เตาฮีดดุ้ลอัสมาอ์วัศศิฟาต  توحيدالأسماءوالصفات  

 

  ความหมายของเตาฮีดดุ้ลอัสมาอ์วัศศิฟาตพร้อมหลักฐาน

           เตาอีดุลอัสมาอ์วัศศิฟาต คือ การศรัทธาอย่างมั่นคงว่า อัลลอฮ์   ทรงมีพระนามอันวิจิตร ทรงมีคุณลักษณะอันสูงส่ง พระองค์ทรงมีลักษณะที่พร้อมสมบูรณ์ทุกประการ ไม่มีข้อบกพร่องใดๆเลย
 
        ดังนั้น  อัลลอฮ์    ทรงมีลักษณะนามที่พระองค์ทรงบอกลักษณะตัวของพระองค์เอง      ตามที่ศาสนทูตของพระองค์ได้บอกเล่า โดยไม่จำเป็นต้องยกตัวอย่างเปรียบเทียบลักษณะของพระองค์ด้วยกับลักษณะสิ่งที่ถูกสร้างของพระองค์ และไม่ต้องปกปิด หรือปฏิเสธ หรือบิดเบือนความหมายของลักษณะเหล่านั้น  ดังเช่นที่พระองค์ตรัสไว้ใน ซูเราะฮ์อัชชูรออ์ อายะห์ที่  11  ความว่า

  “ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์  โดยที่พระองค์ทรงได้ยิน ทรงเห็น”

          พระองค์ได้ทรงยืนยันพระนามที่เป็นคุณลักษณะและทรงปฏิเสธการเสมอเหมือน หรือเทียบเท่า และอัลลอฮ์   ได้ตรัสไว้ในซูเราะฮ์ อัลอิคลาศ อายะห์ที่ 4  ความว่า

 “และไม่มีคนหนึ่งคนใดเสมอเหมือนเทียบเคียงพระองค์”

 และในซูเราะฮ์ อัลอะอ์รอฟ อายะห์ ที่ 180  ความว่า

  “และสำหรับอัลลอฮ์นั้นมี พระนามอันวิจิตร ดังนั้นพวกท่านจงขอวิงวอนพระองค์ ด้วยบรรดาพระนามเหล่านั้น และพวกเจ้าจงปล่อยทิ้งบรรดาผู้ที่เบี่ยงเบนในบรรดาพระนามของพระองค์ พวกเขาจะถูกตอบแทนสิ่งที่พวกเขาได้กระทำเอาไว้”
 
 

สำหรับบรรดาพระนามและคุณลักษณะของพระองค์

  บรรดานามอันวิจิตรของอัลลอฮ์

          บรรดาพระนามของอัลลอฮ์ นั้นมีมากมาย เราทราบเพียงบางส่วนของพระนามเหล่านั้น จาก    อัลกุรอานและอัลฮะดีษ ซึ่งยังมีบรรดาพระนามอีกที่อัลลอฮ์ทรงสงวนเอาไว้
         
   ส่วนหนึ่งของบรรดาพระนามอันวิจิตรของอัลลอฮ์ มีบอกในซูเราะห์อัลฮัชรุ อายะห์ที่  22-23-24  ความว่า

  “พระองค์คืออัลลอฮ์ ซึ่งไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีกนอกจากพระองค์ ผู้ทรงรอบรู้สิ่งเร้นลับและสิ่งเปิดเผย พระองค์คือผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

 พระองค์คืออัลลอฮ์ซึ่งไม่มีพระเจ้าอื่นใด (ที่ถูกเคารพภักดีโดยเที่ยงแท้) นอกจากพระองค์ ผู้ทรงอำนาจสูงสุด ผู้ทรงบริสุทธิ์ ผู้ทรงความสานติสุข ผู้ทรงคุ้มครองการศรัทธา ผู้ทรงปกปักรักษาความปลอดภัย ผู้ทรงอำนาจยิ่ง ผู้ทรงปราบให้เรียบร้อย ผู้ทรงความยิ่งใหญ่ มหาบริสุทธิ์แต่อัลลอฮ์ ให้พ้นจากสิ่งที่พวกเขาตั้งภาคีต่อพระองค์

พระองค์คืออัลลอฮ์ ผู้ทรงสร้างผู้ทรงบังเกิด ผู้ทรงทำให้เป็นรูปร่าง สำหรับพระองค์ คือพระนามทั้งหลายอันสวยงามวิจิตรไพเราะ สิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าและแผ่นดินต่างแซ่ซ้องสดุดีพระองค์ และพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ”
                

  บรรดาคุณลักษณะอันสูงส่งของอัลลอฮ์
 

           บรรดาลักษณะของอัลลอฮ์  มีมากมาย เช่น

          คุณลักษณะที่เป็นซาตียะฮ์  เกี่ยวกับรูปธรรม เช่น ทรงพูด ทรงได้ยิน ทรงเห็น ทรงมีชีวิต ทรงมีเจตนารม ทรงเดชานุภาพ ทรงรู้ ทรงสูงส่ง พระหัตถ์ทั้งสอง พระพักตร์ พระบาท

              คุญลักษณะที่เป็นอัลเฟียอ์ลียะฮ์  นามธรรม  เช่น   ทรงประทับ  ทรงลงมา  ทรงมา ทรงแปลกใจ ทรงปรีเปรม

  พื้นฐานที่รองรับหลักการเตาฮีดอัลอัสมาอ์และอัศศิฟาต

          มีพื้นฐานและหลักเกณฑ์หลายประการ   ที่เกี่ยวข้องกับบรรดาพระนามและคุณลักษณะของอัลลอฮ์ คือ

          1. บรรดาพระนามต่างๆ ของอัลลอฮ์ นั้นทั้งหมดเป็นพระนามที่สวยงาม และวิจิตรทั้งสิ้น ตลอดจนคุณลักษณะสูงส่งหาข้อบกพร่องมิได้เลย

         2. บรรดาพระนามและคุณลักษณะนั้นไม่จำกัดจำนวนแน่นอน และเราไม่สามารถทราบได้ทั้งหมด

            3. คุณลักษณะต่างๆ ของอัลลอฮ์  เป็นที่ทราบดี เพราะมีความหมายรู้ได้ แต่วิธีการนั้นไม่เป็นที่ล่วงรู้ได้

            4. ไม่อนุญาตให้ใช้พระนามคุณลักษณะต่ออัลลอฮ์ ตราบใดที่ไม่มีบอกไว้ในอัลกุรอานหรือฮะดีษที่ถูกต้อง

            5. ไม่จำเป็นที่จะต้องเหมือนกันถ้าใช้ชื่อเรียกเดียวกัน เพราะอัลลออฮ์เคยเรียกตัวของพระองค์เอง ด้วยชื่อที่พระองค์ใช้เรียกสิ่งถูกสร้างของพระองค์ เช่นเดียวกันที่พระองค์ให้ลักษณะของพระองค์ด้วยกับบรรดาลักษณะที่เคยบอกไว้ในที่ถูกสร้างของพระองค์ เช่นคำว่าได้ยิน เห็น มิใช่ว่าพระเจ้าทรงได้ยิน ดังเช่นที่มนุษย์ได้ยินนั้นจะเหมือนกัน หรือทรงเห็นกับที่มนุษย์เห็นจะเหมือนกันก็หาไม่

 ผลที่เกิดจากการศรัทธาต่อบรรดาพระนามและบรรดาคุณลักษณะของอัลลอฮ์

          การศรัทธาต่อบรรดาพระนามและบรรดาคุณลักษณะของอัลลอฮ์ พร้อมด้วยความรู้สึกต่อบรรดาพระนามและบรรดาคุณลักษณะอย่างยิ่งใหญ่ทั้งส่วนตัวและส่วนรวมของสังคมมนุษย์

           1.  เมื่อบ่าวได้ทราบว่าอัลลอฮ์   ทรงเป็นหนึ่งเดียวในการลงโทษ การอำนวยประโยชน์ให้ในสิ่งต่างๆหรืองดไม่ให้ เป็นผู้ให้การบังเกิด ให้ปัจจัยยังชีพ ให้เป็นและให้ตาย ซึ่งการสำนึกเช่นนี้อยู่เสมอจะเป็นผลดีกับบุคคลนั้นในการเป็นบ่าวที่ดี เพราะจะทำให้มอบหมายทุกอย่างต่ออัลลอฮ์ มีความมั่นใจในพระองค์ คิดดีต่อพระองค์เสมอ  พร้อมทั้งผูกพันกับพระองค์  อย่างหนักแน่นและมีพลัง

           2. เมื่อบ่าวอยู่ในสำนึกว่าอัลลอฮ์      ซึ่งเป็นผู้ทรงได้ยินทรงเห็น ทรงรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง จะส่งผลให้เขาระวังปากระวังคำพูด ระวังอวัยวะของร่างกาย  และความรู้สึกนึกคิดไม่ให้ตกอยู่ในสิ่งที่อัลลอฮ์      ทรงโกรธกริ้ว  เช่นเดียวกับที่จะส่งผลให้เกิดความละอายต่ออัลลอฮ์  เพราะพระองค์ทรงมองเห็นเมื่อเขาฝ่าฝืนในข้อห้ามของพระองค์ หรือละเลยต่อการปฏิบัติโดยที่พระองค์ทรงมีคำสั่งใช้

           3. เมื่อบ่าวทราบว่าพระเจ้าของเขาทรงเพียงพอในความร่ำรวย และความกว้างขวางในการแจกจ่ายหยิบยื่น เต็มไปด้วยพระเมตตา กรุณาปราณี ซึ่งจะทำให้บ่าวเกิดความหวัง และปรารถนาในความเมตตาของอัลลอฮ์ โดยพยายามทำดีเพื่อจะได้ในสิ่งที่ตนมุ่งหวังอยากได้

           4. เมื่อบ่าวยอมรับความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์ ความสูงส่งและพลังของพระองค์ จะส่งผลให้เขามีความนอบน้อมถ่อมตนต่อพระองค์ พร้อมด้วยความรักในพระองค์

           5. ทุกพระนามและทุกคุณลักษณะเป็นการเจาะจงต่อบ่าวของพระองค์ทั้งในด้านจิตใจและร่างกาย ซึ่งการเป็นบ่าวขึ้นอยู่กับข้อบ่งชี้ของความหมายแห่งบรรดาพระนามและคุณลักษณะตามความเข้าใจ

         สำหรับบรรดามุสลิม ในด้านพระนามและคุณลักษณะต่างๆ เมื่อมีความสำนึกระลึกอยู่เสมอจะทำให้การดำรงชีวิต อยู่ในเส้นทางที่เที่ยงตรงและมั่นคง พร้อมศรัทธาที่แข็งแกร่ง และจิตใจที่สงบนิ่ง

 

อ.อับดุลฆอนี  บุญมาเลิศ