10 วิธีปฏิบัติเพื่อเป็นบ่าวผู้ภักดีของพระองค์อัลลอฮฺ
  จำนวนคนเข้าชม  21296

10 วิธีปฏิบัติเพื่อเป็นผู้ภักดีของพระองค์อัลลอฮฺ


คำถาม

 มีข้อปฏิบัติออย่างไรบ้าง ?
- เพื่อที่ผมจะได้ควบคุมอารมณ์ใฝ่ต่ำได้
- เพื่อที่ผมจะได้จูบมือของแม่ทุกวัน
- เพื่อที่ผมจะได้ห่างไกลจากการถูกล่อลวงของชัยฏอน
- เพื่อที่ผมจะได้รักบรรดาพี่น้องของผม 
- เพื่อที่ความศรัทธาของผมจะเพิ่มขึ้น 
- เพื่อที่ผมจะได้เข้าไปพำนักในสวนสวรรค์ 
- เพื่อที่พระองค์อัลลอฮฺ จะทรงเรียกผมว่าเป็น “บ่าวผู้ภักดีของฉัน” ในวันแห่งการตอบแทน (อินชาอัลลอฮฺ)


บรรดาการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์แด่พระองค์อัลลอฮฺ


คำตอบ

          เราขอวิงวอนต่อพระองค์อัลลอฮฺ ได้โปรดประทานความมั่นคงในความศรัทธาที่ถูกต้องและโปรดให้ความหวังของคุณเป็นความจริง  และโปรดให้คุณได้เป็นคนหนึ่งในบรรดาผู้ศรัทธาที่ได้คืนกลับไปสู่พระองค์ในสภาพของการมีความมั่นคง ผู้ที่ต่อสู้อยู่ในหนทางของอิสลาม และมีความศรัทธาที่ถูกต้อง

สิ่งที่คุณได้กล่าวมาในคำถามนั้น  ได้แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนที่มีสติปัญญาและมีจิตใจที่ดี  และมีความหวังดีต่อผู้อื่นในสิทธิที่เขาควรจะได้รับ  ซึ่งความศรัทธานั้นจะทำให้คุณประสบกับสิ่งที่หวังเอาไว้  ดังรายงานจากท่านซุฟยาน อัล-ตะฮฺรี  ได้กล่าวเอาไว้ว่า

“ความศรัทธานั้นไม่ใช่ความปรารถนาหรือการปฏิบัติที่เสแสร้ง หากแต่เป็นสิ่งที่อยู่ในหัวใจและสัมผัสได้จากการกระทำ”


          ดังนั้นในหัวข้อนี้  เราจะทำการพิจารณาถึงรูปแบบของความศรัทธา  และความสำคัญของความศรัทธาที่จะนำมาซึ่งการเป็นบ่าวที่ดีของอัลลอฮฺ  การกระทำที่ดีและให้เกียรติต่อบิดามารดา  และหนทางที่จะทำให้เราได้เข้าสู่สวนสวรรค์ของพระองค์ สิ่งหนึ่งที่เราจะกล่าวถึงคือ 

“บุคคลใดก็ตาม  ที่แสวงหาความสำเร็จในสิ่งที่ดีงามแล้ว  เขาจะต้องทำการเคารพภักดีต่อพระองค์อัลลอฮฺ   ในเวลาค่ำคืน”

ซึ่งท่าน อัล-ฟุดดาล  ได้กล่าวเอาไว้ว่า 

“หัวใจของผู้คนนั้น  จะไม่เคยได้ลิ้มรสกับความหอมหวานของศรัทธา  จนกว่าพวกเขาจะเลิกหลงกับความสุขของโลกนี้”
 

และท่านก็ได้กล่าวเอาไว้ว่า

“ถ้าคุณไม่สามารถที่จะทำการยืนละหมาดในเวลาค่ำคืน (กิยามุลลัย)  และไม่ทำการถือศีลอดในเวลากลางวันแล้ว 

คุณก็จะไม่ได้สัมผัสกับความหอมหวานของความศรัทธา”

 

         ผู้ศรัทธาที่มีความบริสุทธิ์ใจนั้นจะมีหัวใจที่คล้ายกับถ่านที่กำลังเผาไหม้  ซึ่งรายงานโดยท่าน อัล-ฮากีม (ในMustadrak และ al-Tabaraani ใน Mu’jam) ซึ่งเป็นซอเฮี้ยะอีสนาด  ว่า  ท่านนบีมุฮัมมัด ได้กล่าวเอาไว้ว่า

“ความศรัทธาในหัวใจนั้นคล้ายกับเสื้อผ้าที่ท่านสวมใส่  ดังนั้นท่านจงวิงวอนขอต่อพระองค์อัลลอฮฺ ให้ทรงเปลี่ยนหัวใจที่มีศรัทธาที่ดีแก่ท่านเถิด”

 

ท่านนบี ได้ยกตัวอย่างของหัวใจว่า  บางครั้งหัวใจของผู้ศรัทธานั้นอาจถูกปกคลุมไปด้วยความชั่ว ซึ่งท่านได้กล่าวเอาไว้ว่า 

“ไม่มีหัวใจดวงใดที่จะปราศจากการปกคลุมด้วยความชั่ว  เสมือนกับดวงจันทร์ที่มักจะมีเมฆมาบดบังเสมอ 

ซึ่งเมื่อมีเมฆมาบดบังดวงจันทร์แล้ว  ความมืดก็จะเกิดขึ้น  แต่เมื่อก้อนเมฆได้เคลื่อนตัวออกไปแล้ว  ความสว่างก็จะเข้ามาแทนที่ความมืด” 

(รายงานโดยอัล-ต็อบบะรอนี ในอัล-อัสวัต และคณะรายงานฮะดีซอเฮียะ โดยอัล-อัลบานี)


          ดังนั้นหัวใจของผู้ศรัทธานั้น  ในบางเวลาก็จะมีความชั่วซึ่งจะบดบังความดีงามอยู่  และความชั่วนั้นก็จะยังคงอยู่ จนกว่าผู้ศรัทธาจะต่อสู้กับความชั่วนั้นด้วยกับการเพิ่มพูนของความศรัทธาที่มี  พร้อมทั้งวิงวอนขอความช่วยเหลือจากพระองค์อัลลอฮฺ  ซึ่งจะส่งผลให้ช่วยขจัดความชั่วที่ปกคลุมอยู่ในหัวใจออกไปได้  และหัวใจนั้นก็จะมีแสงสว่างกลับคืนมาอีกครั้ง 

ดังคำกล่าวของชาวสลัฟคนหนึ่งที่ได้บอกว่า 

“รูปแบบหนึ่งของคนที่ฉลาดนั้นก็คือ  การที่เขาคอยตรวจสอบความศรัทธาของเขาและเขาระวังสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับหัวใจของเขา” 

และอีกรูปแบบหนึ่งของคนที่ฉลาดก็คือ

เขาจะต้องรู้ว่าสิ่งใด คือ การกระทำที่เกิดขึ้นมาจากการถูกล่อลวงของชัยฏอน”

ดังนั้นคุณจะต้องกลับมาตรวจสอบความศรัทธา ถ้าคุณทำในสิ่งที่ความศรัทธานั้นใช้ให้ทำ  แน่แท้คุณก็จะประสบกับความสำเร็จเป็นบ่าวผู้ภักดีดังที่ต้องการ


เราจะขอบอกคุณเกี่ยวกับหลักการขั้นพื้นฐานซึ่งจะเป็นสิ่งที่แยกระหว่าง  การมีศรัทธาและการไม่มีศรัทธา  ซึ่งท่านอิหม่ามอิบนฺ อัล-ญาวซี  ได้กล่าวเอาไว้ว่า

         “โอ้..บุคคลผู้ที่หันหลังกลับ  โอ้..บุคคลผู้ที่ไม่ต้องการพบกับผู้เป็นเจ้า  หากท่านต้องการจะรู้ว่าสิ่งที่ท่านได้ขาดไปนั้นคืออะไร   ก็ขอให้ท่านลองนึกถึง วันที่กลุ่มชนหนึ่งได้เข้าเฝ้ากษัตริย์  เพื่อนำเสนอผลงานที่กษัตริย์ได้มอบหมายให้แก่พวกเขา  ท่านคิดว่าจะมีซักกี่คนที่กษัตริย์จะรู้สึกพึงพอใจ  และให้เขาได้มีโอกาสได้เข้ามาใกล้ชิดพระองค์  แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสได้รับเกียรติหรือได้รับความรักจากกษัตริย์  เช่นเดียวกับสายลมทุกสาย  ที่ไม่ได้พัดแผ่นเบาเหมือนกับสายลมในยามเช้า

         เช่นเดียวกัน  หากผู้คนต้องการที่จะรู้ได้ว่า  เขาจะได้ยืนเข้าเฝ้าต่อพระองค์อัลลอฮฺ อย่างไร  ก็ให้เขาลองมองไปยังตัวของเขาเองและพิจารณาถึงสิ่งที่เขาได้เคยปฏิบัติมาก่อน  ว่าเขาได้ยืนหยัดต่อคำสั่งใช้ของพระองค์อัลลอฮฺ และบรรดานบีอย่างไร  


         ถ้าชีวิตของเขานั้นสาระวนอยู่กับดะวะฮฺและคอยปกป้องผู้คนให้ห่างไกลจากไฟนรก  พยายามปฏิบัติในสิ่งที่จะทำให้ได้เข้าสู่สวนสวรรค์  คอยช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอและมีความยากจน  ให้เกียรติต่อบิดามารดา  หากปฏิบัติในสิ่งเหล่านี้  ก็จงยินดีต่อความจริงที่ว่า เขานั้นจะได้เข้าใกล้พระองค์อัลลอฮฺ   ผู้ที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าบรรดากษัตริย์ใด ๆ แล้ว  และการช่วยเหลือของพระองค์นั้นก็จะทรงมีให้เฉพาะกับผู้ที่พระองค์ทรงรัก


        แต่ถ้าหากว่าคุณไม่ได้สนใจต่อการดะวะฮฺ  ไม่ชอบแนะนำตักเตือนผู้คนและไม่ปฏิบัติในสิ่งที่ดีงาม  และการงานที่ได้เคยปฏิบัติมาแล้ว  ล้วนเป็นกิจการงานของโลกนี้และมีแต่การสะสมทรัพย์สมบัติ  พฤติกรรมที่มีแต่การนินทา  การถกเถียงอย่างมากมาย  ไม่ปฏิบัติในสิ่งที่ควรจะทำ  นั่นก็แสดงว่าคุณได้ห่างไกลจากอัลลอฮฺ  และสิ่งที่จะทำให้คุณได้ใกล้กับสวนสวรรค์แล้ว  เพราะ อัลลอฮฺ  ได้ตรัสไว้ในกุรอ่านว่า


“ผู้ใดปรารถนาชีวิตชั่วคราว (ในโลกนี้) เราก็จะเร่งให้เขาได้รับมัน ตามที่เราประสงค์แก่ผู้ที่เราปรารถนา

 แล้วเราได้เตรียมนรกไว้สำหรับเขา เขาจะเข้าไปอย่างถูกเหยียดหยามถูกขับไส”  

(ซูเราะฮฺอัล-อิสรอ 17:18)

“และผู้ใดปรารถนาปรโลก และขวนขวายเพื่อมันอย่างจริงจัง โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธาชนเหล่านั้น การขวนขวายของพวกเขาจะได้รับการชมเชย”      

(ซูเราะฮฺอัล-อิสรอ 17:19)


        โอ้พี่น้องของฉัน ! หากท่านต้องการที่จะมีตำแหน่งที่สูงด้วยการกระทำความดีในทุกๆ รูปแบบ  เพื่อจะเป็นบ่าวที่ดีของพระองค์อัลลอฮฺ และต้องการที่จะให้เกียรติแก่บิดามารดาของท่าน และต้องการที่จะได้พำนักอยู่ในสวนสวรรค์  ก็ขอให้พึงปฏิบัติตามหัวข้อดังต่อไปนี้

1. จงทำให้ศรัทธาเกิดขึ้นในหัวใจของคุณ 

         ความศรัทธาเป็นสิ่งที่จะนำมาซึ่งทุกๆสิ่งที่มุสลิมนั้นแสวงหา  ซึ่งสิ่งที่จะทำเกิดศรัทธาขึ้นในหัวใจนั้น  มีมากมายและหลากหลาย  รวมถึงการปฏิบัติอิบาดะฮฺอย่างมากมายและการกระทำให้สิ่งที่ถูกต้อง  ความศรัทธานั้นจะเป็นกุญแจสำหรับทุก ๆ การกระทำที่ดีและเป็นตัวปิดล็อคประตูของทุก ๆ ความชั่วร้าย  ซึ่งความศรัทธานั้นจะให้มุสลิมได้รับในสิ่งที่เขาแสวงหาทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า

2. คุณจะต้องมีความบริสุทธิ์ใจต่อพระองค์อัลลอฮฺ  ดังมีรายงานว่า

“ถ้าบ่าวของฉันมาหาฉันด้วยความบริสุทธิ์ใจทั้งการกระทำและเจตนาแล้ว  ฉันก็จะมอบความรักและความเมตตาของฉันกลับไปยังหัวใจของเขาคนนั้น”

ซึ่งพระองค์อัลลอฮฺนั้น  ได้ทรงทำให้การภักดีเป็นเป้าหมายสูงสุดและเป็นวัตถุประสงค์สูงสุดของมนุษย์  ดังอายะในอัลกุรอ่านว่า

“และข้ามิได้สร้างญินและมนุษย์เพื่ออื่นใด  เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า”

(ซูเราะฮฺอัซซาริยาต 51:56)
 

3. ตั้งเป้าหมายในการดำเนินชีวิตในระดับที่สูงที่สุดเสมอ 

          และทำให้เป้าหมายในการมีชีวิตของคุณนั้นเป็นไปเพื่อแสวงหาความพึงพอใจจากพระองค์อัลลอฮฺและพยายามต่อสู้ให้ได้มาซึ่งสวนสวรรค์ หรือสวรรค์ชั้นฟิรเดาซ์  และจะต้องใช้ความพยายามให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอันสูงสุดนี้

       4. ดำเนินชีวิตตามรูปแบบของบุคคลต่าง ๆ ในประวัติศาสตร์อิสลาม ไม่ว่าจะเป็นบรรดาซอฮาบะฮฺ ตอบิอีน และบรรดาบรรพบุรุษที่อยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง (ชาวสลัฟ)

5. ใช้เวลาส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเวลาในช่วงนาทีหรือชั่วขณะหนึ่ง หรือแม้แต่ในทุก ๆ การเต้นของหัวใจ  ให้หมดไปในหนทางที่จะทำให้ความศรัทธาเพิ่มมากขึ้น 

6.พยายามที่จะเลือกคบเพื่อนที่เป็นคนดี เป็นผู้ศรัทธาที่อยู่ในหนแนวทางที่ถูกต้อง  เพราะท่านนบี  ได้กล่าวเอาไว้ว่า 

“บุคคลนั้นจะปฏิบัติศาสนาตามเพื่อนที่ใกล้ชิดของเขา  ดังนั้นถ้าท่านต้องจะทราบถึงศาสนาของบุคคลใด ก็ให้ท่านพิจารณาดูศาสนาจากเพื่อนของเขาเถิด”

7. ทำแต่สิ่งที่ดีงามให้มาก  ซึ่งเป็นสิ่งที่จะนำมาซึ่งความสุขในโลกนี้และในโลกหน้า

       8. ทำการละหมาดในยามค่ำคืน  ขอดุอาในช่วงเวลาก่อนรุ่งอรุณ  ดังที่ท่านนบี  ได้ยืนละหมาดจนกระทั่งเท้าของท่านบวม  ก็เนื่องมาจากการที่ท่านต้องการที่จะเป็นบ่าวที่ขอบคุณต่อพระองค์อัลลอฮฺ  ทั้ง ๆ ที่พระองค์อัลลอฮฺ  ได้ทรงอภัยให้กับบรรดาความผิดบาปของท่านหมดแล้ว  ไม่ว่าจะเป็นความผิดที่ได้กระทำมาก่อนหน้านี้และความที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง

       9. ดำรงไว้ซึ่งการอ่านบางส่วนของคัมภีร์อัลกุรอ่านในทุก ๆ วัน  และทำการระลึกถึงพระองค์อัลลอฮฺ  ซึ่งจะช่วยทำให้คุณคิดและพิจารณาถึงความหมายของอัลกุรอ่าน

10. พยายามเผยแพร่ และทำการดะวะฮฺศาสนาของพระองค์อัลลอฮฺ  และทำงานเพื่ออิสลามให้มากเท่าที่คุณจะสามารถทำได้

 

         ถ้าคุณต้องการที่บรรลุถึงตำแหน่งการเป็นบ่าวที่ดีของพระองค์อัลลอฮฺตราบเท่าที่คุณยังมีลมหายใจอยู่แล้ว  ก็ขอให้คุณปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของพระองค์อัลลอฮฺ  ที่ได้ตรัสกับท่านนบี  ดังอายะในอัลกรุอ่านนี้เถิด

“จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่า แท้จริงการละหมาดของฉัน และการอิบาดะฮ์ ของฉัน และการมีชีวิตของฉัน

และการตายของฉันนั้นเพื่ออัลลอฮฺผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลกเท่านั้น”

(ซูเราะฮฺอัล-อันอาม 6:162)

         ดังนั้นการเป็นบ่าวที่ดีของพระองค์อัลลอฮฺ จึงหมายถึง  การที่เรายืนยันว่าเราจะภักดีเฉพาะพระองค์อัลลอฮฺ  เท่านั้น  ด้วยกับการปฏิบัติตนตามอายะอัลกุรอ่านข้างต้น  ด้วยกับการมีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์ และทุก ๆ การงานนั้นกระทำไปเพื่อพระองค์อัลลอฮฺ พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก การจะประสบกับความสำเร็จในการที่จะเป็นบ่าวที่ดีของพระองค์อัลลอฮฺนั้น  จะเกิดขึ้นมาได้จากการทำการเคารพภักดีเฉพาะต่อพระองค์อัลลอฮฺเท่านั้น  ซึ่งเป็นการภักดีต่อพระองค์ในทุกขณะเวลา  ไม่ว่าจะเป็นการมีชีวิตอยู่ หรือการจะเสียชีวิต  ก็เป็นไปเพื่อพระองค์อัลลอฮฺเท่านั้น 

ดังนั้นการพูดของเรา  ก็จะเป็นการพูดเพื่อแสวงหาความพึงพอใจจากพระองค์  

การกระทำของเรา      ก็จะเป็นการกระทำเพื่อแสวงหาความพึงพอใจจากพระองค์  

เจตนาของเราในทุก ๆ คำพูดและการกระทำ  ก็จะมีเจตนาเพื่อพระองค์เท่านั้น

         ซึ่งการเคารพภักดีนั้น  ไม่ได้หมายถึงเฉพาะการก้มลงกราบขณะละหมาดในเวลาใดๆ   หรือเป็นการบริจาคจำนวนเงินเล็กๆน้อยๆ หรือเป็นการถือศีลอดในบางวันของแต่ละปี  หรือเป็นการกล่าวรำลึกถึงพระองค์อัลลอฮฺ ด้วยถ้อยคำเท่านั้น หากแต่การกระทำที่จะทำให้ได้มาซึ่งตำแหน่งบ่าวผู้ภักดีนั้น เป็นรูปแบบการกระทำที่มากมาย หลากหลายซึ่งขึ้นอยู่กับวิถีชีวิตและสถานที่ที่แต่ละคนกำลังดำรงชีวิตอยู่  สิ่งนี้ถือเป็นความเมตตาจากพระองค์ที่ทรงประทานให้กับผู้คนในการจะปฏิบัติการเคารพภักดีต่อพระองค์ 

คุณเพียงแต่มองดูในทุก ๆ การกระทำหรือในทุก ๆ สถานที่หรือทุก ๆ เวลาของคุณ  หากการกระทำต่าง ๆ ของคุณนั้น  จะนำมาซึ่งความพึงพอใจจากพระองค์อัลลอฮฺและคิดว่าการกระทำเหล่านั้นเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงต้องการจะเห็นจากคุณ  นั่นก็แสดงว่า  คุณเป็นบ่าวผู้ภักดีแล้ว


        สุดท้ายนี้  เราวิงวอนขอต่อพระองค์อัลลอฮฺ  ทรงตอบรับการงานที่ดีของพวกเราและของท่าน  และได้ทรงเมตตารวบรวมเราและท่านให้ได้อยู่ร่วมกับบรรดานบี และบรรดาเพื่อนที่ดีของบรรดานบี  และบรรดาผู้ที่อยู่ในแนวทางอันเที่ยงตรงด้วยเทอญ.......อามีน

 

 


ที่มา  http://www.islamqa.com/en/ref/34306

แปลโดย  นูรุ้ลนิซาอฺ