อิสติฆฟาร...กับความดีงาม
  จำนวนคนเข้าชม  7828

อิสติฆฟาร...กับความดีงามเหนือคำนิยามจะบอกเล่า

 

           ในวันที่สังคมมุสลิมกำลังหั่นห่ำกันอย่างหนักในเรื่องปัญหาคิลาฟียะฮฺ (ทัศนะที่มีความเห็นแตกต่างในประเด็นปลีกย่อย)  การแบ่งขั้วแบ่งสาย  คณะใหม่-คณะเก่า  มูดอ-ตูวอ  วะฮาบียฺ-อะชาอิเราะฮฺ  แต่..เรากลับลืมเรื่องสำคัญที่เป็นประเด็นหลักเรื่อง  หะลาล-หะรอม  สุนนะฮฺ-บิดอะฮฺ  เรื่องที่มีความชัดเจนไม่ต้องตีความ  ไม่มีความขัดแย้งแต่ประการใดแต่เรากลับไม่ค่อยสนใจหรือให้ความสำคัญ

          เสมือนกับความเป็นจริงในโลกของสื่อทุกวันนี้  ข่าวสารต่างประโคมข่าวถึงคนร่ำรวยอัครอภิมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก  ใครร่ำรวยอันดับเท่าไหร่สื่อนำเสนอจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก  แต่..สื่อไม่เคยนำเสนอข่าวคนที่ขัดสน  ยากจน  หรือคนที่ต้องตายไปเพราะไม่มีอะไรจะรับประทาน  (หากจะมีก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น)  สื่อให้ความสำคัญเฉพาะคนร่ำรวย  แต่..กับคนยากจนกลับเมินเฉย

          ขณะที่เราขัดแย้งกันอย่างรุนแรงประเด็นปัญหาปลีกย่อย  ทะเลาะโต้เถียงกันถึงขั้นแยกมัสยิด  ละหมาดตามหลังกันมิได้  ไม่พูดจาสนทนาทั้งที่เป็นพี่น้องกัน

 เราขัดแย้งกันเรื่องอ่านกุนูต  แต่..เรากลับเมินเฉยการมาละหมาดศุบฮฺร่วมกับญะมาอะฮฺ

 เราขัดแย้งกันเรื่องดูเดือนเข้า-ออกศีลอดเราะมะฎอน  แต่..กลับไม่สนใจเรื่องถือศีลอดสุนนะฮฺ

 เราขัดแย้งกันเรื่องกวนอาชูรออฺ  แต่...เรากลับไม่สนใจเรื่องการถือศีลอดวันอาชูรออฺ

 เราขัดแย้งกันเรื่อง  ฯลฯ  ....

           ยังมีเรื่องง่ายๆ เบาๆ อีกเรื่อง  ที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม  ปฏิบัติเป็นประจำ  กล่าววันละมากๆ  เป็นเรื่องที่ไม่มีความขัดแย้งแต่อย่างใด  เป็นเรื่องมีคุณค่าอย่างมากมายมหาศาล

         ลองมาฟังเรื่องเล่าเบาๆ เรื่องนี้สิ!! ซึ่งหลายคนอาจเคยได้ฟังมาบ้างแล้ว  มาดูกันว่า “การอิสติฆฟาร”   มีความสำคัญ  มีคุณค่าความดีงามปานใด...

มีชายคนหนึ่งเข้ามาหาท่านอิมามฮะซัน  อัลบัศรียฺ  แล้วพูดขึ้นว่า  “โอ้ท่านอิมาม ฝนไม่ตกเลย”

ท่านฮะซัน  อัลบัศรียฺ  บอกไปว่า  “จงกล่าวอิสติฆฟารต่ออัลลอฮฺซิ!! (ขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺ)”

หลังจากนั้นไม่นานมีชายอีกคนหนึ่งเข้ามาหาท่าน  แล้วกล่าวกับท่านว่า  “โอ้ท่านอิมาม ตัวของฉันช่างยากจนขัดสนเสียเหลือเกิน”

ท่านฮะซัน  อัลบัศรียฺ  บอกไปว่า  “จงกล่าวอิสติฆฟารต่ออัลลอฮฺซิ!!”  เมื่อชายคนนั้นได้รับฟังแล้วก็เดินจากไป

ต่อจากนั้นมีชายอีกคน (คนที่สาม) เข้ามาหาท่าน พร้อมกับกล่าวว่า “โอ้ท่านอิมามเอ๋ย ภรรยาของฉันยังไม่เคยมีบุตร”

ท่านฮะซัน  อัลบัศรียฺ  บอกไปว่า  “จงกล่าวอิสติฆฟารต่ออัลลอฮฺซิ!!”

ต่อมามีชายอีกคน (คนที่สี่) เข้ามาหาท่านอีก  และกล่าวว่า  “โอ้ท่านอิมาม  แผ่นดินที่เมืองของฉันช่างแห้งแล้งเสียเหลือเกิน  ปลูกพืชพันธัญญาหารก็ไม่งอกเงย”

ท่านฮะซัน  อัลบัศรียฺ  ตอบดั่งที่ผ่านมาว่า  “จงกล่าวอิสติฆฟารต่ออัลลอฮฺซิ!!”

และต่อจากนั้นก็มีชายอีกคน (คนที่ห้า) เข้ามาหาท่านอีก  เมื่อเจอกับท่านเขาได้พูดขึ้นว่า  “โอ้ท่านอิมาม  เมืองของฉันแห้งแล้งขาดแคลนน้ำ”

ท่านฮะซัน  อัลบัศรียฺ  ตอบเช่นเดิมว่า  “จงกล่าวอิสติฆฟารต่ออัลลอฮฺซิ!!”

           จากคำตอบของท่านอิมามฮะซัน  อัลบัศรียฺ  ทำให้บรรดาผู้อยู่ร่วมในเหตุการณ์เกิดความฉงนใจมากยิ่งนัก  ดังนั้นพวกเขาจึงได้ถามท่านอิมามไปว่า 

“โอ้ท่านอิมาม  เรารู้สึกแปลกใจต่อคำตอบของท่านเป็นอย่างมาก  ทุกคนที่เข้ามาร้องทุกข์กับท่าน  ท่านได้ตอบกับพวกเขาเพียงอย่างเดียวเหมือนกันว่า  จงกล่าวอิสติฆฟารต่ออัลลอฮฺ!!  เพราะเหตุอันใดกระนั้นหรือ?” 

         ท่านอิมามฮะซัน  อัลบัศรียฺ  ได้ให้คำตอบแก่บรรดาผู้ที่นั่งร่วมเหตุการณ์ไปว่า  “พวกท่านไม่ได้อ่านคำดำรัสของอัลลอฮฺ – สุบฮานะฮู วะตะอะลา – กระนั้นหรือ?

พระองค์ทรงตรัสว่า 

“พวกท่านจงขออภัยโทษต่อพระผู้อภิบาลของพวกท่านเถิด เพราะแท้จริงพระองค์ทรงเป็นผู้อภัยโทษอย่างแท้จริง 

พระองค์จะทรงหลั่งน้ำฝนอันมากมายมาให้แก่พวกท่าน   พระองค์จะทรงเพิ่มพูนทรัพย์สินและลูกหลานแก่พวกท่าน 

และจะทรงทำให้มีเรือกสวนอันหลากหลายแก่พวกท่าน และจะทรงประทานลำธารหลายสายให้แก่พวกท่าน”  (สูเราะฮฺนูฮฺ,อายะฮฺที่ 10 - 12)

          ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม  เป็นผู้ปราศจากความผิด (มะอฺศูม) แต่ท่านยังกล่าวในวันหนึ่งไม่น้อยกว่า 70 ครั้ง  (ดั่งปรากฏในพจนารถของท่าน)  แล้วพวกเราเป็นใคร!!  ความผิดในแต่ละวันมากขนาดไหน!!  แล้วทำไมพวกเราจึงเมินเฉยไม่ค่อยกล่าวกัน…

          โปรดพิจารณา!!  และขอฝากไว้ในอ้อมกอด...กล่าวได้โดยไม่ต้องมีพิธีกรรมอันใด  ขณะที่ทำงานอื่นอยู่ก็ยังสามารถกล่าวได้.. 

          เรื่องเบาๆ  ทำง่ายๆ  ไม่ต้องลงทุน  แต่..มีผลบุญอย่างมากมายมหาศาล  และไม่มีเหตุผลอันใดอีกแล้วที่เราต้องเมินเฉยต่อความดีงามประการนี้


 โดย...ยูซุฟ   อบูบักร