หัวเราะบำบัดสร้างสุขให้ครอบครัว
  จำนวนคนเข้าชม  11245

หัวเราะบำบัดสร้างสุขให้ครอบครัว

 
       ปัจจุบันนี้การหัวเราะบำบัด (Laugh Therapy) เป็นศาสตร์แขนงใหม่ในการบำบัดโรคภัยไข้เจ็บที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายใน ประเทศอินเดีย ประเทศอังกฤษ และประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับเด็กๆ แล้วเสียงหัวเราะเป็นเหมือนเสียงสวรรค์ที่ผู้ใหญ่อยากได้ยิน โดยเฉลี่ยแล้วเด็กๆ หัวเราะ มากกว่า 300 ครั้งต่อวัน ในขณะที่ผู้ใหญ่หัวเราะประมาณ 15 ครั้งต่อวัน
      
       ทั้งนี้เพราะโลกของเด็กๆ สวยงาม น่ารัก ไร้เดียงสา ในขณะที่โลกของผู้ใหญ่นั้นเต็มไปด้วยปัญหาและความเครียด โรคภัยไข้เจ็บที่มีอยู่ในโลกปัจจุบัน มากกว่า 70% เกิดขึ้นจากความเครียด เช่นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ นอนไม่หลับ ปวดหัว (ไมเกรน) ภูมิแพ้ ความวิตกกังวลต่างๆ เป็นต้น ดังนั้นการขาดเสียงหัวเราะในชิวิตส่งผลให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย ชิวิต และจิตใจได้
      
       ประโยชน์มากมายจากการ หัวเราะ คือ
      
       • การหัวเราะช่วยลดความดันโลหิต
       • ช่วยลดฮอร์โมนความเครียด
       • ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
       • ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย
       • ช่วยให้ร่างกายผลิตสารเอ็นโดฟินซึ่งเป็นสารแห่งความสุข
       • เป็นยาแก้ปวดที่ร่างกายสร้างขึ้นโดยธรรมชาติ
       • ช่วยให้ปอดแข็งแรง
       • ช่วยให้หัวใจมีการสูบฉีดโลหิตที่ดี
       • ช่วยให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
       • การหัวเราะสร้างเสน่ห์
       • ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
       • ช่วยเปิดสมองให้แจ่มใส


       นอกจากนี้สำหรับเด็กแล้ว การที่เด็กได้ยิ้มและหัวเราะเป็นการช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านอารมณ์และ สังคมของเด็กได้ดีอีกวิธีหนึ่งด้วย คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างเสียงหัวเราะให้ลูกด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
      
       1. หอมพุง และเอาปากเป่าที่พุงลูก ทำเสียงแปลกๆ เด็กเล็กๆ จะชอบมาก ยิ่งถ้าเป็นเสียงผายลมเด็กๆ จะยิ่งหัวเราะคิกคัก
      
       2. แกล้งจาม เด็กเล็กๆ ชอบฟังเสียงแปลกๆ แต่ไม่น่ากลัว ดังนั้นการแกล้งจามจึงเป็นวิธีหนึ่งที่เรียกเสียงหัวเราะของเด็กได้
      
       3. เล่นเกม "จ๊ะเอ๋" เป็นการเล่นที่ง่ายๆ และเด็กชอบมาก
      
       4. ทำหน้าและท่าทางตลกๆ กับลูก เช่น ผลัดกันทำหน้าเหมือนกบ เลียนแบบท่าเดินของเป็ด ซึ่งการเล่นแบบนี้จะทำให้เด็กชอบและสนุกสนานมากทีเดียว
      
       5. กระดกลิ้น เป่าปาก ประสานสายตามองเด็กๆ ด้วยความอ่อนโยน และยิ้มกับลูก
      
       6. เอาของเล่นหรือตัวสัตว์วางที่หัว เมื่อเด็กๆ เริ่มให้ความสนใจแล้ว ทำท่าตลกๆ ทำเหมือนไม่รู้ว่าอะไรอยู่ที่หัว และในที่สุดพูดว่าอยู่นี่เอง
      
       7. เต้นรำกับลูก เด็กบางคนชอบโยกตัวเต้นรำกับคุณพ่อคุณแม่ แต่ต้องระวังอย่าเขย่า หรือสั่นศรีษะลูกเพราะจะกระทบกระเทือนสมองได้
      
       8. เด็กบางคนชอบให้คุณพ่อ โยนแล้วรับ แต่ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ
      
       9. เล่นเกมปูไต่หลังหรือจั๊กจี๊ เอวและเท้า เด็กๆ ส่วนใหญ่ชอบเล่นเกมนี้มาก แต่ต้องสังเกตความชอบของเด็กด้วย เด็กบางคนไวต่อการสัมผัส และอาจเกิดผลเสียได้
      
       10. จับเท้าเล็กๆ ของลูกแล้วแกล้งเอาเข้าปาก ทำเสียงตลกๆ ที่ไม่น่ากลัว ง่ำ ง่ำ ง่ำ ง่ำ จะเรียกเสียงหัวเราะของเด็กได้เช่นกัน
      
       11. หากเป็นเด็กโต ที่รู้เรื่องแล้วอาจแกล้งพูดประโยคผิดๆ เช่น เอารองเท้ามาใส่นมให้แม่หน่อย หรือเอาก้อนหินมาใส่กะทะ เป็นต้น เด็กจะหัวเราะแล้วยิ้มพร้อมทั้งแก้ประโยคให้คุณพ่อคุณแม่
      
       12. แต่งตัวตลกๆ ให้ลูกเห็น เช่น เอารองเท้ามาใส่ที่มือ เอาถุงเท้าใส่ที่แขน เอากางเกงมาสวมที่ศีรษะ เป็นต้น เด็กจะรีบบอกทันทีว่า "ไม่ได้" แล้วหัวเราะคิกคัก
      
      
เสียงหัวเราะของเด็กๆ เป็นเหมือนเสียงสวรรค์ที่สร้างความสุขให้กับทุกคนในครอบครัว ทั้งยังเป็นเหมือนยาวิเศษที่ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยอ่อนจากการทำงานของคุณ พ่อคุณแม่ให้หายไปในพริบตาอีกด้วย ดังนั้นวันนี้เรามาสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะในครอบครัวกันเถอะค่ะ


Life & Family /ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ