บททบทวนตนของทุกลมหายใจ
ยูซุฟ อบูบักรฺ แปล/เรียบเรียง
คืนวันล่วงเลยเปลี่ยนผันไม่หยุดพัก ปีเก่า(ฮ.ศ 1428) ได้จากเราไป ปีใหม่ (ฮ.ศ 1429) เข้ามาแทนที่อย่างรวดเร็วจนพวกเรา(บางคน)มิทันรู้ตัว ผ่านแล้วก็ผ่านเลยไป มิมีการเอาใจใส่ไตร่ตรองหรือขบคิดกับช่วงชีวิตที่เลยผ่าน แต่สำหรับมุมินทุกลมหายใจของเขาไม่ว่าที่ผ่านมาหรือในขณะที่ดำเนินอยู่และในอนาคต จะไม่มีช่วงวินาทีใดที่สูญเสียไปโดยมิได้รับกำไรอะไรเลย
แท้จริงชีวิตมุมินนั้นเปรียบได้ดั่งพ่อค้าใหญ่ ซึ่งเขาจำเป็นจะต้องตรวจเช็คบัญชีรายรับรายจ่ายของตนเองอยู่ตลอดเวลา และเมื่อครบหนึ่งปีเขาก็ไม่ลืมที่จะสรุปยอดบัญชีรายปีของเขา เพื่อที่จะได้รู้ถึงยอดสุทธิว่าได้กำไรหรือขาดทุน เขาจะต้องเป็นผู้ที่เฝ้าคอยตั้งคำถามแก่ตนเองอยู่ตลอดว่า :
เขานั้นได้พยายามนำพาชีวิตให้ใกล้ชิดกับความเมตตาของอัลลอฮฺมากน้อยแค่ไหน ?
จิตใจของเขานั้นยังมั่นคงยึดมั่นอยู่กับการเคารพภักดีต่อพระองค์อยู่หรือไม่ ?
และอีกหลาย ๆ คำถามที่จะทำให้ความภักดีที่เขามีต่ออัลลอฮฺนั้นเพิ่มพูนขึ้น สำหรับการเตรียมตัวดังกล่าวอัลลอฮฺได้ในย้ำไว้ในอัลกุรอาน ความว่า
“โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย พวกเจ้าจงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด
และทุกชีวิตจงพิจารณาดูว่าอะไรบ้างที่ได้เตรียมไว้สำหรับวันพรุ่ง(วันกิยามะฮฺ)
และจงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้รู้ดียิ่งต่อสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ
และพวกเจ้าอย่าได้เป็นเช่นบรรดาผู้ที่ลืมอัลลอฮฺ
มิฉะนั้นอัลลอฮฺจะทรงทำให้พวกเขาลืมตัวของพวกเขาเอง ชนเหล่านั้นพวกเขาเป็นบรรดาผู้ฝ่าฝืน”
(อัล-หัชรฺ/18-19)
ฉะนั้นการทบทวนบทบาทของตนเอง ถือเป็นหนึ่งแห่งกระบวนการที่จำเป็นต่อการขัดเกลาจิตวิญญาณของปวงบ่าวผู้ศรัทธา เป็นสิ่งสำคัญในการประเมินตน เพื่อที่จะยืนหยัดมั่นคงอยู่บนแนวทางอันเที่ยงตรง อัลลอฮฺทรงกำชับให้ปวงบ่าวผู้ศรัทธาเกรงกลัวต่อการฝ่าฝืนบัญญัติของพระองค์ และให้ประเมินตนต่อกิจการงานที่ผ่านเลยมาก่อนที่จะไปยืนเผชิญหน้าต่อพระองค์ ในวันที่ไม่มีการช่วยเหลือหรือให้โอกาสแก้ตัวใด ๆ และสำหรับผู้ที่ประกอบการงานที่ดีเพื่อพระองค์ แน่นอนการงานของพวกเขาจะไม่สูญเปล่า ดังที่พระองค์ได้ทรงตรัสไว้ความว่า
“จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดว่า พวกท่านจงทำงานเถิด แล้วอัลลอฮฺจะทรงเห็นการงานของพวกท่าน
และรอซูลของพระองค์ และบรรดามุมินก็เห็นด้วย
และพวกท่านจะถูกนำกลับไปยังพระองค์ ผู้ทรงรอบรู้ในสิ่งที่เร้นลับและสิ่งที่เปิดเผย
แล้วพระองค์จะทรงแจ้งแก่พวกท่านในสิ่งที่พวกท่านได้กระทำไว้”
(อัตเตาบะฮฺ / 105)
สำหรับผู้ที่ศรัทธาและยอมจำนนตน จงขอบคุณต่ออัลลอฮฺเถิด ต่อทางนำที่พระองค์ทรงชี้แนะ ต่ออัลอิสลาม จงขอบคุณต่อการช่วยเหลือของพระองค์เถิด ต่อกำลังเรี่ยวแรง ต่อทุกลมหายใจที่ได้ใช้ออกไปเพื่ออิบาดะฮฺต่อพระองค์ และจงอย่าได้ลืมตำหนิตัวเองในสิ่งที่บกพร่อง พร้อมทั้งให้มีความตั้งใจอย่างมุ่งมั่นที่จะกระทำทดแทน ชดเชยในสิ่งที่ขาดหายไป วางแผนใหม่เพื่อที่จะกระทำความดีงามต่าง ๆ ให้เพิ่มพูนในวันต่อไป ปีต่อไป และจงพยายามเบือนหน้าออกห่างจากสิ่งที่เป็นมะศิยัต(การฝ่าฝืน)ในทุกรูปแบบ แท้จริงสำหรับผู้กลับเนื้อกลับตัวนั้นเขาจะได้รับความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่ ดังที่อัลลอฮฺได้ตรัสไว้ในคัมภีร์ของพระองค์ ความว่า
“นอกจากผู้ที่กลับเนื้อกลับตัว และผู้ที่ศรัทธา และประกอบคุณงามความดี
เขาเหล่านั้นแหละอัลลอฮฺจะทรงเปลี่ยนความชั่วของเขาเป็นความดี
และอัลลอฮฺทรงเป็นผู้ให้อภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ”
(อัลฟุรกอน / 70)
สำหรับการทบทวนตนเองท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ยังได้ตอกย้ำผ่านวจนะของท่านให้เราได้ทราบซึ่งมีใจความว่า
“คนฉลาดคือ ผู้ที่ทบทวนตัวเองและทำงานเตรียมไว้หลังจากความตาย
ส่วนคนโง่คือผู้ที่ทำตามอารมณ์ใฝ่ต่ำของตนเอง และหวังต่ออัลลอฮฺอย่างลม ๆ แล้ง ๆ”
(โดยอิหม่ามอะห์มัด)
มุสลิมเชื่อว่าจะมีการสอบสวนต่อทุกการงานในโลกแห่งอาคิเราะฮฺ ณ เบื้องหน้าพระพักตร์ของอัลลอฮฺ เช่นที่มีปรากฏในอัลกุรอานหลาย ๆ อายะฮฺที่พูดถึงวันกิยามะฮฺ ขณะที่อัลลอฮฺทรงยกบัญชีขึ้นบนตาชั่ง และบัญชีนั้นจะถูกนำมาแสดงต่อหน้ามนุษย์ทุกคนอย่างละเอียดถี่ถ้วน
“และเราจะตั้งตราชูที่เที่ยงธรรมสำหรับวันกิยามะฮฺดังนั้นจะไม่มีชีวิตใดถูกอธรรมแต่อย่างใดเลย
และแม้ว่ามันเป็นเพียงน้ำหนักเท่าเมล็ดพืชเล็กเราก็จะนำมันมาแสดง
และเป็นการพอเพียงแล้วสำหรับเราที่เป็นผู้ชำระสอบสวน”
(อัลอัมบิยาอ์ / 47)
ท่านอุมัร บินค็อฏฏอบ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ส่งสาส์นไปยังอบีมูซา อัลอัชอารีย์ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่า
“จงตรวจสอบตัวของท่านขณะที่ท่านมีความสุข ก่อนที่จะตรวจสอบขณะที่ท่านมีความทุกข์”
และมีบันทึกว่าท่านอุมัร บินค็อฏฏอบ เมื่อถึงยามค่ำคืน (ก่อนนอน) ท่านจะเอาไม้มาตีที่ฝ่าเท้าของท่านเอง และท่านจะถามว่า วันนี้เจ้าได้ทำอะไรไปบ้างแล้วหรือยัง ?
ความข้างต้นเป็นประหนึ่งการย้ำให้มุสลิมได้ตระหนักว่าจะต้องรำลึกอยู่เสมอถึงวินาทีที่เขาต้องยืนเผชิญหน้ากับอัลลอฮฺในวันกิยามะฮฺ เพื่อที่พระองค์จะได้คิดบัญชีถึงสินค้าที่เขาได้เคยแบกมันไว้เหนือบ่าของพวกเขา ขณะที่เขาได้ดำรงไว้ซึ่งอิสลาม และต่อถ้อยคำที่เขาได้กล่าวปฎิญาน “ฉันขอปฏิญานตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และมุฮัมมัดเป็นศาสทูตของพระองค์” ต่อจากนั้นเขาได้เลือกยึดเอาหลักการอิสลามและหลักการอีมานมาเป็นพันธะสัญญา !!! เพื่อได้เป็นข้อย้ำเตือนว่าเขาได้ปฎิบัติจริงตามนั้นหรือไม่อย่างไร !?
ท่านฮะซัน อัลบัศรีย์ กล่าวว่า
“มุมินคือผู้ที่ตรวจสอบตนเองอยู่เนืองนิตย์ก่อนที่อัลลอฮฺ จะตรวจสอบเขา การตรวจสอบบัญชีของเขาในวันกิยามะฮฺนั้นเป็นไปอย่างง่ายดาย และจะยังความสบายใจให้กับเขา แต่จะเป็นเรื่องที่ยากลำบากยิ่ง พร้อมทั้งหนักอึ้งสำหรับบัญชีของผู้ที่ได้ปฎิบัติกิจการงานและใช้ชีวิตไปในดุนยาโดยมิได้ตรวจสอบไตร่ตรองทบทวนตนเองเลย”