การตักเตือนและการประจาน
ถึงแม้ว่าการตักเตือนและการประจานจะมีบางข้อที่เหมือนกัน นั่นคือการกล่าวถึงข้อบกพร่องของอีกฝ่าย แต่มันมีหลาย ๆ ข้อที่แตกต่างกัน
1. จุดมุ่งหมาย
การตักเตือน
การตักเตือนหรือนะศีหะฮฺเกิดจากความปรารถนาดี ต้องการให้อีกฝ่ายเปลี่ยนแปลงและได้รับสิ่งดี ๆ
การประจาน
การประจานเกิดจากเจตนาที่ไม่ดี ต้องการให้อีกฝ่ายได้รับความอับอาย ไม่ได้ต้องการให้อีกฝ่ายเปลี่ยนแปลงแต่ประการใด.
2. สำนวนวาจา
การตักเตือน
เมื่อการตักเตือนเกิดจากความปรารถนาดี ดังนั้นวิธีการตักเตือนจึงมีแต่การให้เกียรติ เป็นมิตร ไม่ประชดประเทียบ เสียดสี หรือกระทำการใด ๆ ที่ทำให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึก.
การประจาน
ก้าวร้าว ดูถูกดูแคลน ประชดประชัน เสียดสี เป็นอริ พยายามใช้สำนวนวาจาให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึก.
3. การเปิดเผย
การตักเตือน
การตักเตือนไม่ได้หวังผลจากใคร นอกจากจากผู้ถูกตักเตือน ดังนั้นการตักเตือนจึงดำเนินการอย่างลับ ๆ ระหว่างคนสองคน นั่นคือผู้ตักเตือนและผู้ถูกตักเตือน และอาจจจะมีบางกรณีที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดที่ต้องเปิดเผยแต่ต้องอยู่ในกรอบ ถ้าไม่จำเป็นก็เป็นที่ต้องห้ามที่จะเปิดเผย.
การประจาน
การประจานหวังผลจากบุคคลที่สาม ดังนั้นการประจานจึงมักมีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นมหาชนหรือคนสองคนก็ตาม.
4. การตอบรับ
การตักเตือน
ด้วยความปรารถนาดี เจตนาบริสุทธิ์ และวิธีการที่ดี ย่อมเป็นผลให้ผู้ถูกตักเตือนเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีและถูกต้องในที่สุด.
การประจาน
การประจานไม่ได้หวังผลการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องการให้อับอาย ดังนั้นบุคคลที่ถูกพาดพิงย่อมไม่มีการเปลี่ยนแปลง ตรงกันข้ามอาจกลับกลายเป็นการเพิ่มความเคียดแค้น อาฆาต.
5. หุก่ม
การตักเตือน
การตักเตือนเป็นสิ่งที่ดี ที่ศาสนาสั่งใช้ และยังถือว่าเป็นแกนหลักของศาสนา ผู้ตักเตือนจะได้รับความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ.
การประจาน
เป็นสิ่งที่ชั่วช้า ที่ศาสนาสั่งห้าม เป็นสิ่งที่บ่อนทำลายสังคม ผู้ประจานจะได้รับความโกรธกริ้วจากพระผู้อภิบาลแห่งสากลจักรวาล.
ไม่มีใครสามารถหลอกใจตัวเองได้ ดังนั้นเมื่อปากพูดหรือปากกาเขียน ก็จงถามใจตัวเองว่า: "นี่คือการตักเตือนหรือการประจาน ?"
อาบิรฺ สบีล
http://www.alhadeeth.net