่าง การมีศรัทธาและการไม่มีศรัทธา ซึ่งท่านอิหม่ามอิบนฺ อัล-ญาวซี ได้กล่าวเอาไว้ว่า
“โอ้..บุคคลผู้ที่หันหลังกลับ โอ้..บุคคลผู้ที่ไม่ต้องการพบกับผู้เป็นเจ้า หากท่านต้องการจะรู้ว่าสิ่งที่ท่านได้ขาดไปนั้นคืออะไร ก็ขอให้ท่านลองนึกถึง วันที่กลุ่มชนหนึ่งได้เข้าเฝ้ากษัตริย์ เพื่อนำเสนอผลงานที่กษัตริย์ได้มอบหมายให้แก่พวกเขา ท่านคิดว่าจะมีซักกี่คนที่กษัตริย์จะรู้สึกพึงพอใจ และให้เขาได้มีโอกาสได้เข้ามาใกล้ชิดพระองค์ แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสได้รับเกียรติหรือได้รับความรักจากกษัตริย์ เช่นเดียวกับสายลมทุกสาย ที่ไม่ได้พัดแผ่นเบาเหมือนกับสายลมในยามเช้า”
เช่นเดียวกัน หากผู้คนต้องการที่จะรู้ได้ว่า เขาจะได้ยืนเข้าเฝ้าต่อพระองค์อัลลอฮฺ อย่างไร ก็ให้เขาลองมองไปยังตัวของเขาเองและพิจารณาถึงสิ่งที่เขาได้เคยปฏิบัติมาก่อน ว่าเขาได้ยืนหยัดต่อคำสั่งใช้ของพระองค์อัลลอฮฺ และบรรดานบีอย่างไร !
ถ้าชีวิตของเขานั้นสาระวนอยู่กับดะวะฮฺและคอยปกป้องผู้คนให้ห่างไกลจากไฟนรก พยายามปฏิบัติในสิ่งที่จะทำให้ได้เข้าสู่สวนสวรรค์ คอยช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอและมีความยากจน ให้เกียรติต่อบิดามารดา หากปฏิบัติในสิ่งเหล่านี้ ก็จงยินดีต่อความจริงที่ว่า เขานั้นจะได้เข้าใกล้พระองค์อัลลอฮฺ ผู้ที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าบรรดากษัตริย์ใด ๆ แล้ว และการช่วยเหลือของพระองค์นั้นก็จะทรงมีให้เฉพาะกับผู้ที่พระองค์ทรงรัก
แต่ถ้าหากว่าคุณไม่ได้สนใจต่อการดะวะฮฺ ไม่ชอบแนะนำตักเตือนผู้คนและไม่ปฏิบัติในสิ่งที่ดีงาม และการงานที่ได้เคยปฏิบัติมาแล้ว ล้วนเป็นกิจการงานของโลกนี้และมีแต่การสะสมทรัพย์สมบัติ พฤติกรรมที่มีแต่การนินทา การถกเถียงอย่างมากมาย ไม่ปฏิบัติในสิ่งที่ควรจะทำ นั่นก็แสดงว่าคุณได้ห่างไกลจากอัลลอฮฺ และสิ่งที่จะทำให้คุณได้ใกล้กับสวนสวรรค์แล้ว เพราะ อัลลอฮฺ ได้ตรัสไว้ในกุรอ่านว่า
“ผู้ใดปรารถนาชีวิตชั่วคราว (ในโลกนี้) เราก็จะเร่งให้เขาได้รับมัน ตามที่เราประสงค์แก่ผู้ที่เราปรารถนา
แล้วเราได้เตรียมนรกไว้สำหรับเขา เขาจะเข้าไปอย่างถูกเหยียดหยามถูกขับไส”
(ซูเราะฮฺอัล-อิสรอ 17:18)
“และผู้ใดปรารถนาปรโลก และขวนขวายเพื่อมันอย่างจริงจัง โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธาชนเหล่านั้น การขวนขวายของพวกเขาจะได้รับการชมเชย”
(ซูเราะฮฺอัล-อิสรอ 17:19)
โอ้พี่น้องของฉัน ! หากท่านต้องการที่จะมีตำแหน่งที่สูงด้วยการกระทำความดีในทุกๆ รูปแบบ เพื่อจะเป็นบ่าวที่ดีของพระองค์อัลลอฮฺ และต้องการที่จะให้เกียรติแก่บิดามารดาของท่าน และต้องการที่จะได้พำนักอยู่ในสวนสวรรค์ ก็ขอให้พึงปฏิบัติตามหัวข้อดังต่อไปนี้
1. จงทำให้ศรัทธาเกิดขึ้นในหัวใจของคุณ
ความศรัทธาเป็นสิ่งที่จะนำมาซึ่งทุกๆสิ่งที่มุสลิมนั้นแสวงหา ซึ่งสิ่งที่จะทำเกิดศรัทธาขึ้นในหัวใจนั้น มีมากมายและหลากหลาย รวมถึงการปฏิบัติอิบาดะฮฺอย่างมากมายและการกระทำให้สิ่งที่ถูกต้อง ความศรัทธานั้นจะเป็นกุญแจสำหรับทุก ๆ การกระทำที่ดีและเป็นตัวปิดล็อคประตูของทุก ๆ ความชั่วร้าย ซึ่งความศรัทธานั้นจะให้มุสลิมได้รับในสิ่งที่เขาแสวงหาทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า
2. คุณจะต้องมีความบริสุทธิ์ใจต่อพระองค์อัลลอฮฺ ดังมีรายงานว่า
“ถ้าบ่าวของฉันมาหาฉันด้วยความบริสุทธิ์ใจทั้งการกระทำและเจตนาแล้ว ฉันก็จะมอบความรักและความเมตตาของฉันกลับไปยังหัวใจของเขาคนนั้น”
ซึ่งพระองค์อัลลอฮฺนั้น ได้ทรงทำให้การภักดีเป็นเป้าหมายสูงสุดและเป็นวัตถุประสงค์สูงสุดของมนุษย์ ดังอายะในอัลกุรอ่านว่า
“และข้ามิได้สร้างญินและมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า”
(ซูเราะฮฺอัซซาริยาต 51:56)
3. ตั้งเป้าหมายในการดำเนินชีวิตในระดับที่สูงที่สุดเสมอ
และทำให้เป้าหมายในการมีชีวิตของคุณนั้นเป็นไปเพื่อแสวงหาความพึงพอใจจากพระองค์อัลลอฮฺและพยายามต่อสู้ให้ได้มาซึ่งสวนสวรรค์ หรือสวรรค์ชั้นฟิรเดาซ์ และจะต้องใช้ความพยายามให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอันสูงสุดนี้
4. ดำเนินชีวิตตามรูปแบบของบุคคลต่าง ๆ ในประวัติศาสตร์อิสลาม ไม่ว่าจะเป็นบรรดาซอฮาบะฮฺ ตอบิอีน และบรรดาบรรพบุรุษที่อยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง (ชาวสลัฟ)
5. ใช้เวลาส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเวลาในช่วงนาทีหรือชั่วขณะหนึ่ง หรือแม้แต่ในทุก ๆ การเต้นของหัวใจ ให้หมดไปในหนทางที่จะทำให้ความศรัทธาเพิ่มมากขึ้น
6.พยายามที่จะเลือกคบเพื่อนที่เป็นคนดี เป็นผู้ศรัทธาที่อยู่ในหนแนวทางที่ถูกต้อง เพราะท่านนบี ได้กล่าวเอาไว้ว่า
“บุคคลนั้นจะปฏิบัติศาสนาตามเพื่อนที่ใกล้ชิดของเขา ดังนั้นถ้าท่านต้องจะทราบถึงศาสนาของบุคคลใด ก็ให้ท่านพิจารณาดูศาสนาจากเพื่อนของเขาเถิด”
7. ทำแต่สิ่งที่ดีงามให้มาก ซึ่งเป็นสิ่งที่จะนำมาซึ่งความสุขในโลกนี้และในโลกหน้า
8. ทำการละหมาดในยามค่ำคืน ขอดุอาในช่วงเวลาก่อนรุ่งอรุณ ดังที่ท่านนบี ได้ยืนละหมาดจนกระทั่งเท้าของท่านบวม ก็เนื่องมาจากการที่ท่านต้องการที่จะเป็นบ่าวที่ขอบคุณต่อพระองค์อัลลอฮฺ ทั้ง ๆ ที่พระองค์อัลลอฮฺ ได้ทรงอภัยให้กับบรรดาความผิดบาปของท่านหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความผิดที่ได้กระทำมาก่อนหน้านี้และความที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง
9. ดำรงไว้ซึ่งการอ่านบางส่วนของคัมภีร์อัลกุรอ่านในทุก ๆ วัน และทำการระลึกถึงพระองค์อัลลอฮฺ ซึ่งจะช่วยทำให้คุณคิดและพิจารณาถึงความหมายของอัลกุรอ่าน
10. พยายามเผยแพร่ และทำการดะวะฮฺศาสนาของพระองค์อัลลอฮฺ และทำงานเพื่ออิสลามให้มากเท่าที่คุณจะสามารถทำได้
ถ้าคุณต้องการที่บรรลุถึงตำแหน่งการเป็นบ่าวที่ดีของพระองค์อัลลอฮฺตราบเท่าที่คุณยังมีลมหายใจอยู่แล้ว ก็ขอให้คุณปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของพระองค์อัลลอฮฺ ที่ได้ตรัสกับท่านนบี ดังอายะในอัลกรุอ่านนี้เถิด
“จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่า แท้จริงการละหมาดของฉัน และการอิบาดะฮ์ ของฉัน และการมีชีวิตของฉัน
และการตายของฉันนั้นเพื่ออัลลอฮฺผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลกเท่านั้น”
(ซูเราะฮฺอัล-อันอาม 6:162)
ดังนั้นการเป็นบ่าวที่ดีของพระองค์อัลลอฮฺ จึงหมายถึง การที่เรายืนยันว่าเราจะภักดีเฉพาะพระองค์อัลลอฮฺ เท่านั้น ด้วยกับการปฏิบัติตนตามอายะอัลกุรอ่านข้างต้น ด้วยกับการมีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์ และทุก ๆ การงานนั้นกระทำไปเพื่อพระองค์อัลลอฮฺ พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก การจะประสบกับความสำเร็จในการที่จะเป็นบ่าวที่ดีของพระองค์อัลลอฮฺนั้น จะเกิดขึ้นมาได้จากการทำการเคารพภักดีเฉพาะต่อพระองค์อัลลอฮฺเท่านั้น ซึ่งเป็นการภักดีต่อพระองค์ในทุกขณะเวลา ไม่ว่าจะเป็นการมีชีวิตอยู่ หรือการจะเสียชีวิต ก็เป็นไปเพื่อพระองค์อัลลอฮฺเท่านั้น
ดังนั้นการพูดของเรา ก็จะเป็นการพูดเพื่อแสวงหาความพึงพอใจจากพระองค์
การกระทำของเรา ก็จะเป็นการกระทำเพื่อแสวงหาความพึงพอใจจากพระองค์
เจตนาของเราในทุก ๆ คำพูดและการกระทำ ก็จะมีเจตนาเพื่อพระองค์เท่านั้น
ซึ่งการเคารพภักดีนั้น ไม่ได้หมายถึงเฉพาะการก้มลงกราบขณะละหมาดในเวลาใดๆ หรือเป็นการบริจาคจำนวนเงินเล็กๆน้อยๆ หรือเป็นการถือศีลอดในบางวันของแต่ละปี หรือเป็นการกล่าวรำลึกถึงพระองค์อัลลอฮฺ ด้วยถ้อยคำเท่านั้น หากแต่การกระทำที่จะทำให้ได้มาซึ่งตำแหน่งบ่าวผู้ภักดีนั้น เป็นรูปแบบการกระทำที่มากมาย หลากหลายซึ่งขึ้นอยู่กับวิถีชีวิตและสถานที่ที่แต่ละคนกำลังดำรงชีวิตอยู่ สิ่งนี้ถือเป็นความเมตตาจากพระองค์ที่ทรงประทานให้กับผู้คนในการจะปฏิบัติการเคารพภักดีต่อพระองค์
คุณเพียงแต่มองดูในทุก ๆ การกระทำหรือในทุก ๆ สถานที่หรือทุก ๆ เวลาของคุณ หากการกระทำต่าง ๆ ของคุณนั้น จะนำมาซึ่งความพึงพอใจจากพระองค์อัลลอฮฺและคิดว่าการกระทำเหล่านั้นเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงต้องการจะเห็นจากคุณ นั่นก็แสดงว่า คุณเป็นบ่าวผู้ภักดีแล้ว
สุดท้ายนี้ เราวิงวอนขอต่อพระองค์อัลลอฮฺ ทรงตอบรับการงานที่ดีของพวกเราและของท่าน และได้ทรงเมตตารวบรวมเราและท่านให้ได้อยู่ร่วมกับบรรดานบี และบรรดาเพื่อนที่ดีของบรรดานบี และบรรดาผู้ที่อยู่ในแนวทางอันเที่ยงตรงด้วยเทอญ.......อามีน
ที่มา http://www.islamqa.com/en/ref/34306
แปลโดย นูรุ้ลนิซาอฺ