มือบนดีกว่ามือล่าง
  จำนวนคนเข้าชม  16857

 

มือบนดีกว่ามือล่าง

โดย.....อ.อับดุลลอฮฺ มานะ


         คนส่วนใหญ่มักคิดว่าการให้เป็นความขาดทุน โดยลืมไปว่าผู้ให้คือมือบน ส่วนผู้รับคือมือล่าง แน่นอนมือบนย่อมมีเกียรติมากกว่ามือล่างและก็คงไม่มีใครมองว่าด้อยเกียรติกว่าขอทาน แต่คนรวยในอิสลามไม่ได้หมายถึงการมีทรัพย์อันมากมายแต่  ความร่ำรวย คือ ความรวยน้ำใจ

          ในความรวยน้ำใจนั้นไม่ได้หมายถึงความฟุ้งเฟ้อในการใช้จ่าย เพราะอิสลามห้ามความสุรุ่ยสุร่าย และใครก็ตามที่ใช้จ่ายโดยไร้เหตุผลเขาผู้นั้นคือมิตรของชัยฎอน คนที่เป็นมิตรกับชัยฎอนจะไม่คำนึงถึงความชอบทำใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้ถูกใจตนเองเพียงอย่างเดียวก็พอ  ดังนั้นคนที่มีรายได้ต่ำแต่รสนิยมสูงจะเดินตามรอยเท้าชัยฎอน แล้วในที่สุดก็ติดกับดักของชัยฎอน เมื่อนั้นแหละที่รู้ตัวว่าเดินทางผิด มีหนี้สินติดตัวจนกระทั่งคิดฆ่าตัวตายในที่สุด

         อิสลามสอนให้ขยันทำมาหากิน โดยไม่มีคำว่าวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ แต่ต้องไม่ละเลยต่อหน้าที่อันพึงปฏิบัติต่ออัลเลาะห์ที่เรียกว่า อิบาดะฮ์

ดังที่อัลกรุอานได้ระบุไว้ว่าความว่า

"ดังนั้นเมื่อการละหมาดจบลง จงกระจายไปตามหน้าแผ่นดิน และแสวงหาจากความโปรดปรานของอัลเลาะฮ์"

 

          การได้ปัจจัยยังชีพ คือการได้ความโปรดปรานจากอัลเลาะฮ์ ไม่ใช่การได้มาเพราะความสามารถของตัวเอง แต่ทุกคนต้องเป็นผู้แสวงหาความรู้ความสามารถในการแสวงหาปัจจัยยังชีพ โดยที่ไม่ลืมความเมตตาจากอัลเลาะฮ์  แม้ว่าตัวเองจะมีความสามารถขนาดไหนก็ตาม

          อาชีพทุกอาชีพที่ฮะลาลถูกต้องตามหลักการอิสลาม ถือว่าเป็นงานที่มีเกียรติทั้งสิ้น แม้จะเป็นอาชีพของการเผาถ่าน  ดังที่ท่านนบี  ได้กล่าวไว้ว่า

 

“หากคนหนึ่งในหมู่ท่านเอาเชือกขึ้นไปอยู่บนภูเขาแล้วมัดฟืนขึ้นบ่าแบกมาขายที่ตลาด และอัลเลาะฮ์ให้ดำรงชีวิตได้ด้วยงานนั้น

ย่อมเป็นการดีแก่เขามากกว่าที่จะไปขอจากผู้คนไม่ว่าพวกเขาจะให้เขาหรือไม่ให้เขา”

 (บันทึกโดยบุคอรีย์)

          และท่านนบี  ได้อ้างถึงนบีดาวูด ท่านจะทานอาหารเฉพาะจากผลงานที่ทำมาด้วยมือของตัวเองเท่านั้น โดยไม่เคยคิดขอทานจากคนหนึ่งคนใด ดังนั้นบรรดาศอฮาบะฮ์ของท่านนบี จึงเป็นผู้ขยันทำงาน แม้หลังละหมาดวันศุกร์ ก็เร่งรีบออกไปทำงานแสวงหาปัจจัยยังชีพเพื่อครอบครัวและตนเอง

         นอกจากนี้ท่านนบีซะกะรียายังมีอาชีพเป็นช่างไม้ โดยไม่ได้คิดว่าการเป็นช่างไม้เป็นอาชีพที่ไม่เหมาะสมกับการเป็นศาสนทูตแต่อย่างใด ท่านทำหน้าที่เผยแผ่ศาสนา และก็ไม่ได้ละทิ้งการทำมาหากิน

ท่านนบี  ได้ย้ำว่า อาหารที่ดีที่สุดของคนๆ หนึ่งก็คืออาหารที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ดังเช่นในกรณีของนบีดาวุด

(บันทึกโดยบุคอรีย์)

การเป็นคนขยันทำมาหากินแม้จะถือว่าเป็นคนดีแล้วก็ตาม แต่ได้มีผู้ถามท่านนบี ว่า  มุสลิมแบบใดที่ดีที่สุด

ท่านตอบว่า คือผู้ที่ให้อาหาร และให้สลามแก่คนที่รู้จัก และไม่รู้จัก

 (บันทึกโดยบุคอรีย์และมุสลิม)

ขอเรียกร้องพี่น้องมุสลิมทุกคนขอให้คิดเป็นมือบน และอย่าคิดเป็นแต่มือล่างที่คอยแบขอ เพื่อศักดิ์ศรีของประชาชาติของท่านศาสนทูตมุฮัมหมัด...

 

มูลนิธิ ชี้นำสู่สันติสุข