ประเด็นเรื่อง : ถ้าเนื้อที่ได้มาไม่ได้กล่าวพระนามของอัลลอฮ์ดังที่ตอนเชือด
คำถาม :ถ้าเนื้อแกะที่ได้มาไม่ได้กล่าวพระนามของอัลลอฮ์ดังที่มุสลิมกระทำ อันเนื่องจากพวกเขาเชื่อในเรื่องตรีเอกานุภาพ ศาสนาอนุญาตให้รับประทานเนื้อเชือดเหล่านั้นหรือไม่
คำตอบ
ถ้าชาวคัมภีร์ (อะห์ลิลกิตาบ) เชือดและเรารู้กันว่าเขากล่าวนามพระผู้เป็นเจ้าไป ก็ถือว่าอนุญาตให้รับประทานได้ เพราะมันถูกรวมไปในความหมายทั่วไปของความหมายที่ว่า อาหารที่ได้มาจากชาวคัมภีร์นั้นฮะลาลสำหรับสูเจ้า แต่ถ้าเราทราบมาว่าเนื้อเชือดนั้นถูกกล่าวนามอื่นจากพระเจ้าองค์เดียวก็ถือว่าต้องห้าม เพราะอยู่ในความหมายรวม ที่ว่า อย่ากินสิ่งที่ไม่ได้กล่าวพระนามของอัลลออ์ลงบนมันเพราะถือเป็นการฝ่าฝืน ทั้งนี้ยังตรัสว่า ไม่อนุมัตินามอื่นจากอัลลอฮ์ เป็นการเขลาที่จะกล่าวอื่นนอกจากอัลลอฮ์เป็นร้อยครั้งแล้วก็ถือว่าเป็นของอนุมัติให้รับประทานได้ เพราะนี้เป็นหลักการฮะลาลพื้นฐานของความหมายที่ว่า อาหารที่ได้มาจากชาวคัมภีร์น้นอนุมัติสำหรับสูเจ้า
ประเด็นเรื่อง : เชือดโดยการช๊อตไฟฟ้า
คำถาม :มีการเชือดในประเทศมุสลิมโดยวิธีการใช้เครื่องช๊อตไฟฟ้าเพื่อให้สัตว์สลบโดยเครื่องช๊อตจนกระทั่งตกลงบนพื้น จากนั้นผู้เชือดก็จะเชือดทันทีหลังจากสัตว์ตกลงบนพื้น
คำตอบ
ถ้าในกรณีผู้เชือดทำการเชือดทันทีหลังจากสัตว์ตกลงบนพื้นทันทีหลังจากใช้เครื่องช๊อตไฟฟ้า โดยที่ก่อนเชือดสัตว์ยังมีชีวิตอยู่ก็ถือว่าเป็นที่อนุมัติ แต่ถ้าตายก่อนเชือดก็ถือว่าไม่อนุญาตให้รับประทาน เพราะถือเป็นซากสัตว์ตายซึ่งอัลลอฮ์ทรงห้ามไว้ ยกเว้นว่าเราจะเชือดมันทันก่อนตาย คือเชือดให้เลือดไหลพุ่งออก และนี้ก็คือหลักฐานของการเชือดในขณะที่สัตว์มีชิวิตอยู่ พระองค์อัลลอฮ์ผู้ทรงอานุภาพได้ตรัสว่า
เป็นที่ต้องห้ามแก่สูเจ้าซากสำหรับสัตว์ตาย, เลือด, สุกร, และสิ่งที่ถูดเชือดเพื่อการอื่นจากอัลลอฮ์ อีกทั้งสัตว์ที่ถูกบีบรัดคอตาย, ถูกตีตายหรือผลักให้ล้มตาย หรือจากการถูกเขาสัตว์แทงจนตาย และสัตว์ที่ถูกสัตว์ป่ากินเนื้อไปแล้วบางส่วน อย่ากินเนื้อที่ได้มาโดย 7 วิธีดังกล่าวเว้นแต่ท่านสามารถเชือดมันให้ตายก่อน
เป็นที่อนุมัติในเรื่องการเสี่ยงของสัตว์ล่าเนื้อต่อบรรดาสัตว์ที่ต้องกล่าวพระนามของอัลลอฮ์ (ว่าจะแย่งกัดก่อนเจ้าของกล่าวพระนามอัลลอฮ์) ส่วนนอกจากนั้นก็ถือว่าไม่อนุญาตให้รับประทาน
มุฟดี : คณะกรรรมการชี้ขาดถาวรหัวข้อเรื่อง : อาหาร
ที่มาของคำวินิจฉัย : หนังสือฟะตาวาอิสลามีย์
หนังสืออิบนุกะษีร เรื่อง : กล่าวพระนามของอัลลอเมื่อส่่งสุนัขล่าเนื้อเพื่อจับสัตว์อัลลอฮ์ตรัสว่า
[فَكُلُواْ مِمَّآ أَمْسَكْنَ عَلَيْكُمْ وَاذْكُرُواْ اسْمَ اللَّهِ عَلَيْهِ]
(จงกินสิ่งที่พวกมันจับได้ แล้วสูเจ้าก็จงกล่าวพระนามของอัลลอฮ์บนมัน)
ความหมายตรงนี้ท่านรซูล ซ็อลลัลลฮฮุอะลัยฮิ วะซัลลัมบอกกับอิบนุฮาติมว่า มันคือการกล่าวขณะที่ส่งสุนัขล่าเนื้อไปจับ
« ذَا أَرَسَلْتَ كَلْبَكَ الْمُعَلَّمَ، وَذَكَرْتَ اسْمَ اللهِ، فَكُلْ مَا أَمْسَكَ عَلَيْك»
(เมื่อสูเจ้าส่งสุนัขฝึกล่าและให้กล่าวพระนามอัลลอต่อกินจากสิ่งที่มันจับมาให้สูเจ้า)
มีบันทึกไว้ในซอเหียะฮ์ทั้งสองซึ่งอบูเฏาะอ์ละบะฮ์ได้อ้างถึงท่านรซูล ซ็อลลัลลฮฮุอะลัยฮิ วะซัลลัมกล่าวว่า
« إِذَا أَرْسَلْتَ كَلْبَكَ فَاذْكُرِ اسْمَ اللهِ، وَإِذَا رَمَيْتَ بِسَهْمِكَ فَاذْكُرِ اسْمَ الله»
(หากพวกเจ้าส่งสุนัขล่าสัตว์ให้กล่าวพระนามอัลลอฮ์บนเนื้อที่ได้มา หากเจ้าแผลงศรธนูก็ให้กล่าวพระนามอัลลอฮ์ )
ท่านอลี อบี ฏอลฮะห์ได้รายงาน ว่าอิบนิ อับบาสได้ลงความเห็นว่า
[وَاذْكُرُواْ اسْمَ اللَّهِ عَلَيْهِ]
(แต่ให้สู้เจ้ากล่าวพระนามอัลลอฮ์บนมัน)
" เมื่อเราส่งสัตว์ล่าเนื้อไป ให้กล่าว,"บิสมิลละฮ์ ! หากเราลืมก็ไม่มีปัญหาอะไร''
ยังมีรายงานอีกว่า อายะฮ์นี้ยังกล่าวถึงคำสั่งของการกล่าวบิสมิลละฮ์เมื่อขณะรับประทานเนื้อล่า ซึ่งมีการบันทึกไว้ในซอเฮียะห์ทั้งสองที่ท่านรซูล ซ็อลลัลลฮฮุอะลัยฮิ วะซัลลัม ได้สอนลูกเลี้ยง`อุมัร บิน อบูสะละมะฮ์ โดยกล่าวว่า
« سَمِّ اللهَ وَكُلْ بِيَمِينِكَ وَكُلْ مِمَّا يَلِيك»
(จงกล่าวบิสมิลลาฮ์ ให้กินด้วยมือขวาของเจ้าและกินจากส่วนของจานที่อยู่หน้าเจ้า)
อัลบุคอรีย์ได้บันทึกไว้ว่า ท่านหญิงอาอิชะฮ์กล่าวว่า "มีบางคนได้ถามว่า"โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์ ! ได้มีบางคน เพิ่งเปลี่ยนมารับอิสลาม นำเนื้อบางอย่างมาให้เรา แต่ไม่ทราบว่าได้กล่าวบิสมิลลาฮ์หรือไม่'
ท่านรอซูล ซ็อลลัลลฮฮุอะลัยฮิ วะซัลลัม ได้ตอบว่า
«سَمُّوا اللهَ أَنْتُمْ وَكُلُوا» จงกล่าวบิสมิลลาฮ์ แล้วก็กินมัน
ท่านสามารถหาอ่านได้จากเว็บไซต์http://www.islamww.com/islamww/alfatwa.php?id=14287
http://quran.alislam.com/Tafseer/DispTafsser.aspnType=1&nSora=5&nAya=4&taf=KATHEER&l=arb&tashkeel=0
แปลโดย ไฟซ็อล ชีวะดุษฏี