ความรู้เกี่ยวกับการเงินอิสลามในตะวันออกกลาง
นิพล แสงศรี
ปัจจุบันสถาบันการเงินและธนาคารอิสลามเติบโตอย่างรวดเร็วเฉลี่ยร้อยละ 15 ต่อปีในระดับโลก และร้อยละ 20 ในกลุ่มประเทศสมาชิก OIC โดยพบสถาบันการเงินและธนาคารอิสลามราว 300 แห่งทั่วโลกและมีเงินหมุนเวียนกว่า 7 แสนล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านๆ ดอลลาร์ในปี 2013 อีกทั้งยังมีส่วนที่บริหารแบบเป็นกองทุนเพื่อการลงทุนอีกราว 200,000-300,000 ล้านดอลลาร์
ในโลกอิสลามระบบอัลมุฏอเราะบะฮฺ เป็นระบบที่มีความสำคัญมากต่อการกระจายทรัพยากรและทรัพย์สินแทนระบบดอกเบี้ย ตลอดจนเป็นช่องทางหาทุนเพิ่มหรือหากำไรเพิ่มของสถาบันการเงินและธนาคารอิสลาม ดังนั้นกองทุน บริษัท สถาบันการเงิน และธนาคารอิสลามล้วนถูกก่อตั้งบนหลักการ al-Sharikah และหลักการ al-Mudharabah
สถาบันการเงินและธนาคารอิสลามอาศัยนโยบายกำกับบริหารดูแลอย่างรัดกุม และเข้าใจถึงกลไกเศรษฐกิจโลกภายใต้กฎหมายชะรีอะฮฺ เช่น ห้ามการลงทุนและทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ย (al-Riba) การพนัน (al-Qimar and al-Gharar) ความเสี่ยง (Khatar) การหลอกลวง (Gharar) การเอารัดเอาเปรียบ (Istiglal) และการแทรกแซงทางการตลาด (al-Tadakkhul Fi al-Suq) โดยอาศัยธนาคารพาณิชย์อิสลาม (Masaref al-Islamiyah) บริษัทประกัน (al-Sharikah al-Tamin) กองทุนรวมและวาณิชธนกิจ (al-Mudharabah) เป็นตัวกลางสำคัญทางระบบการเงินและการลงทุนโดยอาศัยหลัก al-Musharakah and al-Mudharabah
บริการทางการเงินมีทั้งในรูปแบบการให้บริการด้านเงินฝาก ได้แก่ บัญชีเงินฝากเพื่อการเก็บออม (Wadiah) หรือบัญชีเงินฝากเพื่อการลงทุน (Mudharabah) และในรูปแบบการให้บริการด้านสินเชื่อ (al-Tamweel) ได้แก่ สินเชื่อเพื่อธุรกิจ สินเชื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ สินเชื่อหมุนเวียน ตั๋วและภาระผูกพัน สินเชื่อเพื่อการอุบโภคและบริโภค สินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ และอื่นๆ
สถาบันการเงินและธนาคารอิสลามจะระดมเงินฝาก เพื่อรักษาความปลอดภัยจากประชาชน นักธุรกิจ และนักลงทุน โดยสถาบันการเงินและธนาคารอิสลามจะรับผิดชอบจ่ายคืนเมื่อต้องการเบิกจ่าย เรียกว่า บัชญีอัลวะดีอะฮฺ หรือ บัชญีเงินฝากออมทรัพย์ โดยอาจจะคิดค่าธรรมเนียมหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมแล้วแต่กรณี แต่ยินยอมให้นำไปแสวงหาผลกำไรที่ไม่ขัดต่อกฎหมายอิสลาม หรือถ้าต้องกำไรก็ต้องใช้บริการบัญชีเงินฝากเพื่อการลงทุนร่วมกับธนาคาร ซึ่งจะมีอัตรากำไรต่อปีตามสัดส่วนการลงทุนที่ไม่ขัดต่อกฎหมายอิสลาม หรือถ้าต้องการบ้าน รถยนต์ และอื่นๆ สถาบันการเงินและธนาคารอิสลามจะใช้วิธีซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ ตามความต้องการลูกค้ามาครอบครองไว้ก่อนจะต่อให้ลูกค้าโดยบวกกำไรเพิ่ม เช่น ซื้อมาในราคา 700,000 บาท ขายด้วยเงินสดในราคา 750,000 บาท หรือลูกค้าอาจจะซื้อรถยนต์ต่อจากธนาคารด้วยราคาข้างต้น โดยอาศัยการผ่อนชำระกับธนาคารภายในเวลา 5 ปี หรือจ่ายเป็นงวดๆ รายเดือนหรือรายปี วิธีดังกล่าวมักเรียกว่า al-Tamweel
แม้สถาบันการเงินและธนาคารอิสลามจะปล่อยเงินกู้ยืม โดยไม่คิดดอกเบี้ยแต่ก็มีเงื่อนไขบางประการได้แก่(1) กู้ยืมได้ตามสัดส่วนของเงินที่ฝากกับธนาคารเท่านั้น
(2) และผู้กู้ยืมจะต้องจ่ายคืนตามระยะเวลาที่กำหนดและตกลงกัน
(3) ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
อย่างไรก็ตามสถาบันการเงินและธนาคารก็ได้รับอนุญาตให้นำเงินทุนที่เหลือไปลงทุนในกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ ที่มีผลกำไรที่ไม่ขัดต่อกฎหมายอิสลาม ซึ่งเป็นคำตอบว่าสถาบันการเงินและธนาคารอิสลามจะได้อะไรเมื่อปล่อยเงินกู้ ส่วนลูกค้าบางรายอาจจะไม่มีเงินฝากกับสถาบันการเงินและธนาคารอิสลามหรือขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน บอร์ดของสถาบันการเงินและธนาคารอิสลามจะเป็นผู้พิจารณา
รายได้บางส่วนของสถาบันการงินและธนาคารอิสลาม จะถูกนำมาใช้จ่ายด้านบริหารจัดการของสถาบัน เช่น ค่าจ้างพนักงาน หรือนำไปใช้ในการลงทุนด้านอุตสาหกรรมและการจ้างผลิตภัณฑ์ และอื่นๆ โดยรายได้ส่วนใหญ่ของสถาบันการงินและธนาคารอิสลามจะได้มาจากงานบริการที่คิดค่าธรรมเนียมต่างๆ ได้แก่(1) บริการเก็บรักษาทรัพย์สิน บริการเงินโอน บริการรับส่งสินค้าทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ
(2) การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในนามลูกค้า (วะกาละฮฺ) ตามกระบวนการทางกฎหมายอิสลาม
(3) การช่วยเหลือนักธุรกิจและนักลงทุนในการจัดตั้ง ขยายธุรกิจ จัดซื้อเครื่องจักร และวัตถุดิบอื่นๆ
(4) การจัดหาผู้เชี่ยวชาญมาให้คำปรึกษาทางธุรกิจ การเงิน สินเชื่อ และการลงทุน
(5) การนำเงินไปลงทุนตามหลักการหุ้นส่วนมุชาเราะกะฮฺและหลักการลงทุนมุฎอเราะบะฮฺ
(6) การจัดซื้อหุ้นการค้าหรือนำเงินทุนของลูกค้าไปลงทุนในสถาบันการค้าต่างๆ แทนลูกค้า ส่วนกรณีสถาบันการงินและธนาคารอิสลามต้องการระดมเงินทุนเพื่อการลงทุน อาจจะมีการยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมแล้วแต่กรณี
(7) และบริการด้านสินเชื่อประเภทต่างๆ หรือเรียกว่า al-Taweel
ผลิตภัณฑ์ทางการเงินอิสลามมักถูกนำมาประยุกต์ใช้ทั้งในรูปแบบเอกเทศ เช่น General Investment deposit จะใช้หลัก al-Mudharabah และ Revolving Financing จะใช้หลัก Bai ‘a al-‘Anah ส่วน Leasing จะใช้หลัก Ijarah และในรูปแบบใช้งานร่วมกัน เช่น พันธบัตรอิสลามจะใช้หลัก al-Mudharabah ร่วมกับ Mushrakah + Istisna และ Ijarah สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจะใช้หลัก Ijarah Wa Istina /Diminishing al-Musharaka ส่วนการเช่าซื้อจะใช้หลัก Ijarah Thumma al-Bai ‘a
ความยืดหยุ่นของสถาบันการเงินและธนาคารอิสลามเป็นตัวส่งสัญญาณถึงอนาคตที่ดี น่าตื่นตาตื่นใจ และเป็นระบบการเงินที่วางพื้นฐานอยู่บนคุณค่าทางศีลธรรมมากกว่าความโลภและความกลัว สิ่งเหล่านี้ทำให้การเงินอิสลามมีแนวโน้มเป็นที่นิยมกันมากขึ้น เพราะนักลงทุนต่างเล็งหาแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยกว่าเดิม โดยเฉพาะหลังตราสารอนุพันธ์ของโลกตะวันตกประสบปัญหาวิกฤตการเงินโลก เช่น ในลอนดอนพบธนาคารอิสลามอยู่ 5 แห่ง และในฝรั่งเศสเปิดธนาคารอิสลามแห่งแรกขึ้นในปี ค.ศ.2009 จากการประเมินแบบอนุรักษ์ของนายธนาคารในเดือนตุลาคม ค.ศ.2008 สินทรัพย์การเงินอิสลามทั่วโลกมีเกินกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ ตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทศวรรษหน้า และด้วยข้อจำกัดและความแตกต่างของระบบอิสลามิกไฟแนนซ์ (Islamic Finance) จากระบบการเงินทั่วไป ทำให้มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงของโลกหลายแห่งเห็นความสำคัญ และได้เปิดหลักสูตรอิสลามิกไฟแนนซ์ขึ้น เช่น มหาวิทยาลัยสตราส์บวก คณะบริหารธุรกิจ (ฝรั่งเศส) เปิดหลักสูตรปริญญาโทด้านอิสลามมิกไฟแนนซ์ จนกลายเป็นที่ยอมรับและมีการพูดถึง เศรษฐศาสตร์อิสลามกันมากขึ้นเรื่อยๆ
การเงินอิสลามอยู่ภายใต้หลักชารีอะฮฺ (Shari‘ah) ซึ่งเป็นทั้งระบบกฎหมายและจริยธรรมที่มีความชัดเจน เอกลักษณ์ดังกล่าวทำให้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินอิสลามมีความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั่วๆไป จนกลายเป็นระบบที่ได้รับการยอมรับก่อนจะกระจายอยู่ทั่วโลกมุสลิม ปัจจุบันหลายประเทศกำลังให้ความสนใจต่อผลิตภัณฑ์ทางการเงินอิสลาม โดยเฉพาะมาเลเซียพยายามผลักดันให้ตนเองกลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินประจำเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ขณะที่อังกฤษพยามกระตุ้นสถาบันการเงินและธนาคารภายในประเทศให้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินอิสลามประจำยุโรป
ที่มา
- al-Ashqari, Muhammad Sulaiman, et.al. 1998. Qadhaya Iqtisadiyah Mu ‘a sarah. Jordan. Dar al-Nafais.
-Obaid Allah, Muhammad, 2005, Islamic Financail Services, Saudi Arabia, King Abdulaziz University.
-www.alrajhibank.com.sa/ (ธนาคารอัรรอญิฮีย์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย)
-www.nbad.com/ (ธนาคารแห่งชาติอะบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต)