เรียนอย่างไรไม่สูญเปล่า
ซุบฮานัลลอฮ์ มวลการสรรเสริญทั้งหลายทั้งในชั้นฟ้า และแผ่นดินเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ผู้ทรงสร้างทุกสิ่งมาอย่างไม่ไร้สาระ ผู้ทรงเมตตามวลมนุษยชาติอย่างตอบแทนไม่ได้ หนึ่งปีของชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยได้วนเวียนให้มีน้องใหม่ ที่น่ารักสดใสเข้ามาพร้อมรับความเป็นนักศึกษา ด้วยหัวใจทีพองโต ดีใจที่ได้มีพี่น้องสมาชิกในมหาวิทยาลัยของเราเพิ่มมากขึ้น อัลฮัมดุลิ้ลลาห์ นับเป็นความเมตตาของอัลลอฮ์ ที่ให้น้องๆทุกคนได้เข้ามาในที่แห่งนี้ ที่ๆเราจะเดินไปพร้อมๆกัน คอยช่วยเหลือกัน คอยตักเตือนซึ่งกันและกัน โดยที่ทุกๆอย่างจะมาจากความเมตตาของอัลลอฮ์ ทั้งสิ้น
อัลฮัมดุลิ้ลลาฮ์ ในการที่น้องๆได้เข้ามาเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย แน่นอนทุกคนต้องรู้ว่าหาใช่ความสามารถของตนเองทั้งหมด หากแต่เป็นความเมตตาของผู้ทรงเมตตาอีกด้วย ที่เมตตาให้ได้มีโอกาสมาเรียนตามสิ่งที่หวังไว้หรือไม่ก็ตาม
อันดับแรก มนุษย์นั้นต้องขอบคุณอัลลอฮฺ ที่ได้ให้ความเมตตา ซึ่งต่างคนมีเจตนาที่ต่างกันไป หากพูดถึงการเรียนที่ไม่สูญเปล่าแล้วละก็ มาดูกันว่าเป็นอย่างไร ?
"มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ท่าน ไม่มีความรู้ใดๆแก่พวกข้าพระองค์
นอกจากสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสอนพวกข้าพระองค์เท่านั้น แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ"
(อัลบะกอเราะห์ : 32)
แน่นอนว่าอิสลามได้ให้ความสำคัญในการศึกษาหาความรู้ตั้งแต่อยู่ในเปลจนถึงหลุมฝังศพ และก็ไม่ได้จำกัดด้วยว่าจะเป็นความรู้ในแบบใด แต่ทุกความรู้ที่เราได้ศึกษานั้น เมื่อได้เรียนไปแล้วมันกลับไม่ได้ทำให้ชีวิตของเรากับอัลอิสลามที่อยู่ในตัวเราได้ดีขึ้นมาเลย หรืออาจเข้าขั้นวิกฤติของศรัทธาก็ได้ เมื่อถึงเวลานั้นเราคงต้องกลับมาทบทวนใหม่ว่า ทำไม? และนั่นอาจเป็นเพราะว่าเราไม่ได้นำอัลกุรอ่าน มาบูรณาการใช้ในชีวิตของเรา หรืออาจเป็นไปได้ว่าความศรัทธาที่ยังอยู่ในจิตใจนั้น มันลึกเกินไปที่เราจะหยั่งถึง แม้ว่าวิชาความรู้ และศาสตร์ต่างๆที่ได้เล่าเรียนนั้น ไม่มีเนื้อหาอัลกุรอ่านที่ขัดแจ้งสอดแทรกอยู่ แต่เราต้องทำให้อัลกุรอ่านสอดแทรกอยู่ในสิ่งที่เราได้เรียน
แน่นอน และ แน่นอนที่สุด อัลกุรอ่าน คือศาสตร์ที่มีอยู่ในทุกศาสตร์ แต่อยู่ที่ว่าคุณได้นำมาประยุกต์ใช้หรือไม่ !
ปัญหา คือ การที่เราไม่รู้ว่าเราจะนำอัลกุรอ่าน หรือหะดีษต่างๆไปบูรณาการให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร เนื่องจากเราไม่ได้ศึกษา และ ณ เวลานี้ ตอนนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่ กำลังมีเวลาว่างอยู่บ้างหรือไม่ ถ้ามีเวลาก็อย่าปล่อยเวลาให้สูญเปล่า หยิบศาสตร์ของอิสลามขึ้นมาเปิดอ่านเลย !
วิธีแก้ คือ หลังจากนี้ต่อไป เราจะต้องศึกษาอัลกุรอ่านและความรู้อิสลามควบคู่ไปกับการเรียน แล้วเราจะสามารถนำความรู้เหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ อินชาอัลลอฮฺ
ประโยชน์ จะทำให้วิชาที่เราได้ศึกษานั้นเป็นการเรียนที่ไม่สูญเปล่า เป็นการเรียนที่ทำให้หัวใจ รำลึกถึงอัลลอฮ์ ได้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะไม่มีตัวอักษรภาษาอาหรับในบทเรียน แต่เป็นการเรียนที่ทำให้หัวใจเข้าใกล้ชิดผู้สร้างได้เหมือนกัน แน่นอนว่าเป็นการเรียนที่ไม่ได้แค่เพียงโลกนี้ แต่เป็นการเรียนที่ได้ทั้งโลกนี้และโลกหน้า อินชาอัลลอฮ์ ต่างกันลิบลับหากเทียบถึงประโยชน์ และเท่ห์กว่ากันเยอะเลย เป็นชีวิตที่มีสีสัน เป็นการเรียนที่ไม่น่าเบื่อ เพราะเมื่อคุณเรียนคุณจะนึกเสมอว่า สิ่งที่เราเรียนนั้นสัมพันธ์กับเนื้อหาในอัลกุรอ่านอย่างไร และจะทำให้เราไม่ขี้เกียจที่จะเรียน เพราะเราแสวงหาความรู้เพื่อได้รับประโยชน์สูงสุด เป็นการเรียนที่มีจุดหมาย นั่นคือ เรียนเพื่อให้ได้รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของผู้สร้าง นั่นคือ อัลลอฮ์
"ผู้ทรงสอนมนุษย์ในสิ่งที่เขาไม่รู้"
(อัลอะลัก:5)
อินชาอัลลอฮ์ นั่นจะเป็นการเรียนที่ไม่ใช่แค่การเรียนในห้องเรียน เป็นการเรียนที่สามารถปรับเปลี่ยนมุมมองความคิด เป็นการเรียนที่ทุกครั้งเริ่มด้วยพระนามของอัลลอฮ์ แน่นอนยิ่งว่าเราศึกษาเพื่อแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮ์ และเพื่อให้ได้รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์
มาชาอัลลอฮ์ แค่มดตัวเดียว ก็เรียนกันได้เป็นปีๆ อย่างน้อยการเรียนของเราก็ต่างจากการเรียนของผู้ปฏิเสธ เราไม่ได้เรียนเพื่อหวังคะแนน แต่เราเรียนเพื่อหวังความเมตตาจากผู้ทรงสร้างต่างหาก
"แล้วพวกเจ้าจะไปทางไหนเล่า อัลกุรอ่านนั้นมิใช่อื่นใด นอกจากเป็นข้อตักเตือนแก่ประชาชาติทั้งมวล
สำหรับบุคคลในหมู่พวกเจ้าที่ประสงค์จะอยู่ในทางอันเที่ยงตรง
และพวกเจ้าจะไม่สมประสงค์สิ่งใด เว้นแต่อัลลอฮ์พระเจ้าแห่งสากลโลกจะทรงประสงค์"
(อัลตักวีรฺ : 26-29)
" และหากพวกเจ้าจะนับความโปรดปรานของอัลลอฮ์ พวกเจ้าก็ไม่สามารถจะคำนวณมันได้
แท้จริงอัลลอฮฺนั้น เป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาอย่างแน่นอน"
(อันนะหฺล : 18)
عمار