2 สุนนะฮฺสำคัญ

อ.อับดุลเราะมาน  เจะอารง

          ในบรรดาสุนนะฮฺที่พระองค์อัลลอฮฺ  ทรงกำหนดให้เกิดขึ้นในชีวิตเราบนโลกนี้มี 2 สุนนะฮฺสำคัญที่บรรดาผู้ที่มีกำลังใจทำงานเพื่ออิสลามและมีความรีบร้อนที่จะเห็นผลงานทันทีทันใด คือ

1. สุนนะฮฺค่อยเป็นค่อยไปทีละขั้นทีละตอน
2.  สุนนะฮฺของระยะเวลาที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงได้กำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว

1. สุนนะฮฺค่อยเป็นค่อยไปทีละขั้นทีละตอน

         สุนนะฮฺค่อยเป็นค่อยไปตามขั้นตอน เป็นกฎธรรมชาติที่พระองค์ทรงสร้างโลกนี้และกฎด้านศาสนาด้วย  พระองค์ทรงสร้างฟากฟ้าและพื้นดินนี้ในเวลา 7 วัน ในขณะที่พระองค์มีความสามารถที่จะออกคำสั่ง โลกนี้จงเกิดขึ้น แล้วมันก็เกิดขึ้นทันทีทันใด แต่พระองค์ทรงกำหนดในช่วงเวลา 7 วัน หมายถึง 7 ขั้นตอน เพราะ 7 วันที่กล่าวนั้นมันไม่ใช่ 7 วันที่เราสัมผัส   ฉะนั้นในปัจจุบันพอสังเกตได้ว่า มนุษย์เรา สัตว์ และพืชผลต้นไม้ต่างๆ ได้เจริญเติบโตโดยผ่านขั้นตอนและกระบวนการจนถึงขั้นตอนสุดท้าย

          ส่วนด้านศาสนาอิสลามใช้ให้มนุษย์ศรัทธาก่อนด้วยหลักการศรัทธาที่ถูกต้อง แล้วค่อยๆปฏิบัติทีละนิดทีละน้อยจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันและเป็นเรื่องธรรมชาติที่สามารถกระทำได้ เช่น เริ่มด้วยการละหมาด เป็นการเคารพภักดี รู้บุญคุณของผู้ให้ ตามด้วยการถือศีลอด 1 เดือน ใน 1 ปี งดจากความเคยชินในการกินและดื่มในช่วงเวลากลางวัน แล้วฝึกฝนให้รู้จักมอบให้ผู้อื่นในทรัพย์สินที่พระองค์ได้มอบให้แก่เรา

          หลังจากที่ผู้ศรัทธาได้ปฏิบัติและกระทำสิ่งดังกล่าวจนเป็นอาจิณพร้อมกับมีความสุขและสบายใจกับการกระทำดังกล่าว ศาสนาเริ่มกำหนดให้ละทิ้งบางสิ่งบางอย่างที่เป็นอันตรายต่อชีวิต เช่น การดื่มเหล้าและการพนัน เป็นต้น

ที่กล่าวมานี้เราได้สรุปจากหะดีษที่รายงานโดยท่านหญิงอาอิชะฮฺ นางได้กล่าวไว้ว่า

“บทบัญญัติบทแรกที่อัลลอฮฺประทานลงมา คือ สูเราะฮฺสั้นๆ ที่มีการกล่าวถึงสวรรค์และนรก

จนกว่ามนุษย์จะซาบซึ้งในคำสอนของอิสลาม จึงมีการกำหนดเรื่องหะลาล (สิ่งที่อนุมัติ) และหะรอม (สิ่งที่ไม่อนุมัติ)

และถ้าหากบทบัญญัติบทแรกที่ประทานลงมาคือ “พวกเจ้าจงอย่าดื่มเหล้า” และ “พวกเจ้าจงอย่าปฏิบัติผิดประเวณี”

 บรรดาชาวอาหรับทั้งหลายย่อมจะกล่าวว่า เราจะไม่ยอมงดจากการดื่มเหล้าและไม่ยอมงดจากการผิดประเวณีโดยเด็ดขาด”

(รายงานโดยบุคอรีย์ หมายเลข 4993 )

          ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในเรื่องนี้ คือ อุมัร บิน อับดุลอาซิซ เคาะลีฟะฮฺคนที่ 9 ของราชวงศ์อะบีอุมัยยะฮฺ  เขามีความตั้งใจอยากให้สภาพของมุสลิมในยุคนั้นเหมือนกับสภาพของมุสลิมในยุครุ่งเรืองของบรรดาเคาะลีฟะฮฺทั้งสี่ แต่บุตรชายของเขานับเป็นคนหนึ่งในบรรดาผู้ที่มีความกระตือรือร้นและรีบร้อนที่อยากจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในสังคม และไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติอย่างล่าช้าของผู้เป็นบิดา

วันหนึ่งอุมัร บิน อับดุลอาซิซ ได้ตอบข้อข้องใจของบุตรชายว่า

“โอ้ลูกรัก!! พระองค์อัลลอฮฺทรงติเตียนเรื่องเหล้าในอัลกุรอาน 2 ครั้ง และห้ามเด็ดขาดครั้งที่ 3

ดังนั้นฉันกลัวว่าฉันจะบังคับให้มนุษย์ปฏิบัติสิ่งหนึ่งและพวกเขาจะละทิ้งสิ่งหนึ่ง ซึ่งมันจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา”

(อัล-มุวาฟากอต 2/94)

2. สุนนะฮฺของระยะเวลาที่ได้กำหนดเรียบร้อยแล้ว

          ทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ทรงสร้างบนโลกนี้มีอายุ เวลาของมันที่แน่นอน เช่น ผลไม้มีระยะเวลาของมัน เมื่อเราไม่เก็บเกี่ยวก่อนเวลา เราจะไม่ได้รับประโยชน์จากมัน บางกิจกรรมในอิสลามที่มีความสำคัญจะต้องใช้เวลานาน งานใดที่มีความสำคัญมากเท่าใดจะต้องใช้เวลานานเท่านั้น มีบางกิจการที่เยาวชนรุ่นบุกเบิกไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลได้ นอกจากเยาวชนรุ่นต่อไป และมันก็เป็นไปได้  ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดปกติแต่อย่างใด ตราบใดที่งานนั้นได้ดำเนินไปตามขั้นตอนของมัน

          บรรดามุชริกีนที่มักกะฮฺมักดูถูกดูแคลนการเผยแพร่ของท่านเราะสูล ท่านเราะสูล ได้ขู่พวกเขาด้วยบทลงโทษต่างๆ แต่พวกเขาได้ท้าทาย เมื่อไม่เห็นบทลงโทษก็ยิ่งท้าทายกันมากขึ้น พระองค์อัลลอฮฺทรงท้าทายพวกเขาด้วยอายะฮฺที่กล่าวความว่า

ويستعجِلونَك بالعذابِ ولَن يخْلِفَ الله وعْدَه وإنَّ يوماً عندَ ربِّكَ كألْفٍ سنةٍ ممَّا تعُدُّون ( الحج/47)

“และพวกเขาเร่งเร้าเจ้าให้มีการลงโทษ แต่ว่าอัลลอฮฺนั้นจะไม่ทรงผิดสัญญาของพระองค์เป็นอันขาด

และแท้จริงวันหนึ่ง ณ ที่พระเจ้าของเจ้านั้นเท่ากับ 1,000 ปี ตราบที่พวกเจ้าคำนวณนับ”  

          แต่ว่าการลงโทษสำหรับพวกเขา พระองค์อัลลอฮฺได้กำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว ถ้ายังไม่ถึงเวลาสิ่งนั้นจะไม่เกิดขึ้นดัง ที่พระองค์อัลลอฮฺได้ตรัสไว้ความว่า

ويسْتعْجِلونَك بالعذابِ ولَو لا أجلٌ مسمًّى لجاءَهمُ العذابُ ولَيأتيَنَّهم بغْتةً وهم لا يشْعُرون (العنكَبوت/53)

“และพวกเขาเร่งเร้าเจ้าในเรื่องการลงโทษ (เช่น พวกเขาจะกล่าวว่า ขอให้พระองค์ทรงให้ก้อนหินตกลงมาจากชั้นฟ้า)

และหากใช่เวลาที่ถูกกำหนดไว้แล้ว การลงโทษก็จะเกิดขึ้นแก่พวกเขาอย่างแน่นอน

และมันจะเกิดขึ้นแก่พวกเขาโดยฉับพลันอย่างแน่นอน โดยที่พวกเขาไม่รู้สึกตัว”

          เมื่อกิจการทุกอย่างพระองค์ได้กำหนดเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่ามนุษย์จะอ้อนวอนอย่างไร หากพระองค์ไม่ประสงค์สิ่งนั้น มันก็จะไม่เกิดขึ้น เรามีหน้าที่ปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ทรงสั่งสอนและอดทนรอวันที่พระองค์อัลลอฮฺกำหนด ส่วนผลนั้นเป็นสิทธิของพระองค์อัลลอฮฺเพียงพระองค์เดียว

พระองค์ได้ตรัสไว้ความว่า

أمْ حسِبْتمْ أن تدخُلوا الجنَّةَ ولما يأتِكم مثلُ الَّذينَ خَلَوا مِن قبلِكم مسَّتْهمُ البأساءُ والضَّرَّراءُ وزِلْزِلوا حتى يقولَ الرَّسولُ والَّذينَ آمَنوا معه متى نصْرُ الله ألا إنَّ نصْرَ الله قريبٌ (البقرة/214)

“หรือพวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะได้เข้าสวรรค์โดยที่เยี่ยงอย่างของผู้ที่ล่วงลับไปก่อน พวกเจ้ายังมิได้มายังพวกเจ้าเลย

(เยี่ยงอย่างแห่งความอดทนจากการทำร้ายของฝ่ายศัตรูผู้ปฏิเสธศรัทธา)

ซึ่งบรรดาความลำบากและความเดือดร้อนได้ประสบแก่พวกเขา และพวกเขาได้รับความหวั่นไหว

จนกระทั่งท่านเราะสูลและบรรดาผู้ศรัทธาซึ่งอยู่กับเขากล่าวขึ้นว่า เมื่อไรเล่าการช่วยเหลือของอัลลอฮฺ ?

 พึงรู้เถิดว่าแท้จริงการช่วยเหลือของอัลลอฮฺนั้นใกล้อยู่แล้ว”