คำแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการจะสังคมกับผู้คน
(ตอนที่ 2)
คำถาม
ผมไม่ชอบที่จะสังคมกับคนอื่น ๆ และผมชอบที่จะอยู่เพียงลำพัง ผมมีความรู้สึกกังวลเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น แต่ท่านนบีมุฮัมมัด ได้สั่งใช้ให้พวกเราทำการละหมาดในมัสยิด ผมควรจะทำเช่นไร เมื่อผมปรารถนาที่จะไม่ละหมาดมากกว่าการไปละหมาดที่มัสยิด
บรรดาการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์แด่พระองค์อัลลอฮฺ
อันดับที่สอง
ถ้าคุณรู้สึกเป็นกังวลเมื่อต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น ถ้าเป็นเช่นนั้นเราก็เชื่อมั่นได้เลยว่า คุณเองก็คงไม่ได้รู้สึกดีกับการอยู่เพียงลำพังหรือแยกตัวออกมาจากผู้คน เช่นเดียวกันกับที่หมาป่ามักจะกินแกะที่หลงออกมาจากฝูงของมัน และชัยฏอนนั้นก็จะมีอำนาจมากยิ่งขึ้นกับบุคคลที่แยกตัวออกมาเพียงลำพังซึ่งเขานั้นจะขาดผู้ช่วยเหลือในการให้เขาเชื่อฟังต่อพระผู้เป็นเจ้า หรือขาดผู้ให้การสนับสนุนที่จะต่อสู้กับชัยฏอนและพลพรรคของมัน
แม้ว่าการอยู่ร่วมกันกับบุคคลอื่นนั้นอาจนำมาซึ่งความรำคาญใจให้กับคุณ แต่ถ้าคุณเผชิญหน้ากับสิ่งนั้นด้วยกับความอดทน มันจะเป็นการดีกว่าการที่คุณไม่สังคมกับใครเลย ซึ่งท่านนบีมุฮัมมัด ได้กล่าวสรรเสริญบุคคลที่อยู่ร่วมกับบุคคลอื่นและเผชิญต่อการความยุ่งยากด้วยกับความอดทน
ได้มีรายงานจากท่านอิบนุ อุมมัรว่า ว่า ท่านเราะซูล ได้กล่าวเอาไว้ว่า
“ผู้ศรัทธาที่อยู่ร่วมกันกับผู้คนและเผชิญกับความยุ่งยากด้วยกับความอดทนนั้น
เขาได้รับรางวัลที่ดีกว่าผู้ศรัทธาที่ไม่ได้อยู่ร่วมกับบุคคลอื่น และไม่ต้องเผชิญกับความยุ่งยากใด ๆ”
[ รายงานโดย อัล-ติรมีซี (5207) และอิบนุ มัยยะฮฺ (4032) ]
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีเหตุผลใด ๆ เลยที่คุณจะต้องปลีกตัวออกมาอยู่เพียงลำพัง เท่าที่เราได้พิจารณาจากคำถามของคุณ เราก็ไม่พบเหตุผลใด ๆ ที่คุณควรจะดำรงชีวิตอย่างโดดเดี่ยว และเราก็ไม่เห็นด้วยกับการที่คุณจะแยกตัวออกมาเพียงลำพัง และไม่ทำการละหมาดร่วมกันกับบุคคลอื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้และเราก็ไม่สนับสนุนให้คุณกระทำเช่นนั้น
เหตุผลบางอย่างที่เราจะต้องแยกตัวออกมาเพียงลำพังนั้น เช่น ผู้คนที่เราอยู่ด้วยเต็มไปด้วยคนที่เลวทราม ขาดคนที่จะสนับสนุนให้เราดำเนินอยู่บนแนวทางที่เที่ยงตรง แต่ละคนยึดตึดอยู่กับความคิดเห็นส่วนตัวและขาดความจริงใจในการให้คำแนะนำ แต่ด้วยกับมารยาทที่พึงมีต่อพระองค์อัลลอฮฺ แล้วนั้น บุคคลดังกล่าวนี้จะไม่ได้รับการยอมรับในสังคมของมุสลิมหรือแม้แต่สังคมของชาวกาเฟรเอง
เราคงเคยได้ยินว่ามีชาวกาเฟรหลายพันคนที่ยังคงเข้ารับนับถือศาสนาอิสลามอยู่ตลอดเวลา และเราก็เคยได้ยินคนอื่น ๆ ที่เป็นผู้ที่กระทำความผิดบาปได้กลับเนื้อกลับตัว หันมาปฏิบัติตามแนวทางที่เที่ยงตรง ในความเป็นจริงเราได้พบว่าผู้คนที่กำลังหิวกระหายนั้น เขาต้องการหาผู้เป็นที่พึง ผู้ที่จะช่วยดับกระหายหรือคลายความหิวให้กับเขาได้ เช่นเดียวกัน สำหรับทางด้านจิตวิญญาณนั้นผู้คนก็ต้องการที่จะพบกับความดีงามและทางนำ
หากเหตุผลของคุณในการถือสันโดษนั้น เป็นไปตามชารีอะแล้ว เราก็ไม่คิดว่าในกรณีของคุณจะเป็นไปตามชารีอะ เนื่องจากคุณต้องการที่จะอยู่เพียงลำพังมากกว่าการสังคมกับผู้อื่นซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องปฏิบัติ ดังนั้นการถือสันโดษของคุณในขณะนี้ก็เป็นการบกพร่องในหน้าที่ของอิสลาม ซึ่งคุณคงจะถามเราว่า ถ้าเช่นนั้นการถือสันโดษตามชารีอะเป็นเช่นไร ซึ่งเราก็คงจะแนะนำให้คุณปลีกตัวออกไปจากผู้คนและให้มุ่งมั่นอยู่กับการภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าและปกป้องหน้าที่ความรับผิดชอบทางด้านศาสนาของคุณ
แต่ในกรณีเช่นนี้ ท่านอะบู สุลัยมาน อัลฆัตตาบิ (ขอพระองค์อัลลอฮฺ ทรงโปรดประทานความเมตตาแก่ท่านด้วยเทอญ) ได้กล่าวเอาไว้ว่า
“การถือสันโดษนั้นจะมีประโยชน์เฉพาะบรรดาผู้รู้ และผู้ที่คงแก่เรียน แต่จะนำมาซึ่งอันตรายอย่างมาก ต่อผู้ที่ขาดความรู้”
และท่านได้รายงานจาก ท่านอิบรอฮีม ที่ได้กล่าวกับ ท่านมักฮีระฮฺ ว่า
“เมื่อท่านมีความรู้ความเข้าใจอิสลามอย่างลึกซึ้งแล้ว ท่านจึงจะสามารถแยกตัวออกมาเพียงลำพังได้ ”
(ดูหลักฐานจาก al-‘Azlah by al-Khattaabi, หน้า 225 )
แปลโดย : นูรุ้ลนิซาอฺ