เราควรจะตั้งเจตนา (เหนียต) อย่างไรขณะทำความดี
คำถาม
ผู้ที่จะกระทำความดีนั้น ควรมีความตั้งใจว่าอย่างไร ? เช่น เขาควรจะเหนียตว่า การทำความดีนี้เป็นการแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮฺและท่านนบีมุฮัมมัด หรือเป็นการแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ โดยไม่คำนึงถึงรูปแบบซุนนะฮฺของท่านนบีมุฮัมมัด หรือเขาควรจะเหนียตว่า การทำความดีนี้เป็นการแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮฺเพียงองค์เดียวเท่านั้น...
บรรดาการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์แด่อัลลอฮฺ
คำตอบ
ในเมื่อทุกการกระทำเป็นการแสดงถึงความภักดีแล้ว ก็จงให้ผู้กระทำความดีนั้นแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮฺเพียงองค์เดียวเท่านั้น ดังที่อัลลอฮฺ ได้ตรัสในคัมภีร์อัลกุรอ่านดังนี้
“และพวกเขามิได้ถูกบัญชาให้กระทำอื่นใดนอกจากเพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ เป็นผู้มีเจตนาบริสุทธิ์ในการภักดีต่อพระองค์
เป็นผู้อยู่ในแนวทางที่เที่ยงตรงและดำรงการละหมาด และจ่ายซะกาต และนั่นแหละคือศาสนาอันเที่ยงธรรม”
(ซูเราะฮฺอัล-บัยยินะฮฺ 98:5)
“และที่เขานั้นไม่มีบุญคุณแก่ผู้ใดที่บุญคุณนั้นจะถูกตอบแทน นอกจากว่าเพื่อแสวงความโปรดปรานจากพระเจ้าของเขาผู้ทรงสูงส่งเท่านั้น”
(ซูเราะฮฺอัล-ลัย 92:19-20)
ท่านนบีมุฮัมมัด ได้กล่าวว่า
“อัลลอฮฺนั้นไม่ทรงรับการงานใด ๆ เว้นแต่ว่าการงานนั้นจะกระทำเพื่อแสวงหาความโปรดปรานจาก อัลลอฮฺเพียงองค์เดียวเท่านั้น”
(รายงานโดยอัล-นาซาอิ 3140 จัดเป็นฮะดีษซอเฮี้ยะโดย อัล-อัลบาอฺนี ในอัลซิลซิลาฮฺ อัลซอเฮี้ยะ 52)
และพึงพิจารณาถึงความหมายที่อัลลอฮฺ ได้ทรงตรัสไว้ในซูเราะฮฺอัต-เตาบะฮฺ ดังนี้
“และหากพวกเขายินดีต่อสิ่งที่อัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ได้ให้แก่พวกเขา และกล่าวว่า อัลลอฮฺนั้นทรงพอเพียงแก่เราแล้ว
โดยที่อัลลอฮฺจะทรงประทานแก่เราจากความกรุณาของพระองค์และร่อซูลของพระองค์ (ก็จะให้ด้วย) แท้จริงแด่อัลลอฮฺเท่านั้นพวกเราเป็นผู้วิงวอนขอ”
(ซูเราะฮฺอัต-เตาบะฮฺ 9:59)
จากซูเราะฮฺข้างต้น จะพบว่าในอายะฮฺกล่าวถึง การให้ที่มาจากอัลลอฮฺ และรอซูล และอัลลอฮฺองค์เดียวเท่านั้นที่พอเพียงแก่เรา ซึ่งในอายะฮฺไม่ได้กล่าวว่า “อัลลอฮฺและรอซูลเป็นที่พอเพียงแก่เรา” และในอายะฮฺยังกล่าวถึง อัลลอฮฺเท่านั้นที่เราวิงวอนขอ ซึ่งในอายะฮฺไม่ได้กล่าวว่า “อัลลอฮฺและรอซูลที่เราวิงวอนขอ” ซึ่งอายะฮฺนี้จะคล้ายกับอายะฮฺในซูเราะฮฺอัลอินชิรอฮฺ ดังนี้
“ดังนั้นเมื่อเจ้าเสร็จสิ้น (จากงานหนึ่งแล้ว) ก็จงลำบากต่อไป และยังพระเจ้าของเจ้าเท่านั้นก็จงมุ่งปรารถนาเถิด”
(ซูเราะฮฺอัล-อินชิรอฮฺ 94:7-8)
(ศึกษาเนื้อหาที่มาได้จากซาด-อัลมาอฺอัด 1-36)
ดังนั้นในการทำความดี ท่านควรจะตั้งเจตนาเฉพาะเพื่ออัลลอฮฺเท่านั้น และไม่เป็นการอนุมัติในการตั้งเจตนาในการแสดงความภักดีเพื่อสิ่งถูกสร้างใด ๆ ส่วนการรักในท่านนบีมุฮัมมัด นั้นหมายถึงให้ปฏิบัติตามแนวทางของท่านและให้เกียรติต่อท่าน แต่ไม่ได้หมายถึงให้ทำการภักดีต่อท่าน
เงื่อนไขของการแสดงความภักดีที่จะเป็นที่ตอบรับ ณ ที่อัลลอฮฺ นั้นจะประกอบด้วย 2 เงื่อนไขดังนี้
1. ต้องมีความบริสุทธิ์ใจในการทำความดีต่ออัลลอฮฺ องค์เดียว
2. ต้องปฏิบัติตามแนวทางซุนนะฮฺของท่านนบีมุฮัมมัด ซึ่งสอดคล้องกับหลักชารีอะฮฺ
จากเงื่อนไขทั้ง 2 ข้อนี้ได้ถูกกล่าวไว้ในซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟิ ดังนี้
“ดังนั้น ผู้ใดหวังที่จะพบพระผู้เป็นเจ้าของเขา ก็ให้เขาประกอบการงานที่ดี และอย่างตั้งผู้ใดเป็นภาคีในการเคารพภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าของเขาเลย”
(ซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟิ 18:110)
ท่านอิบนฺ คอตรัย (ขออัลลอฮฺทรงโปรดประทานความเมตตาแก่ท่านด้วยเทอญ) ได้กล่าวเอาไว้ว่า ความหมายของ อายะฮฺที่ว่า “ก็ให้เขาประกอบการงานที่ดี” หมายถึง สอดคล้องกับหลักการที่อัลลอฮฺได้ทรงว่าเอาไว้ ส่วนคำว่า “และอย่างตั้งผู้ใดเป็นภาคีในการเคารพภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าของเขาเลย” หมายถึง การทำการภักดีนั้นให้แสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ องค์เดียวเท่านั้น อย่าทำเพื่อผู้อื่นหรือตั้งให้ผู้อื่นมามีส่วนร่วมด้วย
พื้นฐานในการประกอบความดีที่เป็นที่ยอมรับ ณ ที่อัลลอฮฺ นั้นจะต้องมีความบริสุทธิ์ใจที่จะแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮฺองค์เดียวเท่านั้น และถูกต้องตามหลักชารีอะฮฺของท่านนบีมุฮัมมัด
ดังนั้นเมื่อคุณต้องการทำการภักดี ก็จงแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮฺเพียงองค์เดียว และพยายามปฏิบัติตามแนวทางซุนนะฮฺของท่านนบีมุฮัมมัด
เราวิงวอนขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺในการงานของเรานั้นอยู่ในแนวทางอันเที่ยงตรงด้วยเทอญ
และอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้ทรงปรีชาญาณยิ่ง
ที่มา http://www.islamqa.com/en/ref/20742
แปลและเรียบเรียงโดย นูรุ้ลนิซาอฺ